กรุงเทพ--29--สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
คณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติชุดใหม่ ระดมสมอง หาแนวทางและข้อสรุปในการพัฒนาบัญชียาหลักให้เหมาะสมกับภาวะปัจจุบัน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการเข้ารับการรักษาพยาบาลของผู้ป่วย
นายธีระวัฒน์ ศิริวันสาณฑ์ รัฐมตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณะสุข และ ศ.น.พ.จรัส สุวรรณเวลา ประธานคณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติ พร้อมคณะผู้บริหารของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับข้อสรุปการประชุมเพื่อปรับปรุงบัญชียาหลักของคณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติ ซึ่งประชุมไปเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2541 ว่า จากการที่รัฐบาลได้ประกาศให้มีการใช้มาตรการระยะสั้น เพื่อลดค่าใช้จ่ายสวัสดิการการรักษาพยาบาลในปีงบประมาณ 2541 และมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2541 ที่ผ่านมา โดยกำหนดให้ผู้ป่วยที่เข้ารักษาพยาบาลในสถานพยาบาลของทางราชการ ทั้งประเภทผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในมีสิทธิเบิกค่ายาได้เฉพาะยาที่อยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติที่คณะกรรมการแห่งชาติด้านยากำหนดเท่านั้น หากผู้ป่วยจะใช้ยานอกบัญชียาหลักแห่งชาติจะต้องรับภาระค่ายาเอง เว้นแต่กรณีมีความจำเป็นให้คณะกรรมการแพทย์ที่ผู้อำนวยการสถานพยาบาลแต่งตั้งเป็นผู้วินัจฉัยและออกหนังสือรับรองให้เพื่อใช้ประกอบการเบิกจ่ายนั้น ภายหลังจากมีการนำหลักเกณฑ์นี้ไปปฏิบัติ ปราฎว่า มีผู้ร้องเรียนผ่านทางสื่อมวลชนและหน่วยงานต่างๆ ว่าได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากบัญชียาหลักแห่งชาติไม่ครอบคลุมยาที่จำเป็นต้องใช้ในการรักษา กระทรวงสาธารณสุข เล็งเห็นถึงความสำคัญของปัญหาดังกล่าว จึงมีนโยบายที่จะปรับปรุงบัญชียาหลักแห่งชาติให้เป็นปัจจุบันและครอบคลุมโรคต่างๆ มากขึ้น คณะกรรมการแห่งชาติด้านยาได้จัดตั้งอนุกรรมการชุดใหม่ขึ้นมา 1 ชุด คือ คณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติ มีหน้าที่กำหนดแนวทางพัฒนาและกลวิธีการดำเนินการพิจารณาร่างบัญชียาหลักให้เหมาะสม เสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้เลย ซึ่งได้มีการประชุมระดมสมอง เพื่อหาแนวทางรูปแบบในการพัฒนายาในบัญชียาหลักแห่งชาติให้เหมาะสมกับสภาวะปัจจุบัน
ที่ประชุมได้เสนอหลักการและแนวทางคัดเลือกยาเพื่อปรับปรุงการจัดทำบัญชียาหลักแห่งชาติใหม่ โดยยึดหลักการปรับปรุงบัญชียาหลักปี 2539 เป็นพื้นฐานในการกำหนดหลักการ ทั้งนี้การดำเนินการของคณะอนุกรรมการชุดนี้ ได้เสนอแต่งตั้งคณะทำงานพัฒนาบัญชียาหลักขึ้น 22 สาขา เพื่อทำหน้าที่พิจารณารายการยาหลักที่จะปรับปรุง เสนอร่าง รายการยาหลักในสาขาที่รับผิดชอบของแต่ละสาขา โดยแต่ละสาขาจะมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางรับผิดชอบดำเนินการเสนอรายการยาต่อคณะอนุกรรมการชุดนี้เพื่อจะได้นำเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการทรวงสาธารณสุขได้เลย โดยไม่ต้องเข้าที่ประชุมของคณะกรรมการแห่งชาติด้านยา เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการพัฒนาในบัญชีให้มีความเหมาะสม ซึ่งคณะอนุกรรมการชุดนี้จะมีการประชุมพิจารณาปรับปรุงและพัฒนายาในบัญชียาหลักใหม่นี้บ่อยครั้งมากขึ้น--จบ--