กรุงเทพ--18 ก.พ.--เดลฟาย ออโตโมทีฟ
เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท เจเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น จำกัด (จีเอ็ม) ได้แถลงผลประกอบการรวมประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2540 (ดังในข่าวประชาสัมพันธ์ที่แนบมา) ซึ่งรวมถึงผลประกอบการในไตรมาสที่ 4 ของเดลฟาย ออโตโมทีฟ ซิสเต็มส์ ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือจีเอ็มและเป็นผู้ผลิตระบบชิ้นส่วนยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดและหลากหลายที่สุดในโลกด้วย โดยข้อมูลสำคัญในส่วนของเดลฟายมีดังต่อไปนี้
- ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2540 ที่ผ่านมา เดลฟายมีรายได้ทั้งสิ้น 265 ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบกับ 56 ล้านเหรียญสหรัฐในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2539 ส่วนรายได้ของทั้งปี 2540 นั้นอยู่ที่ 860 ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบกับ 728 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2539
- ส่วนต่างผลกำไรสุทธิ (net-profit margin) ประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2540 อยู่ที่อัตรา 3.9% เทียบกับ 3.3% ของทั้งปี 2540
- ในปี 2540 เดลฟายมียอดขายรวมจากกิจการที่บริษัทถือหุ้นทั้งหมดและกิจการร่วมทุนในภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิกประมาณ 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 35%
- การรวมกิจการเดลโค อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือจีเอ็มที่รับผิดชอบการผลิตระบบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับยานยนต์เข้ากับเดลฟายที่มีผลตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2540 ได้ส่งผลให้เดลฟายอยู่ในฐานะผู้นำของอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ให้ก้าวเข้าสู่ยุคแห่งการผลิตระบบชิ้นส่วนยานยนต์แบบครบวงจร ซึ่งความสามารถในด้านอิเล็กทรอนิกส์นี้ถือเป็นหัวใจสำคัญต่อระบบการผลิตแบบครบวงจร บริษัทฯ จะสานต่อการผสานความเชี่ยวชาญของเดลฟาย เดลโค อิเล็กทรอนิกส์ ซิสเต็มส์ มาสู่ผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิตของเดลฟาย
- “ในปีที่ผ่านมา เดลฟายประสบกับปัญหาท้าทายหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราที่ไม่เอื้อต่อธุรกิจเท่าไรนัก สภาพการแข่งขันในตลาดที่นำไปสู่การใช้กลยุทธ์ลดราคาชิ้นส่วน รวมไปถึงปัญหาจากโรงงานรับจ้างผลิต (โออีเอ็ม) ที่มีการปรับเปลี่ยนประเภทสินค้าที่ผลิตกันในอัตราที่สูง ส่งผลให้มีต้นทุนสูงขึ้นเนื่องจากมีการผลิตสินค้าใหม่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม เราสามารถรับมือกับปัญหาเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี และยังคงก้าวไปข้างหน้าตามขั้นตอนที่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นในด้านของผลิตภัณฑ์หรือกระบวนการก็ตาม” มร. เจ.ที. แบทเทนเบิร์กที่ 3 ประธานของเดลฟายกล่าว
- เดลฟายยังคงให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่องกับการขยายธุรกิจ โดยในปีที่ผ่านมา ยอดขายจากลูกค้านอกเครือจีเอ็มในอเมริกาเหนือยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คิดเป็นสัดส่วน 38% ของยอดขายทั้งหมดในปัจจุบัน
(รวมยอดขายของกิจการร่วมทุนด้วย) แม้ว่าอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจะส่งผลกระทบไม่น้อยกับรายได้ของบริษัท
- “โดยรวมแล้ว เดลฟายมีการเติบโตสูงในช่วงปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เราจะต้องรักษาความขยันขันแข็งเอาไว้อย่างต่อเนื่องและจะต้องมุ่งมั่นสร้างผลงานให้ดียิ่งขึ้นไปอีก สำหรับในปีนี้เรามีสิ่งท้าทายรออยู่ข้างหน้าอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแรงกดดันจากคู่แข่ง ปัญหาเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียและลาตินอเมริกา รวมไปถึงแผนการดำเนินงานและงบประมาณสำหรับโครงการระบบสารสนเทศ ค.ศ. 2000 (Year 2000 Information Systems Project) ทั้งนี้ ความสำเร็จและอนาคตของเดลฟายจะขึ้นอยู่กับการปฏิบัติงานให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้เป็นสำคัญ โดยเราจะต้องรู้จักประยุกต์และปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของลูกค้าที่เรียกร้องคุณภาพ ราคา และบริการที่ดีขึ้นด้วย” มร. เจ.ที. แบทเทนเบิร์กที่ 3 ประธานของเดลฟายกล่าว
- การเติบโตอย่างต่อเนื่องของเดลฟายในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการขยายตัวในระดับโลกของบริษัท เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2540 เดลฟายได้เซ็นสัญญาร่วมทุนกับบริษัท เทียนสิน มิวนิ- ซิเพิล ช็อค แอบซอร์เบอร์ ตั้งโรงงานผลิตอุปกรณ์กันกระเทือนและโช้คอัพรถยนต์ที่เมืองเทียนสิน สาธารณรัฐประชาชนจีน นอกจากนั้น ในเดือนเดียวกัน เดลฟายยังได้ร่วมเป็นพันธมิตรด้านการผลิตตลับลูกปืนทั่วโลกกับบริษัท เอ็นเอสเค ในประเทศญี่ปุ่น “แม้ว่าในขณะนี้ภูมิภาคเอเชียจะประสบกับปัญหาเศรษฐกิจอยู่ก็ตาม แต่ในระยะยาวแล้วเราเชื่อว่ายังมีลู่ทางการตลาดอยู่อีกมากในภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก เดลฟายจะยังคงขยายฐานธุรกิจในภูมิภาคนี้ต่อไปในปี 2541” มร. วิลเลียม เอ. เอบเบิร์ต ประธานฝ่ายปฏิบัติการของเดลฟาย ภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก กล่าว เดลฟายได้เปิดโรงงานผลิตระบบพวงมาลัยและเบรครถยนต์ขึ้นที่เขตการค้าเสรีไวเกาเฉียว เมืองเซี่ยงไฮ้ เมื่อวันที่ 13 มกราคม นอกจากนี้ เดลฟายยังมีแผนที่จะเปิดศูนย์บริการทางเทคนิคขึ้นอีกหนึ่งแห่งที่เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย รวมทั้งเปิดโรงงานผลิตระบบควบคุมความร้อนและแชสซีแห่งใหม่ขึ้นที่เมืองนอยดา ประเทศอินเดีย
หากท่านต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเดลฟาย ออโตโมทีฟ ซิสเต็มส์ กรุณาติดต่อ คริส คู หรือ ณิชนันท์ เจียมสิริ บริษัท บางกอก พับบลิค รีเลชั่นส์ จำกัด โทร. 652 1946-7 หรือ 652 0455-6--จบ--