กรุงเทพ--30 ธ.ค.--กระทรวงสาธารณสุข
พบผู้ว่างงานในภาคอีสานมีความเครียดสูงกว่าภาคอื่นๆ กรมสุขภาพจิตรุกถ่ายทอดเทคนิคการคลายเครียดแก่ผู้นำชุมชน ผู้นำครอบครัว หวังสร้างเสริมสุขภาพจิตที่ดี ช่วยให้ผู้ประสบปัญหาจากสภาวะเศรษฐกิจ สามารถนำตนเองและครอบครัวผ่านพ้นวิกฤตของชีวิตไปได้
นายธีระวัฒน์ ศิริวันสาณฑ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดการสัมมนา เรื่อง "ชีวิตไม่สิ้นหวัง" ที่โรงแรมเจริญธานีปริ๊นเซส จังหวัดขอนแก่น ว่า ปัญหาเศรษฐกิจในขณะนี้ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากต้องกลายเป็นคนว่างงาน นอกจากปัญหาเรื่องปากท้องแล้ว ปัญหาสุขภาพจิตก็มีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะสำหรับชาวอีสานซึ่งเคยมีการเคลื่อนย้ายเข้าไปทำงานในส่วนกลางเป็นจำนวนมากขึ้น หลายคนต้องกลับมายังภูมิลำเนาโดยไม่มีอาชีพและรายได้รองรับ จึงเกิดปัญหาความเครียดตามมา จากการสำรวจของกรมสุขภาพจิตพบว่า ผู้ที่ว่างงานเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งนี้ ทั่วประเทศมีความเครียดสูงถึงร้อยละ 79 ในจำนวนนี้ เมื่อเปรียบเทียบความเครียดของผู้ว่างงานระหว่างภาคต่างๆ พบว่า ผู้ว่างงานในภาคอีสานมีความเครียดสูงกว่าภาคอื่นๆ คือ ผู้ว่างงานชาวอีสานประมาณร้อยละ 94 มีความเครียด ในขณะนี้ผู้ว่างงานในภาคใต้มีความเครียดรองลงมาคือประมาณร้อยละ 88 ผู้ว่างงานในภาคกลางและภาคเหนือเครียดร้อยละ 82
ในฐานะที่ตนเป็นผู้ดูแลและควบคุมกำกับงานของกรมสุขภาพจิต จึงได้มอบนโยบายให้เร่งจัดตั้งเครือข่ายการบริการให้คำปรึกษาทางโทรศัพท์ และให้จัดตั้งคลีนิคคลายเครียดในโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไปและโรงพยาบาลเอกชน ที่มีความพร้อมทั่วประเทศ ให้เร่งรณรงค์เผยแพร่ความรู้ในการดูแลสุขภาพจิตตนเองและบุคคลใกล้ชิด รวมทั้งให้เผยแพร่เครื่องมือทดสอบความเครียดแบบง่ายๆ ที่ประชาชนทุกระดับ สามารถนำไปประเมินและวิเคราะห์ความเครียดของตนเองได้
การจัดสัมมนาครั้งนี้ นับเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่มุ่งดูแลสุขภาพจิตประชาชน โดยการอบรมแม่บ้าน อาสาสมัคร ผู้นำครอบครัว ผู้นำชุมชน จำนวนกว่า 200 คน ให้มีความรู้เรื่องการดูแลสุขภาพจิตตนเองและครอบครัว เพื่อมิให้ปัญหาความเครียดของชาวอีสาน ลุกลามกลายเป็นปัญหาสุขภาพจิตรุนแรงมากขึ้น โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ เช่น อธิบดีกรมสุขภาพจิต บรรยายเรื่อง เทคนิคคลายเครียดในภาวะเศรษฐกิจถดถอย และมีคุณจรวยพร ธรนินทร์ และนายสุริยันต์ อริยวงศ์โสภณ หรือ หมอหยอง หมอดูชื่อดัง ร่วมเติมกำลังให้ผู้เข้าร่วมสัมมนา
ในโอกาสนี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้นำ ส.ค.ส. 2541 ซึ่งจัดทำเป็นแบบประเมินและวิเคราะห์ความเครียดด้วยตนเอง เป็นแผ่นพับเล็กๆ สามารถพกติดตัวได้ แจกจ่ายแก่ผู้เข้าร่วมสัมมนาและประชาชนทั่วไป โดยกล่าวว่าเป็น ส.ค.ส. ที่มีคุณค่า และผู้รับสามารถใช้ให้เกิดประโยชน์ ทั้งกับตนเองและบุคคลใกล้ชิด เหมาะสมกับยุคที่ต้องการเน้นความประหยัดอย่างเช่นปัจจุบัน--จบ