กรุงเทพ--9 มี.ค.--ซีดีจี เฮ้าส์
ซีดีจีเอ็มปรับยุทธศาสตร์ลุยตลาดซบเซาปี 41 หันเล็งธุรกิจงานประมูลขนาดใหญ่จากบริษัทต่างชาติและสถาบันการเงินการธนาคารเป็นหลัก ระบุธุรกิจบริการ Professional service วิ่งฉิวเซ็นสัญญาต่อเนื่องหลายโครงการแล้ว ด้านตลาดโน้ตบุ๊คและเซิร์ฟเวอร์ยังโตไม่หยุด ด้วยปัจจัยด้านการตอบสนองความสะดวก และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เผยเข้าร่วมชิงดำประมูลเครื่องคอมพ์ปรส.เดือนเมษายนนี้ พร้อมเตรียมจัดโมเดลอัพเกรดเครื่องเสนอเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าเดิม
นายเชวง ธนาพันธรักษ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซีดีจี ไมโครซิสเต็มส์ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการเครื่องคอมพิวเตอร์คอมแพค, โตชิบา และฮิวเล็ตต-แพคการ์ด เปิดเผยถึงแนวทางการรุกตลาดภายหลังการเสริมศักยภาพของทีมงานภายใต้คอนเซ็ปท์ Aggressive ว่า ปัจจุบันอัตราการเติบโตของการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปในกลุ่มองค์กรธุรกิจทั่วไปมีจำนวนลดลงมากกว่า 30% ซึ่งสูงกว่าที่บริษัทได้ประเมินสถานการณ์ไว้เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ดังนั้นแผนงานในการทำตลาดจึงมุ่งไปยัง 2 กลยุทธ์หลัก นั่นคือ เน้นงานประมูลที่มีขนาดใหญ่จากองค์กรที่มีความมั่นคง และธุรกิจการบริการ Professional Service
"เราพยายามจะจับกลุ่มองค์กรธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ขึ้นในเรื่องของโปรเจ็กต์ หมายความถึงว่า เราจะมุ่งสร้างงานประมูลขนาดใหญ่ที่ใช้พีซี, เซิร์ฟเวอร์จำนวนมาก โดยกลุ่มเป้าหมายก็คือ บริษัทต่างชาติ และสถาบันการเงินการธนาคาร" นายเชวงกล่าว
ทั้งนี้รูปแบบของงานประมูลที่จะมีขนาดใหญ่ขึ้น จะแบ่งได้เป็น งานประมูลที่ใหญ่ด้วยขนาดและมูลค่าของตัวงานเอง กับงานประมูลที่มีการจำหน่ายสินค้ามูลค่าเพิ่ม (Value Add) เข้าไป อาทิ แอพพลิเคชั่น หรืออุปกรณ์ต่อเชื่อม เป็นต้น
อย่างไรก็ดีซีดีจีเอ็มยังคงเน้นธุรกิจการบริการ Professional Service เป็นหลักอย่างต่อเนื่อง โดยมีการประมาณการรายได้ในปี 2541 นี้ไว้ 30 ล้านบาท จากยอดจำหน่ายรวมที่ตั้งไว้ 560 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้เริ่มมีรายได้แสดงให้เห็นเป็นรูปธรรม โดยมีการเซ็นสัญญาไปหลายโครงการแล้ว
สำหรับอัตราการเติบโตของเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คยังมีสัดส่วนที่ดีทั้งในองค์กรธุรกิจ และโฮมยูส เนื่องจากคอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น และอุปกรณ์ต่อเชื่อมกับเครือข่ายก็มีเพิ่มขึ้นสร้างความสะดวกในการทำงาน ประกอบกับผู้ใช้เป็นผู้ที่มีความรู้และเคยใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ระดับเดสก์ท็อปมาก่อน จึงไม่ค่อยมีปัญหาตามมาภายหลัง อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากบริษัทแม่ให้ส่งมาซ่อมโดยตรงหากเครื่องเกิดปัญหา
