PTT9: ปตท.เจนโก้ ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ร่วมมือกำจัดน้ำมันหล่อลื่นที่ใช้แล้ว

กรุงเทพ--24 ส.ค.--ปตท. ในสถานีบริการน้ำมันปตท.เขต กทม.และปริมณฑล 228 แห่ง ปริมาณประมาณ 100,000 ลิตร/เดือน เข้ากระบวนการกำจัดของเสียและสามารถนำกลับไปใช้ประโยชน์เป็นเชื้อเพลิงสังเคราะห์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาไหม้กากอุตสาหกรรม เมื่อวันที่ 21 ส.ค.2541 ได้มีพิธีลงนามโครงการความร่วมมือในการกำจัดน้ำมันหล่อลื่นที่ใช้แล้ว ระหว่างการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) กับ บริษัท บริหารและพัฒนาเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม จำกัด (มหาชน) GENCO โดยมีฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นประธานในพิธี และมีนายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ผู้จัดการใหญ่ ปตท.น้ำมัน ลงนามร่วมกับ นายสุริยะ ศุภธนสินเขษม กรรมการผู้จัดการบริษัท GENCO โครงการความร่วมมือในการกำจัดน้ำมันหล่อลื่นที่ใช้แล้ว เกิดขึ้นเนื่องจากความตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของประเทศ และปัญหาสิ่งแวดล้อมส่วนหนึ่งเกิดขึ้นจากน้ำมันหล่อลื่นที่ใช้แล้ว (ปัจจุบันจัดเป็นสารอันตรายตาม พรบ.โรงงาน พ.ศ.2535 เรื่องการกำจัดสิ่งปฎิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วประกาศวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ.2540) ที่ตกค้างอยู่ตามสถานีบริการน้ำมันต่าง ๆ อู่ซ่อมรถ โรงงานอุตสาหกรรมและศูนย์บริการต่าง ๆ ถูกกำจัดอย่างไม่ถูกต้องก่อให้เกิดผลกระทบทั้งด้านเศรษฐกิจและเป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยเหตุนี้จึงได้มีความร่วมมือในการกำจัดน้ำมันหล่อลื่นที่ใช้แล้วขึ้น โดยในเบื้องต้น ปตท.จะนำน้ำมันหล่อลื่นที่ใช้แล้วจากสถานีบริการน้ำมันปตท.ในเขต กทม.และปริมณฑล 228 แห่ง จำนวนประมาณ 100,000 ลิตร/เดือน ออกไปจากสถานีบริการน้ำมันอย่างมีระบบ โดยร่วมมือกับบริษัท GENCO ทำการจัดเก็บน้ำมันหล่อลื่นที่ใช้แล้วเข้ากระบวนการกำจัดของเสีย โดยผสมกับกากอุตสาหกรรมประเภทอินทรีย์ ที่สามารถกำจัดได้ด้วยการเผาส่วนผสมของน้ำมันหล่อลื่นใช้แล้วและกากอุตสาหกรรมดังกล่าวจะถูกผสมให้มีคุณสมบัติที่เหมาะสมก่อนนำไปเผาทำลายทิ้งในเตาเผาของโรงงานอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมปูนซิเมนต์ น้ำมันหล่อลื่นที่ใช้แล้วเมื่อผสมกับการอุตสาหกรรมนั้น มีพลังงานความร้อนและใช้แทนเชื้อเพลิงได้บางส่วน จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "เชื้อเพลิงสังเคราะห์" ซึ่งในการเผาเพื่อทำลายเชื้อเพลิงสังเคราะห์นี้ นอกจากเป็นการกำจัดน้ำมันหล่อลื่นที่ใช้แล้วรวมทั้งกากอุตสาหกรรมบางประเภทแล้ว ยังเป็นการช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายของโรงงานอุตสาหกรรมอีกทางหนึ่งด้วย การลงนามความร่วมมือดังกล่าวนี้มีกำหนดระยะเวลาประมาณ 3 ปี นับจากวันที่ลงนามฯ ซึ่งนอกจากจะเป็นการช่วยรักษาและคำนึงถึงผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมได้อย่างถูกวิธีแล้ว ยังเป็นการสกัดกั้นแหล่งที่มาของน้ำมันหล่อลื่นคุณภาพต่ำหรือน้ำมันเครื่องปลอมนอกระบบ ซึ่งผลิตมาจากน้ำมันหล่อลื่นที่ใช้แล้วไปผสมใหม่เป็นการช่วยคุ้มครองผู้บริโภค ที่จะถูกเอาเปรียบจากผู้ผลิตที่ดำเนินการไม่ถูกต้องได้อีกทางหนึ่งด้วย--จบ--

• ข่าวบริหารและพัฒนาเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
• ข่าวการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย
• ข่าวปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย
• ข่าวเชื้อเพลิงสังเคราะห์
• ข่าวอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม