กรุงเทพ--25 พ.ค.--ธนาคารไทยทนุ
โครงการปฏิรูปขั้นตอนการทำงาน และระบบเทคโนโลยีใหม่ตามแผนแม่บทของไทยทนุถึงขั้นตอนการนำระบบงานลงสาขา เผยการใช้ระบบบริหารงานสาขา (Branch Banking System) จากบริษัทดิจิตอล (ประเทศไทย) ซึ่งเหมาะสำหรับการทำงานในสาขารูปแบบใหม่ โดย DBS Bank ได้ส่งผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิดเพราะเป็นระบบเดียวกับกับ DBS Bank
นายพรสนอง ตู้จินดา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารไทยทนุ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า โครงการพัฒนาระบบเทคโนโลยีใหม่ของธนาคาร หรือ โครงการ TDBITS (Thai Danu Bank Information Technology System) เป็นโครงการตามแผนแม่บทเทคโนโลยีของธนาคาร ในการที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการนำเสนอบริการแก่ลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยได้มีการลงทุนไปกว่า 600 ล้านบาท ขณะนี้ได้มีการทยอยนำระบบงานใหม่ใช้งานแล้ว เช่น ระบบ G/L (General Ledger) ซึ่งจะทำให้ระบบข้อมูลทางด้านบัญชีของธนาคารรวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
"สำหรับการบริหารระบบสาขา (Branch Banking System) นั้น ธนาคารได้ตัดสินใจเลือกใช้ระบบเปิด ซึ่งเป็นของ บริษัทดิจิตอล คอร์ปอเรชั่น มีมูลค่าประมาณ 140 ล้านบาท ระบบนี้มีประสิทธิภาพมาก มีความทันสมัย และง่ายต่อการใช้งาน ทางบริษัทดิจิตอลจะเป็นผู้ติดตั้งฮาร์ดแวร์และซอร์ฟแวร์ พร้อมกับบริการรักษาซ่อมบำรุง เพราะมีศูนย์ บริการอยู่ทั่วประเทศ และเหตุผลที่สำคัญอีกประการหนึ่งที่ธนาคารเลือกใช้ของดิจิตอลก็คือ ระบบนี้เป็นระบบเดียวกับที่ DBS Bank ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งจะทำให้การติดต่อสื่อสารด้านข้อมูลต่าง ๆ ตลอดจนการถ่ายทอดเทคโนโลยีเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว และในอนาคตทั้งธนาคารไทยทนุและ DBS Bank จะสามารถใช้ประโยชน์จากเครือข่ายของแต่ละธนาคารตลอดจนสามารถดำเนินธุรกิจร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ"
นายพรสนอง กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ DBS Bank ได้ส่งผู้เชี่ยวชาญมาให้คำปรึกษาและเข้าร่วมในคณะทำงานอย่างใกล้ชิด เพื้อให้การนำระบบงานลงสาขาเสร็จภายในปี 2541 นอกจากนี้ธนาคารก็ยังได้มีการเตรียมความพร้อมของพนักงานโดยจัดอบรมทั้งทางด้านการตลาด, วิธีการปฏิบัติงานในระบบใหม่ เพื่อให้พนักงานสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีได้อย่างเต็มที่
"ในอนาคตอันใกล้นี้การให้บริการแก่ลูกค้าของธนาคารไทยทนุจะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสามารถนำเสนอรูปแบบบริการที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์ยิ่งขึ้น" นายพรสนองกล่าวในที่สุด--จบ--