มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร (MUT) เปิดวิทยาลัยนานาชาติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร (Mahanakorn University of Technology International College - MUTIC) สอนหลักสูตรนานาชาติทั้งในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก ใน 2 สาขาความเชี่ยวชาญ คือ วิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี และบริหารธุรกิจ มุ่งผลิตวิศวกร นวัตกร และบัณฑิตคุณภาพสูงสู่ตลาดงาน ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดแรงงานยุคใหม่ รับทิศทางนโยบายยุคไทยแลนด์ 4.0 และอุตสาหกรรม 4.0 ที่ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการเริ่มเคลื่อนย้ายสู่ตลาด SEA ที่มีการแข่งขันสูง ส่งผลให้เด็กรุ่นใหม่ต้องการเรียนด้านวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี และด้านบริหารธุรกิจภาคอินเตอร์เพิ่มมากขึ้น วิทยาลัยนานาชาติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร (MUTIC) มีความพร้อมทั้งในเรื่องการบริหารงาน การคัดสรรบุคลากร หรือคณาจารย์ ที่มีทักษะการสอนอย่างดี มีประสบการณ์ในสายงานภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการ เพื่อแชร์ International Experience ไม่เน้นการเรียนแบบท่องจำ แต่เน้นการเรียนเชิงปฏิบัติการ ฝึกคิดเชิงสร้างสรรค์ เพื่อให้ผู้เรียนตกผลึกความรู้ ความเข้าใจ จนมีทักษะ Hard Skill และ Soft Skill เพื่อมุ่งแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนในการทำงานระดับต่างๆ ไปจนถึงการเป็นนักธุรกิจหรือเป็นเจ้าของกิจการ
ผศ. ดร. ภานวีย์ โภไคยอุดม อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร (MUT) เปิดเผยว่า เป็นเวลากว่า 33 ปี MUT เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนที่มีความเชี่ยวชาญในการผลิตวิศวกรและนวัตกรคุณภาพสูง จำนวนมากสู่ตลาดงานภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการต่างๆ จนเมื่อปี 2563 ทิศทางของตลาดงานภาคอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ หรือ วิศวกรรมศาสตร์ เริ่มขยับขยายเคลื่อนย้ายไปสู่ตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (South East Asia) หรือ ตลาด SEA รวมถึงประเทศไทยก็มีนโยบายที่ผลักดันตนเองสู่ Project EEC (โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก) ทำให้แนวโน้มของเด็กรุ่นใหม่ต้องการเรียนวิศวกรรมศาสตร์ ภาคภาษาอังกฤษ มีความจำเป็นเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับอนาคตอีก 5-10 ปี ข้างหน้า คือ ยุค 5G ประเทศไทยและทุกภาคอุตสาหกรรมต้องการวิศวกรและบุคลากรสายบริหารธุรกิจที่ใช้ International Language ได้อย่างคล่องแคล่ว
ดังนั้น ในปี 2564 MUT จึงได้เปิดสอนหลักสูตรนานาชาติ ทางวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี และบริหารธุรกิจขึ้น เพื่อผลิตวิศวกร นวัตกร และบัณฑิตคุณภาพสูงสู่ตลาดงานภาคอุตสาหกรรม ที่มี Soft Skill ดีเยี่ยมแล้ว ยังมีทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษที่เป็นเลิศ เพื่อรองรับความต้องการของตลาดแรงงานในโครงการ EEC และตลาดอุตสาหกรรมยุค 4.0