ดังนั้นเมื่อถึงระยะเวลาหนึ่งแล้ว สัดส่วนการใช้เครื่องโน้ตบุ๊คจะเท่ากับเครื่องเดสก์ท็อป แต่จะใช้เวลานานเท่าไรยังไม่สามารถบ่งชี้ชัดลงไปได้ ด้วยเหตุผลทางด้านราคาที่ยังสูงอยู่มาก ทั้งนี้เพราะต้นทุนในการผลิตสูง โดยซีดีจีเอ็มได้วางแผนที่จะเพิ่มผลิตภัณฑ์ให้มีหลายหลากยี่ห้อมากขึ้นนอกเหนือไปจากคอมแพค, โตชิบาและไอบีเอ็ม เพื่อให้ลูกค้าได้มีโอกาสเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับความต้องการมากที่สุด
นายเชวงกล่าวต่อถึงตลาดเครื่องคอมพิวเตอร์ระดับเซิร์ฟเวอร์ว่า ในขณะที่สภาวะการเติบโตของกลุ่มองค์กรธุรกิจลดลง แต่เครื่องเซิร์ฟเวอร์กลับมีบทบาทเพิ่มขึ้น เนื่องจากประสิทธิภาพของการทำงานเป็นสิ่งที่จะลดลงไม่ได้ จึงต้องการเครื่องมือเข้ามาเสริมในจุดนี้ เพราะฉะนั้นตลาดเซิร์ฟเวอร์จึงยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
สำหรับในกรณีขององค์การปฎิรูปสถาบันการเงิน (ปรส.) ที่ได้เตรียมนำคอมพิวเตอร์ของ 56 ไฟแนนซ์ที่ถูกสั่งปิดกิจการออกมาประมูลขายราวเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ นายเชวงกล่าวว่า ซีดีจีเอ็มมีความสนใจและอยู่ในระหว่างการเตรียมการที่จะเข้าร่วมประมูล เนื่องจากมีลูกค้าระดับองค์กรจำนวนหนึ่งมีความต้องการ แต่ยังไม่สามารถระบุจำนวนเครื่องที่จะประมูลเข้ามาได้ ต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายอีกประการ อาทิ
1.ต้องทราบปริมาณ หรือความต้องการของลูกค้าที่แน่นอนก่อนว่ามีอยู่เท่าไร เพราะอุปสรรคในการเก็บสินค้าไม่สามารถใช้เวลานานได้ หากประมูลเข้ามาจำนวนมากแล้วระบายสินค้าออกไม่ทัน จะเกิดปัญหาตามมาภายหลัง อีกทั้งยังมีปัญหาในเรื่องระยะเวลาการรับประกัน 2.ราคาของเครื่องไม่ควรจะเกิน 50% จากราคาเครื่องใหม่(First Hand) และ 3.คุณสมบัติขั้นต่ำของเครื่องต้องเป็นระดับเพนเทียม 100 ขึ้นไป
“ตลาดเครื่องคอมพิวเตอร์มือสอง มีแนวโน้มที่จะเกิดได้ในประเทศไทย เนื่องจากการปรับราคาขึ้นตามค่าเงินบาทของเครื่องคอมพิวเตอร์มือหนึ่ง ซึ่งจะขยายตัวควบคู่ไปกับตลาดอัพเกรดเครื่อง เพราะปัจจุบันจำนวนลูกค้าเก่าที่ต้องการอัพเกรดเครื่องมีเพิ่มมากขึ้น แทนที่จะต้องไปซื้อเครื่องใหม่ เช่นเดียวกันกับเครื่องคอมพิวเตอร์มือสองก็ต้องมีการอัพเกรดเครื่อง เราจึงอยู่ในระหว่างการหาข้อมูล
เพื่อจัดเตรียมเป็นโมเดลไปเสนอลูกค้า มิฉะนั้นจะเกิดความหลากหลายและอาจไม่ตรงกับคุณสมบัติที่ลูกค้าต้องการ” นายเชวงกล่าวในตอนท้าย
บริษัท ซีดีจี ไมโครซิสเต็มส์ จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2537 เป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องคอมพิวเตอร์คอมแพค, โตชิบา และฮิวเล็ตต-แพคการ์ด นอกจากนี้ยังได้รับการแต่งตั้งเป็นบริษัทคู่ค้าของไมโครซอฟท์ภายใต้ชื่อ ไมโครซอฟท์ เซอร์ติฟายด์ โซลูชั่น โพรไวเดอร์ และบริษัทคู่ค้าของโนเวลล์ภายใต้ชื่อ โนเวลล์ แพลทตินัม รีเซลเลอร์ และล่าสุดได้รับการแต่งตั้งจากบริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ภายใต้ชื่อ อินเทล โซลูชั่น พาร์ตเนอร์ โดยสามารถทำยอดรายได้รวมในปี 2540 ที่ผ่านมา 560 ล้านบาท
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ชุติมา สินเชาว์ทอง ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ซีดีจีกรุ๊ป โทร : 678-0200 ต่อ 2997-8 โทรสาร : 678-0324-3 E-Mial : [email protected] จบ--
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit