ยูเนสโกขึ้นทะเบียนหุบเขา "จาบาล อิกมาห์" แห่งเมืองอัลอูลา ซาอุดีอาระเบีย เป็นมรดกความทรงจำแห่งโลก

องค์การยูเนสโกประกาศขึ้นทะเบียน จาบาล อิกมาห์ (Jabal Ikmah) แห่งเมืองอัลอูลา เป็นมรดกความทรงจำแห่งโลก (Memory of the World Register) ซึ่งถือเป็นการยอมรับความพยายามของราชกรรมาธิการอัลอูลา (Royal Commission for AlUla หรือ RCU) ในการอนุรักษ์มรดกเอกสาร (Documentary Heritage) ที่ยังหลงเหลือมาจากยุคโบราณ

ภูเขาอันงดงามที่ประกอบด้วยหุบเขาหินทราย มีจารึกที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มากกว่า 300 ชิ้น โดยส่วนใหญ่มีอายุตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของสหัสวรรษที่ 1 ก่อนคริสตกาล สถานที่แห่งนี้รวบรวมจารึกเกี่ยวกับอาณาจักรดาดันไนท์ (Dadanite Kingdom) เอาไว้มากที่สุด ทั้งบันทึกพิธีกรรมทางศาสนา กิจกรรมในชีวิตประจำวัน และความสัมพันธ์ระหว่างผู้คน

ราชกรรมาธิการอัลอูลามีบทบาทในการผลักดันวิสัยทัศน์ปี 2573 หรือ Vision 2030 ของซาอุดีอาระเบีย และกำลังทุ่มเทอย่างเต็มที่ในการศึกษาและอนุรักษ์โบราณสถานต่าง ๆ อย่างเช่น จาบาล อิกมาห์ ซึ่งเป็นห้องสมุดกลางแจ้งที่ตั้งอยู่ในพิพิธภัณฑ์มีชีวิตขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ความพยายามในการส่งเสริมให้ทั่วโลกมีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับจาบาล อิกมาห์ พร้อมกับการเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมด้วยแนวทางที่ยั่งยืน ทำให้ยูเนสโกยอมรับต่อสาธารณชนถึงความสำคัญระดับนานาชาติของมรดกเอกสารแห่งเมืองอัลอูลานี้

คุณโฆเซ อิกนาซิโอ กัลเลโก เรบีญา (Jose Ignacio Gallego Revilla) ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายโบราณคดี การวิจัย และการอนุรักษ์มรดกของสถาบันราชอาณาจักร (Kingdoms Institute) แห่งราชกรรมาธิการอัลอูลา กล่าวว่า "ความสำคัญของจารึกแห่งจาบาล อิกมาห์ ก้าวข้ามพรมแดนระดับภูมิภาคไปสู่ระดับโลก โดยเฉพาะอย่างในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของวิวัฒนาการภาษาถิ่นและภาษาอาหรับโบราณ ความถูกต้องและความสมบูรณ์ของจารึก ทั้งในแง่ของข้อมูลที่บันทึกเกี่ยวกับสังคมในสมัยโบราณและการอนุรักษ์สถานที่ นับเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้สถานที่แห่งนี้ควรค่ากับสถานะมรดกความทรงจำแห่งโลก ในฐานะบันทึกเหตุการณ์ในอดีตผ่านจารึกอักษรอาหรับเหนือโบราณ (Ancient North Arabian) จำนวนมากที่สุด"

ในสมัยโบราณ โอเอซิสอัลอูลาเป็นจุดตัดของเส้นทางการค้าเครื่องหอมและเส้นทางจาริกแสวงบุญ จึงเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนทางการค้าและวัฒนธรรมที่มีความสำคัญ โดยให้การต้อนรับเหล่าพ่อค้ายางไม้หอม กำยาน และสินค้ามีค่าอีกมากมาย ความรุ่มรวยทางวัฒนธรรมนี้ได้ก่อให้เกิดการลงหลักปักฐาน หนึ่งในนั้นคืออาณาจักรดาดันไนท์ที่เจริญรุ่งเรืองและมีการพัฒนารูปแบบอักษรของตนเองด้วยระบบการเขียนแบบกลุ่มภาษาเซมิติกใต้ (South Semitic) ชาวดาดันไนท์ได้บันทึกประวัติศาสตร์ผ่านภาพสลักบนหินทรายสีแดงและเหลืองในอัลอูลา จารึกที่มีจำนวนมากที่สุดนี้อยู่ในหุบเขาจาบาล อิกมาห์ ที่มีภูมิประเทศขรุขระอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเกิดจากการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกระหว่างการก่อตัวของทะเลแดงเมื่อ 30 ล้านปีก่อน

จารึกจำนวนมากที่จาบาล อิกมาห์ สะท้อนเรื่องราวอันหลากหลาย เช่น กษัตริย์ พิธีกรรม เกษตรกรรม และสัตว์ต่าง ๆ ซึ่งเป็นข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับเมืองอัลอูลาในอดีต การอนุรักษ์สถานที่สำคัญเช่นนี้จึงเป็นหัวใจสำคัญภายใต้วิสัยทัศน์สำหรับอนาคตของอัลอูลา โดยราชกรรมาธิการอัลอูลาได้เน้นย้ำถึงมรดกทางวัฒนธรรมของเมืองอัลอูลาทั้งในด้านการท่องเที่ยว การส่งเสริมนวัตกรรม และประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน

การได้รับการขึ้นทะเบียนในครั้งนี้เป็นผลมาจากความร่วมมือที่มีอยู่เดิมระหว่างราชกรรมาธิการอัลอูลากับยูเนสโก ขณะเดียวกัน เครือข่ายพันธมิตรด้านวัฒนธรรมระดับโลกของราชกรรมาธิการอัลอูลา ได้แก่ สภาการโบราณสถานระหว่างประเทศ หรือ อิโคโมส (ICOMOS), พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Louvre Museum) และสำนักงานเพื่อการพัฒนาอัลอูลาของฝรั่งเศส (Afalula) ล้วนมีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูอัลอูลาให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางชั้นนำระดับโลกด้านมรดกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ

ทั้งนี้ ราชกรรมาธิการอัลอูลาจัดตั้งสถาบันราชอาณาจักรขึ้นมาเพื่อเป็นศูนย์กลางระดับโลกด้านโบราณคดี การวิจัยมรดก และการอนุรักษ์ ปัจจุบัน สถาบันดำเนินการในฐานะองค์กรวิจัย และจะตั้งสำนักงานถาวรในเขตดาดันของเมืองอัลอูลา ซึ่งคาดว่าภายในปี 2578 จะก้าวขึ้นเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวสองล้านคนต่อปี

หมายเหตุสำหรับบรรณาธิการ

ชื่อเมืองอัลอูลาในภาษาอังกฤษสะกดว่า AlUla เสมอ ไม่ใช่ Al-Ula

เกี่ยวกับราชกรรมาธิการอัลอูลา

ราชกรรมาธิการอัลอูลา (Royal Commission for AlUla หรือ RCU) ก่อตั้งขึ้นตามพระราชกฤษฎีกาในเดือนกรกฎาคมปี 2560 เพื่ออนุรักษ์และพัฒนาเมืองอัลอูลาในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งมีความสำคัญในเชิงวัฒนธรรมและธรรมชาติ แผนการระยะยาวของราชกรรมาธิการอัลอูลาคือการพัฒนาเศรษฐกิจและเมืองด้วยความระมัดระวัง รับผิดชอบ และยั่งยืน พร้อมกับอนุรักษ์มรดกทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติในพื้นที่ ตลอดจนส่งเสริมให้เมืองอัลอูลาเป็นจุดหมายปลายทางการอยู่อาศัย ทำงาน และท่องเที่ยว เป้าหมายเหล่านี้ก่อให้เกิดโครงการมากมายทั้งในด้านโบราณคดี การท่องเที่ยว วัฒนธรรม การศึกษา และศิลปะ ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการตอบสนองต่อความหลากหลายทางเศรษฐกิจ การสร้างพลังให้กับชุมชน และการอนุรักษ์มรดกตกทอดตามวิสัยทัศน์ปี 2573 หรือ Vision 2030 ของซาอุดีอาระเบีย

รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2084740/AlUla_Jabal_Ikmah_1.jpg
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2084742/AlUla_Jabal_Ikmah_2.jpg
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2084743/AlUla_Jabal_Ikmah_3.jpg


ข่าวราชกรรมาธิการอัลอูลา+องค์การยูเนสโกวันนี้

ราชกรรมาธิการอัลอูลา เผยความคืบหน้าโครงการรถรางอัลอูลา พร้อมว่าจ้างอัลสตอมในการจัดหาระบบและรถราง

โครงการรถรางระยะทางรวม 22.4 กม. เชื่อมต่อแหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโกในเมืองอัลอูลา เมืองโอเอซิสแห่งประวัติศาสตร์ และใจกลางเมืองร่วมสมัย ได้รับการออกแบบให้เป็นองค์ประกอบหลักของแผนแม่บท "การเดินทางข้ามกาลเวลา" (Journey Through Time หรือ JTT) สะท้อนการผสมผสานวัฒนธรรม มรดก และธรรมชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองอัลอูลา ผู้ผลิตด้านการขนส่งข้ามชาติชั้นนำอย่างอัลสตอม ได้รับการว่าจ้างให้จัดหารถรางและระบบที่สอดคล้องกับเป้าหมายด้านความยั่งยืนของอัลอูลา ราชกรรมาธิการอัลอูลา (Royal Commission for AlUla หรือ

ยูเนสโกขึ้นทะเบียนหุบเขา "จาบาล อิกมาห์" แห่งเมืองอัลอูลา ซาอุดีอาระเบีย เป็นมรดกความทรงจำแห่งโลก

จารึกบนหินในหุบเขาจาบาล อิกมาห์ ซึ่งบอกเล่าชีวิตประจำวันในอาณาจักรดาดันไนท์โบราณ ได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโกให้เป็นมรดกความทรงจำแห่งโลก จาบาล อิกมาห์ แห่งเมืองอัลอูลา เป็น...

