กรุงเทพ--2 พ.ย.--ออราเคิล ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย)
นายณัฐศักดิ์ โรจนพิเชฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัทออราเคิล ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงความเคลื่อนไหวในวงการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ว่า เว็บไซต์ชั้นนำของโลก 69% ใช้เทคโนโลยีของออราเคิล และกว่า 70% ของผู้ที่ไม่ได้ใช้ออราเคิลมีแผนการประเมินเพื่อจะหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ของออราเคิล ภายในระยะเวลา 6เดือนข้างหน้าจากที่ออราเคิลมีส่วนแบ่งการใช้เทคโนโลยีเพื่อเป็นฐานของไซต์งานชั้นนำถึง69% ที่เหลือ 12% ใช้ระบบแบคเอ็นแบบชั่วคราว 9% ใช้ไมโครซอฟต์ เอสคิวแอล 6%ใช้อินฟอร์มิกซ์ 3% ใช้ DB2 และ 3% ใช้โลตัส
ข้อมูลเหล่านี้ เป็นผลจากการทำวิจัยของ Los Altos บริษัททำวิจัยที่มีฐานอยู่ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย(www.collaborativeresearch.com) ซึ่งรายงานได้จัดทำขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์โดยทำการสำรวจเว็บไซต์ อิเล็กทรอนิกส์ ในระดับแนวหน้าจำนวน 33 ไซต์ด้วยกันตามความเห็นจากนักวิเคราะห์ ผู้บริหาร และผู้ใช้งานจริงว่าเป็นเว็บไซต์ที่ดีที่สุด ทั้งนี้บริษัทวิจัยได้สัมภาษณ์ฝ่ายบริหารขององค์กรเจ้าของเว็บไซต์ในเชิงลึกเพื่อประเมินสถานการณ์ และทิศทางในอนาคตของการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์รวมถึงวิธีการในการพัฒนาเว็บไซต์และการบำรุงรักษาตลอดจนการวางแผนพัฒนาเว็บไซต์เหล่านั้นต่อไปในอนาคต
ผลจากรายงาน แสดงให้เห็นว่า 85%ของไซต์งานชั้นนำเหล่านี้ต่างรวมระบบงานส่วนหลังไว้ในเว็บไซต์เนื่องจากเป็นความท้าทายสูงสุดในปัจจุบัน ที่องค์กรต่างๆส่วนใหญ่ต้องการรวมระบบฐานข้อมูลเพื่อจะสร้าง Dynamic HTML pages โดยประมาณ 70% ได้ดำเนินงานดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว ในขณะที่การรวม ระบบ ERP/ERM และ EDI เป็นส่วนสำคัญเป็นอันดับสองของการรวมระบบเข้ากับไซต์ดังกล่าว และปัจจุบัน91% ของไซต์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ได้รวม หรือมีแผนงานที่จะรวมระบบ ERP/ERM หรือ EDI ไว้ด้วยกัน เพื่อเสริมการทำงานด้านการตรวจสอบระบบเก็บเงินและระบบสินค้าคงคลัง ได้ทันทีที่มีการซื้อขายแบบออนไลน์
การทำวิจัยครั้งนี้ ได้ใช้มาตรฐานหลัก 2 ประการในการรวมเว็บไซต์เพื่อทำการศึกษา ได้แก่ จำนวนผู้ใช้งานและจำนวนครั้งที่ผู้ใช้เข้ามายังเว็บไซต์การทำธุรกรรมรวมถึงจำนวนยอดเงินจากการทำธุรกรรมดังกล่าวนอกจากนี้ยังทำการศึกษาถึงองค์กรที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมจากเว็บไซต์ด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำและจากสื่อมวลชนสายหลักทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเว็บไซต์ที่ทางบริษัทวิจัยได้ทำการสำรวจ ได้แก่ 1-800-FLOWERS, 3Com,Adaptec, Amazon.com, American Express, CD Now, Cisco, Computer SuperStore, Disney Online, Egghead.com, Excite, Fast Parts, FedEx, FirstAuction, Fruit of the Loom, GE TPN Mart, Gulfstream, Home Arts, IngramMicro, Intuit (Quicken.com), JC Penny, Lands End, Microwarehouse, MusicBlvd, Office Depot, PC Mall, Peapod, REI, Starwave, Ticketmaster,Virtual Vineyards, Wells Fargo Online, and Yahoo!
ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่แห่งอนาคตนี้ เห็นได้จาก ไซต์งานจำนวน 61%จะมีการรวมโซลูชั่นด้านระบบคลังจัดเก็บข้อมูลไว้ในไซต์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์และเชื่อมโยงเข้ากับแผนงานด้านการตลาดแบบอินเตอร์แอกทีฟซึ่งทำให้เป็นการเชื่อมโยงระบบทั้งหมดตั้งแต่ร้านค้าจนถึงระบบงานภายในให้อยู่ในเว็บไซต์การรวมข้อมูลที่ล้ำหน้าเข้ากับการเก็บสถิติของลูกค้าในระบบคลังจัดเก็บข้อมูลดังกล่าวช่วยให้ระบบฐานข้อมูลที่มีอยู่กลายเป็นกลไกในการกำหนดราคา เพื่อเข้าถึงตัวลูกค้าเฉพาะรายได้ พร้อมเสนอกิจกรรมส่งเสริมการขาย และให้ส่วนลดแก่ลูกค้าประจำ
15% ขององค์กรชั้นนำ ใช้เงินลงทุนไปกับไซต์ของตนประมาณ 500,000 เหรียญสหรัฐ33% จ่ายเงินตั้งแต่ 500,000 ถึง 2.5 ล้านเหรียญสหรัฐ และอีก 52%จ่ายมากกว่า 2.5 ล้านเหรียญ ทั้งหมดแสดงให้เห็นถึงเงินจำนวนมากที่ลงทุนไปกับไซต์ขององค์กร ค่าใช้จ่ายในการพัฒนาไซต์เหล่านั้นนับเป็นส่วนแบ่งจำนวนมากจากการรวมระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เข้ากับระบบงานส่วนหลังแบบเดิมที่มีอยู่ทั้งที่เป็นระบบเมนเฟรมก็ตามค่าใช้จ่ายในการรวมระบบโดยเฉลี่ยจำนวนสองในสามเท่าของทั้งหมดมาจากค่าใช้จ่ายโดยรวมของการพัฒนาไซต์
"การรวมระบบงานส่วนหลัง เป็นปัญหาหลักในการพัฒนาไซต์ที่ได้มาตรฐานโดยเฉพาะอย่างยิ่งการมุ่งเน้นในการเชื่อมงานด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์จากระบบงานส่วนหน้าไปสู่ระบบงานส่วนหลัง"นายสก็อต คอลลิสัน นักวิเคราะห์งานวิจัยอาวุโส แห่ง Collaborative Research กล่าว "ในการพูดคุยกับทีมงานบริหารไซต์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ใจความสำคัญส่วนใหญ่อยู่ที่ความสำคัญของระบบฐานข้อมูลและโปรแกรมสำเร็จรูปที่ใช้ร่วมกันจะเป็นตัวกำหนดการทำงานของไซต์"
"นอกจากการหาลูกค้าใหม่ๆ พร้อมนำเสนอช่องทางจัดจำหน่ายเสริมเพื่อการขายไซต์แห่งอนาคตนี้สามารถให้ประโยชน์มหาศาลจากการรวมระบบงานส่วนหลังเข้ากับคุณลักษณะเฉพาะของลูกค้าซึ่งเป็นข้อมูลที่ได้จากระบบคลังจัดเก็บข้อมูล" นายสตีฟ เลวิน ผู้อำนวยการอาวุโส ด้านการตลาดผลิตภัณฑ์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของออราเคิล กล่าว"ในการแข่งขันด้านการขายในงานส่วนหน้า ต่างคนต่างก็มีสิทธิ์ชนะการแข่งขัน แต่จุดมุ่งหมายในตอนนี้คือการให้บริการเสริมนอกเหนือจากการขายในส่วนหน้าซึ่งออราเคิลเองได้กำหนดบทบาทไว้อย่างเหมาะเจาะในการเป็นกำลังสำคัญเพื่อผลักดันพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไปสู่อนาคตโดยใช้จุดแข็งด้านระบบฐานข้อมูลเป็นปัจจัยหลักพร้อมด้วยความสามารถและความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านการให้คำปรึกษาทางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์"
Collaborative Research เป็นแผนกที่ทำงานวิจัยตลาด ของฝ่ายการตลาด Collaborative บริษัท Los Altos ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำงานด้านการตลาดอินเตอร์เน็ต มีฐานอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียประเทศสหรัฐอเมริกา Collaborative Research มุ่งเน้นเทคโนโลยีและตลาดอินเตอร์เน็ตเป็นหลัก รวมถึงแหล่งที่สร้างรายงานที่ตีพิมพ์ในเชิงลึกและการวิเคราะห์เพื่อลูกค้าหลายประเภทอีกทั้งเป็นผู้ให้การสนับสนุนการประชุมใหญ่ๆ ในอุตสาหกรรม ส่วนฝ่ายการตลาด Collaborative จะให้บริการด้านการวิจัยตลาดรวมถึงบริการในการเป็นปรึกษาทางด้านกลยุทธ์ในตลาดอินเตอร์เน็ตที่อัตราเติบโตมหาศาล รายละเอียดเพิ่มเติม เปิดดูได้ที่ www.collaborativeresearch.com.
สอบถามรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ : วิภาดา สงวนเสรีวานิช บริษัท 124 คอมมิวนิเคชั่นส จำกัด โทร 331-9384-5--จบ--