ปัจจุบัน MUTIC เปิดสอนหลักสูตรปริญญาตรีในสาขาการตลาดดิจิทัล โลจิสติกส์สากลและการจัดการอุตสาหกรรม การจัดการและผู้ประกอบการดิจิทัล วิศวกรรมการสื่อสารและอิเล็กทรอนิกส์ วิศวกรรมเครื่องกล วิศวกรรมโยธาและวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และปัญญาประดิษฐ์ ด้วยความสัมพันธ์อันดีและยาวนานระหว่าง MUT กับมหาวิทยาลัยชั้นนำหลายแห่งในต่างประเทศ จึงได้มีการทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการระหว่าง MUTIC กับมหาวิทยาลัยชั้นนำต่าง ๆ อาทิ มหาวิทยาลัยเจมส์คุก ในสิงคโปร์, มหาวิทยาลัยนิวเซาธ์เวลส์ ในออสเตรเลีย, มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด บรูกส์ และ มหาวิทยาลัยเชฟฟิลด์ ในสหราชอาณาจักร รวมถึงมหาวิทยาลัยชื่อดังอีกหลายแห่งในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน
อนึ่ง การเรียนระดับปริญญาตรีหลักสูตรนานาชาติที่ MUTIC นอกจากหลักสูตรปกติ 4 ปี แล้ว นักศึกษายังสามารถเลือกเรียนหลักสูตร 2+2 Program ได้ คือ ใช้ระยะเวลาเรียน 2 ปี ในประเทศไทย และเรียนอีก 2 ปีในต่างประเทศ ทั้งนี้ MUTIC จะทดสอบความสามารถทางภาษาอังกฤษก่อนรับสมัคร และมีบริการให้คำปรึกษา ให้ความช่วยเหลือผ่านระบบออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันโดยคณาจารย์และผู้เชี่ยวชาญของ MUTIC เพื่อให้ผู้เรียนหรือผู้สนใจได้รับการบริการดูแลช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ผู้ปกครองเองก็ได้รับความสะดวก ประหยัดรายจ่าย และลดความยุ่งยากในการเตรียมเอกสาร และการเดินเรื่องเพื่อไปศึกษาต่อต่างประเทศ และเมื่อนักศึกษาสำเร็จการศึกษาแล้ว จะได้รับปริญญาบัตรรับรองจากมหาวิทยาลัยนั้น ๆ ควบคู่กับปริญญาบัตรจาก MUT นอกจากความรู้ในเรื่องของภาษาอังกฤษแล้ว การเรียนหลักสูตรนานาชาติที่ MUTIC ผู้เรียนยังจะได้เรียนรู้วัฒนธรรมนานาชาติ เรื่องบุคลิกภาพและการวางตัวที่เหมาะสม ในการทำงานร่วมกับผู้คนต่างชาติและต่างวัฒนธรรมด้วย
แนวทางการจัดการศึกษาของ MUT ที่ทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่ายและมีความเชื่อมั่นในศักยภาพการเรียนรู้ของมนุษย์ทุกคน จึงไม่เคยปฏิเสธโอกาสหรือปิดกั้นอนาคตของใคร นักเรียนที่ต้องการสมัครเรียนระดับปริญญาตรีที่วิทยาลัยนานาชาติเทคโนโลยีมหานคร (MUTIC) แม้จะมีคะแนน IELTS ที่ 5.0 ก็สามารถเข้ามาสมัครเรียนได้ แต่สำหรับผู้ที่มีคะแนน IELTS อยู่ระหว่าง 4.0 ถึง 4.5 ทาง MUTIC ก็มีหลักสูตรเรียนภาษาอังกฤษแบบเร่งรัด ผ่านโปรแกรม Intensive English ในการเสริมพื้นฐานภาษาอังกฤษภายในครึ่งปี ถึง 1 ปี เพื่อให้ผู้เรียนมีคุณสมบัติสมัครเข้าเรียนในคณะและสาขาที่ต้องการเรียนได้
นอกจากหลักสูตรระดับปริญญาตรีแล้ว MUTIC ยังเปิดสอนหลักสูตรปริญญาโทสาขาบริหารธุรกิจ และยังมีหลักสูตร MBA นานาชาติ 1 ปี เป็นการเฉพาะ เพื่อตอบรับคนทำงานที่ต้องการศึกษาเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มโอกาสในหน้าที่การงานและยกระดับเงินเดือนให้สูงขึ้นเมื่อสำเร็จการศึกษา วิชาที่เรียนจะมีเรื่องการจัดการธุรกิจดิจิทัล, ธุรกิจอัจฉริยะและการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล เป็นต้น การเรียนจะเป็นแบบ Hybrid Learning 1 ปี คือ เรียน 3 วัน ต่อ สัปดาห์ แบ่งเป็นเรียนออนไลน์ภาคค่ำ วันธรรมดา 2 วันต่อสัปดาห์ และเรียนที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร ในวันเสาร์ 1 วันต่อสัปดาห์ และยังเปิดหลักสูตรปริญญาเอกในสาขาวิศวกรรมไฟฟ้า วิศวกรรมเครื่องกล และวิศวกรรมโยธา นอกจากนี้ MUTIC ยังมีโครงการสนับสนุนทุนการศึกษาและวิจัย โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ทาง MUTIC ได้ทำข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการกับสถาบันการศึกษาในต่างประเทศอีกด้วย