ปิดฉากงานแข่งนกเหยี่ยว "อัลอูลาฟอลคอนคัพ" ครั้งแรก ตื่นตากับกีฬาโบราณตลอด 9 วัน พร้อมรางวัลใหญ่ทุบสถิติ

หมู่บ้านกีฬาโบราณมูกายราแห่งเมืองอัลอูลาเป็นที่รองรับเหยี่ยวชั้นยอด 2,000 ตัวและเจ้าของเหยี่ยวในทัวร์นาเมนต์ครั้งแรก ซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค. ถึง 5 ม.ค. การประกวดระดับนานาชาติดึงดูดนักฝึก...

ครั้งแรกกับงานแข่งนกเหยี่ยว "อัลอูลาฟอลคอนคัพ" ยกระดับเมืองอัลอูลาในฐานะศูนย์กลางกีฬาโบราณชั้นนำของซาอุฯ

นักฝึกเหยี่ยวจากซาอุดีอาระเบียและประเทศอื่น ๆ จะประชันฝีมือชิงเงินรางวัลรวมมูลค่า 60 ล้านริยัล (16 ล้านดอลลาร์) ณ หมู่บ้านกีฬาโบราณมูกายรา เมืองอัลอูลา ตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค. ถึง 5 ม.ค. งานแข่งขัน...

โครงการเพาะพันธุ์เสือดาวอาระเบียเพื่อการอนุรักษ์ของราชกรรมาธิการอัลอูลา ต้อนรับสมาชิกใหม่ "ลูกเสือดาว 7 ตัว"

ลูกเสือดาวเกิดใหม่ 7 ตัวนี้ถือว่ามากกว่าลูกเสือดาวเกิดใหม่ในปี 2565 ถึงสองเท่า และทำให้จำนวนเสือดาวอาระเบียทั้งหมดของราชกรรมาธิการอัลอูลาเพิ่มขึ้นเกือบ 100% นับตั้งแต่ปี 2563 รวมเป็น 27 ตัว...

ซาอุดีอาระเบียจารึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ค้นพบ "ขวานหินโบราณขนาดยักษ์" ในเมืองอัลอูลา

เครื่องมือหินบะซอลต์เนื้อละเอียดนี้มีความยาวถึง 51.3 ซม. และคาดว่ามีอายุมากกว่า 200,000 ปี อาจเป็น "ขวานหินโบราณ" ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีความเก่าแก่ย้อนไปถึงสมัยหินเก่าตอนต้น-ตอนกลาง...

ราชกรรมาธิการอัลอูลาเผยโฉมแบบอาคารผู้โดยสารแห่งใหม่ของสนามบินนานาชาติอัลอูลา

การออกแบบมุ่งเน้นความยั่งยืนโดยผสานเข้ากับภูมิทัศน์อันน่าทึ่งของอัลอูลาได้อย่างกลมกลืน พร้อมยกระดับประสบการณ์ของนักเดินทางด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่หรูหราและพื้นที่ค้าปลีกกว้างขวาง ตลอดจนเพิ่มความสามารถในการรองรับผู้...

ราชกรรมาธิการอัลอูลาเตรียมนำเสนอความสำเร็จในการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งสู่สายตาทั่วโลก ในการประชุมของสมาคมเพื่อการฟื้นฟูระบบนิเวศ ณ เมืองดาร์วิน ประเทศออสเตรเลีย

ราชกรรมาธิการอัลอูลาเตรียมนำเสนอโครงการฟื้นฟูป่าและพื้นที่สีเขียว ในฐานะผู้สนับสนุนระดับพรีเมียมของการประชุมระดับโลกครั้งที่ 10...

การประชุมสุดยอดโบราณคดีโลกเมืองอัลอูลาครั้งแรก ปิดม่านด้วยการเสวนาว่าด้วยสิ่งที่สังคมสมัยใหม่สามารถเรียนรู้จากอดีต

การประชุมสุดยอดครั้งปฐมฤกษ์ดึงดูดผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 300 คน จาก 39 ประเทศ ราชกรรมาธิการอัลอูลาประกาศเปิดตัวรางวัลใหม่สำหรับนักโบราณคดีรุ่นใหม่ ในวันสุดท้ายของการประชุมสุดยอดโบราณคดีโลก...

การประชุมสุดยอดโบราณคดีโลกเมืองอัลอูลาครั้งแรก ต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 300 คนจาก 39 ประเทศ ร่วมเสวนาบทบาทของโบราณคดีที่มีต่อสังคม

โบราณคดีเป็นเลนส์ที่สามารถขยายอดีตของเรา สะท้อนภาพปัจจุบันของเรา และมองอนาคตของเรา การมีส่วนร่วมกับคนในชุมชนช่วยให้นักวิจัยเข้าใจถึงมรดกตกทอดของแหล่งมรดกมากขึ้น ผู้...