โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ในระยะแรกผู้ป่วยอาจมีอาการเจ็บหน้าอกในขณะออกแรง เมื่อได้พักอาการก็จะหายไป หรือในบางคนอาจมีแค่เพียงอาการเจ็บตรงไหล่หรือกรามอย่างเดียว จนถึงไม่มีอาการอะไรเลยก็ได้
ภาวะหลอดเลือดตีบสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากไขมันในเลือดสูง ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวกและหลอดเลือดเสียความยืดหยุ่น ร่วมกับเกิดการฉีกขาดของหลอดเลือดที่มีการสะสมไขมันจนทำให้เกิดลิ่มเลือดขึ้น ส่งผลให้เกิดภาวะหลอดเลือดหัวใจอุดตันจนเสียชีวิตได้
นอกจากจะป้องกันโดยการหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ งดบุหรี่และความเครียดแล้ว ในโรคที่มีอาการไม่ชัดเจนแบบนี้ หมอบอกเลยว่าอันตรายมาก เพราะเราไม่มีทางรู้ว่าเมื่อไหร่อาการจะกำเริบ
การตรวจเช็คสุขภาพหัวใจและระบบไหลเวียนโลหิตเป็นประจำ จะช่วยลดความเสี่ยงนี้ได้มาก ในเบื้องต้นจะเป็นการตรวจไขมันในเลือด คลื่นไฟฟ้าหัวใจ และความยืดหยุ่นของหลอดเลือดด้วยเครื่อง ABI หากพบว่ามีความเสี่ยงแพทย์จะวินิจฉัยให้ตรวจต่อด้วยวิธีวัดการทำงานของหัวใจขณะออกกำลังกาย (exercise stress test) เพื่อดูว่าเริ่มมีภาวะหัวใจขาดเลือดหรือไม่
อีกหนึ่งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ช่วยให้การตรวจหัวใจด้วยเครื่องสร้างภาพด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้า (Cardiac MRI) คือความคมชัดของภาพ และประสิทธิภาพในการประเมินการทำงาน รวมทั้งการไหลเวียนเลือดผ่านหัวใจทุกห้องอย่างละเอียด พร้อมวินิจฉัยโรคหัวใจและหลอดเลือดให้ถูกต้องแม่นยำมากขึ้น อย่างมีคุณภาพและความละเอียดสูง การตรวจแบบนี้ไม่เจ็บตัวและไม่ต้องนอนพักที่โรงพยาบาล
แต่หากพบความผิดปกติ แพทย์จะทำการตรวจด้วยการฉีดสีหรือเอ็กซเรย์ความละเอียดสูง เพื่อดูตำแหน่งของเส้นเลือดหัวใจที่อุดตัน และจะทำการรักษาทันทีก่อนที่จะเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายจากการขาดเลือดเป็นเวลานาน และอาจทำให้เสียชีวิตได้
การรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจหากหลอดเลือดตีบตันเพียงบางส่วน แพทย์จะให้การรักษาด้วยยา หากหลอดเลือดตีบถ้ามีแนวโน้มชัดเจนว่าน่าจะใช่ อาจนำไปสู่การใส่สายสวนเข้าไปฉีดสีดูในหลอดลือดหัวใจโดยตรง
ถ้าหลอดเลือดหัวใจตีบน้อย แพทย์ก็อาจจะให้ทานยารักษา แต่ถ้าตีบมากแพทย์ต้องซ่อมหลอดเลือดควบคู่กับการทานยา การซ่อมหลอดเลือดส่วนใหญ่ในปัจจุบันก็คือ การใส่สายสวนเข้าไปถ่างขยายร่วมกับใช้บอลลูนเข้าไปค้ำยันไว้ให้รอยตีบนั้นหายไป ทำให้เลือดไหลได้สะดวก แต่ไม่ว่าจะมีการซ่อมด้วยบอลลูนหรือไม่ก็ตาม ผู้ป่วยก็ต้องทานยาเพื่อป้องกันไม่ให้มีการตีบเพิ่มขึ้นหรือตีบซ้ำ หลักๆ ยานี้จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดตะกรันเกิดลิ่มเลือดไปอุดตัน ร่วมกับควบคุมปัจจัยเสี่ยง ก็จะลดโอกาสการตีบซ้ำให้น้อยลง https://www.ram-hosp.co.th/news_detail/278
ถึงแม้เทคโนโลยีทางการแพทย์และความเชี่ยวชาญของแพทย์ในปัจจุบันนี้ จะมีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ช่วยให้สามารถรักษาโรคต่างๆ ได้ง่ายและดียิ่งขึ้น แต่การดูแลตัวเองและการตรวจเช็คสุขภาพหัวใจเป็นประจำ ก็ยังถือเป็นเรื่องสำคัญที่ห้ามละเลยเด็ดขาดใครจะรู้ล่ะครับว่า...แค่การตรวจสุขภาพครั้งเดียว อาจช่วยชีวิตเราไว้ทั้งชีวิตเลยก็ได้นะ
ตรวจแคลเซียมหลอดเลือดหัวใจ หรือ Coronary Artery Calcium (CAC) คือการตรวจวัดปริมาณแคลเซียมที่สะสมในผนังหลอดเลือดหัวใจ ด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) เพื่อประเมินความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ หากผลการตรวจระบุคราบหินปูนสะสมในปริมาณสูง ก็จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงโรคหลอดเลือดแดงแข็ง นำไปสู่ภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบตัน หรือโรคหัวใจขาดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันและเสียชีวิตได้ Calcium Score เกิดจากอะไร การเสื่อมสภาพของหลอดเลือดตามธรรมชาติในผู้ป่วยแต่ละราย
รักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบสนิท 100% โดยไม่ต้องผ่าตัด
—
รักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบสนิท 100% โดยไม่ต้องผ่าตัด ที่ศูนย์หัวใจ 24 ชั่วโมง กับโรงพยาบาลรามคำแหง โ...
หญิงวัยหมดประจำเดือน เสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
—
"โดยปกติผู้หญิงที่หมดประจำเดือนแล้ว จะมีความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจตีบมากกว่าผู้หญิงในวัยอื่น และเพ...
เจ็บหน้าอกแบบไหน? ใช่สัญญาณเตือน "หลอดเลือดหัวใจตีบ"
—
โรคหลอดเลือดหัวใจตีบในระยะแรกมักไม่แสดงอาการผิดปกติ จนกระทั่งหลอดเลือดเริ่มตีบมากขึ้น กล้ามเนื้อหัว...
ตรวจหาปริมาณแคลเซียมในหลอดเลือดหัวใจ ได้แล้วที่โรงพยาบาลธนบุรี 2
—
โรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน เป็นภัยเงียบที่คร่าชีวิตคนไทยอย่างต่อเนื่องอาการที่สังเกตได้ คื...
หลอดเลือดหัวใจตีบ โรคร้ายที่อาจมาแบบไม่รู้ตัว
—
โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ในระยะแรกผู้ป่วยอาจมีอาการเจ็บหน้าอกในขณะออกแรง เมื่อได้พักอาการก็จะหายไป หรือ...
แพคเกจการตรวจสุขภาพหลอดเลือด ด้วย PVR (Pulse volume recoding) วันนี้ – 31 ธันวาคม 2563
—
โรงพยาบาลกรุงเทพ ขอเชิญท่านเข้ารับการตรวจวิเคราะห์หลอดเลือดแดง ด้...