สำหรับนโยบายการบริหารงาน ศ. ดร. จิรยุทธ์ มหัทธนกุล รองอธิการบดีระดับสูงฝ่ายวิชาการและประกันคุณภาพ และ ผู้อำนวยการ วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร (MUTIC) กล่าวว่า MUTIC จะให้ความสำคัญกับเรื่อง Human resources โดยจะคัดเลือกบุคลากร หรือ คณาจารย์ที่มีศักยภาพในการสอนเป็นอย่างดี มีทักษะการสื่อสารและมีประสบการณ์ในสายงานภาคอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เป็นแบบ International Experience เพื่อสร้างระบบการเรียนการสอนที่มีคุณภาพและอยู่ในบรรยากาศที่เป็น International อย่างแท้จริง
ขณะเดียวกันคณาจารย์ของเรามีความสามารถในการเปิดมุมมองนักศึกษาให้สามารถมองเห็นถึงอนาคตวันข้างหน้าได้เพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนตัวเองเข้ากับทุกสถานการณ์ เพราะโลกยุคนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมาก บางอาชีพที่เคยทำอยู่ก็ล้มหายตายจากไปอย่างรวดเร็ว ผู้ที่เข้ามาเรียนใน MUTIC จึงต้องจบออกไปด้วยความเพียบพร้อม ทั้งทักษะวิชาชีพ (Hard Skill) และ ทักษะชีวิต (Soft Skill) เพื่อรองรับการทำงานในระดับต่าง ๆ ไปจนถึงการเป็นนักธุรกิจหรือเจ้าของกิจการได้
ทั้งนี้ ระบบการเรียนการสอนของ MUTIC จะเป็นแบบสมัยใหม่ คือ เป็นการเรียนแบบเชิงตอบโต้ (Interactive) ฝึกให้มีความคิดสร้างสรรค์ (Creative Thinking) และทักษะการทำงานร่วมกันเป็นทีม (Teamwork Skill) ไม่เน้นให้ท่องจำ เพราะการท่องจำในอนาคตจะถูกแทนที่โดย AI ดังนั้น การเรียนใน MUTIC จะเน้นให้ผู้เรียนมีความเข้าใจผ่านการเรียนในห้องปฏิบัติการ (Lab) ที่ถือว่าเป็นการเรียนแบบส่งผ่านประสบการณ์จริง (Real Experience) ในการได้ลงมือทำ ได้ลองผิดลองถูก จนก่อเกิดความชำนาญในเรื่องนั้นๆ
นอกจากนี้ คณาจารย์ของที่นี่จะเปิดรับฟังความคิดเห็นหรือ Feedback ต่าง ๆ ของนักศึกษา เพื่อจะได้รับรู้ว่ามีเรื่องอะไรที่ MUTIC ต้องปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้เป็น The Best Total Package ว่า เมื่อเข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ จะได้รับการดูแลอย่างเต็มที่ ขณะที่ในยุคปัจจุบันคนมีลูกน้อย จะลงทุนเพื่อส่งเสริมการศึกษาของลูกดีกว่าในยุคก่อน ดังนั้น MUTIC มีความพร้อมในทุก ๆ ด้าน ประกอบกับค่าใช้จ่ายในการศึกษาที่นี่ก็ไม่ได้สูง ถ้าเทียบกับคุณภาพการเรียน การสอนของ MUTIC กับมหาวิทยาลัยเอกชนอื่น ๆ จึงเป็นราคาสมเหตุสมผลที่ผู้ปกครองยินดีจ่าย เพื่อซื้ออนาคตที่ดีให้กับลูกหลานของตนเอง
"เป็นระยะเวลากว่า 3 ทศวรรษนับตั้งแต่วันก่อตั้งจนถึงปัจจุบัน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร (MUT) มีวิสัยทัศน์มุ่งสร้าง "นวัตกรคุณภาพ" สู่ภาคอุตสาหกรรม และ MUTIC ก็เป็นหนึ่งในพันธกิจของมหาวิทยาลัยฯ ที่ต้องการสร้างคนรุ่นใหม่ที่นอกจากมีความรู้แล้วยังมีความสามารถเข้าใจถึงพฤติกรรมและเข้าใจโลกในระดับสากลมากขึ้นด้วย รู้จักมุมมองวิธีแก้ไขปัญหา มีวิธีคิด มี Solution ที่ไม่เหมือนใครเพราะเป็นมุมมองที่ตั้งอยู่บนฐานของผลการวิจัยที่เป็น International Thinking ที่ผู้สำเร็จการศึกษาจากเราสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับทุกภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการต่างๆ เพราะถ้าประเทศไทยต้องการเป็น Creative Country ประเทศไทยจำเป็นต้องมีเด็กสายนี้ที่มีความรู้หรือมีแนวคิดลักษณะนี้เพื่อผลักดันประเทศไทย หรือ ภูมิภาคของเราให้ก้าวสู่ Beyond Middle Income Country เราจึงเป็นความแตกต่างกับที่อื่น ๆ และนี่คือเหตุผลที่ว่า ทำไมเด็กรุ่นใหม่ต้องมาเรียนหลักสูตรนานาชาติสาขาวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี และสาขาบริหารธุรกิจ ที่ MUTIC แห่งนี้" ดร. ภานวีย์ กล่าวสรุป
HTML::image(
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit