บริษัท อุตสาหกรรม อีเล็คโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ EIC ชี้แจงกรณีการเผยแพร่งบการเงินไตรมาส ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปี 2563 เมื่อวันที่ ตลาดหลักทรัพย์ฯ4 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมาและปรากฎส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ที่จำนวน 756,322,ตลาดหลักทรัพย์ฯ27 บาท ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 48.8อุตสาหกรรม อีเล็คโทรนิคส์ เมื่อเทียบกับทุนชำระแล้วของบริษัทฯ (ภายหลังปรับปรุงด้วยส่วนต่ำมูลค่าหุ้นของบริษัทฯ ตามแนวทางการคำนวณของตลาดหลักทรัพย์ฯ) จึงเข้าข่ายกรณีส่วนของผู้ถือหุ้นน้อยกว่าร้อยละ 5อุตสาหกรรม อีเล็คโทรนิคส์ เมื่อเทียบกับทุนชำระแล้วของบริษัทฯ อันเป็นเหตุให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ดำเนินการขึ้นเครื่องหมาย C บนหลักทรัพย์ของบริษัทฯ ในรอบเช้าของวันจันทร์ที่ ตลาดหลักทรัพย์ฯ8 พฤษภาคม 2563 และผู้ลงทุนจะต้องซื้อหลักทรัพย์ของบริษัทฯ ด้วยบัญชี Cash Balance ตั้งแต่วันที่ ตลาดหลักทรัพย์ฯ9 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไปนั้น
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นฝ่ายจัดการของบริษัทฯเผยว่า “จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่เกิดขึ้นในทุกภูมิภาคทั่วโลก ส่งผลให้ตั้งแต่ต้นปี 2563 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาในประเทศไทยมียอดลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ประกอบกับผู้บริโภคในประเทศไทยที่มีความระมัดระวังในการบริโภคสินค้าและรับบริการมากขึ้นเนื่องจากความกังวลทั้งในเรื่องของสภาพความถดถอยทางเศรษฐกิจ และความเสี่ยงจากการติดเชื้อไวรัส COVID-19 ด้วยเหตุดังกล่าว ทำให้ยอดขายของกลุ่มบริษัทฯ ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้านี้ ดังนั้นเพื่อลดผลกระทบต่อภาครวมของธุรกิจให้ได้มากที่สุด กลุ่มบริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธรวมถึงช่องทางการขายเป็นแบบ Delivery และทำโปรโมชั่นราคาเพื่อให้สามารถแข่งขันได้ ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นจากการขายสินค้าปรับลดลงจากช่วงสถานการณ์ปกติ นอกจากนี้ผลกระทบจากยอดขายที่ลดลงและการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid 19 ยังส่งผลให้แผนการย้ายหรือขยายสาขาของร้านขายอาหารของบริษัทฯ ล่าช้ากว่ากำหนดการเดิม ซึ่งเดิมคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 1/2563 ด้วยบริษัทฯ ต้องพิจารณาอย่างระมัดระวังและมั่นใจว่าการย้ายหรือขยายสาขาจะสามารถสร้างผลประกอบการที่คุ้มค่าได้ ซึ่งปัจจุบันปัจจัยสำคัญต่อการพิจารณาขึ้นอยู่กับนโยบายของทางภาครัฐที่ต้องมุ่งยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid 19 เป็นหลัก”
ทั้งนี้ นายณัฐวุฒิ เภาโบรมย์ ประธานกรรมการบริษัทฯ ได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า “ในส่วนของคณะกรรมการและฝ่ายจัดการ ได้มีการติดตามแนวทางแก้ไขผลกระทบที่เกิดจากการลดการใช้จ่ายของผู้บริโภค และการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid 19 อยู่ตลอด โดยจะเห็นได้จากการที่ช่วงที่ผ่านมากลุ่มบริษัทฯ สามารถเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าและวางกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างหลากหลายมากขึ้น ซึ่งหากภาครัฐมีการผ่อนปรนมาตรการการเว้นระยะห่างทางสังคมเมื่อใด บริษัทฯ เชื่อว่ายอดขายโดยรวมของกลุ่มบริษัทฯปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังได้มีการประเมินสถานการณ์การลดลงของส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ตลอดมาและเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะไม่กระทบต่อผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ แต่อย่างใด เนื่องจากในไตรมาสที่ 1/2563 ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ต่ำกว่าร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับทุนชำระแล้วของบริษัทฯ เพียง 18.55 ล้านบาทเท่านั้น ดังนั้น หากกลุ่มบริษัทฯ สามารถเพิ่มยอดขายสินค้าได้มากขึ้น ประกอบกับสามารถดำเนินการจัดหาเงินทุนจากการเพิ่มทุนของบริษัทฯ ได้ตามที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 ได้อนุมัติการเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) ไว้แล้ว บริษัทฯ ก็เชื่อว่าจะแก้ไขปัญหาส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ต่ำกว่าร้อยละ 50 ได้อย่างแน่นอน”
สืบเนื่องจากมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2563 ของบริษัท วาว แฟคเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือชื่อเดิม บริษัท อุตสาหกรรม อีเล็คโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2563 มีมติอนุมัติแก้ไขเปลี่ยนแปลงชื่อบริษัทฯ และชื่อย่อหลักทรัพย์จากชื่อเดิมเป็นชื่อใหม่ เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์และโครงสร้างธุรกิจใหม่ที่ปัจจุบันมุ่งเน้นสู่การดำเนินกิจการด้านอุตสาหกรรมอาหารอย่างเต็มตัว บริษัทได้ดำเนินการเปลี่ยนแปลงชื่อบริษัทฯ ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์อย่างเป็นทางการแล้ว โดยเริ่มใช้ชื่อ “บริษัท วาว
EIC มั่นใจสัดส่วนผู้ถือหุ้นลดไม่กระทบผลการดำเนินงาน พร้อมโชว์แผนปรับตัวช่วงโควิด-19
—
บริษัท อุตสาหกรรม อีเล็คโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ EIC ชี้แจงกรณีกา...
EIC ยังคงมุ่งเน้นธุรกิจอาหารต่อไป มุ่งปรับกลยุทธ์แบรนด์ขนมอบ เพื่อตอบโจทย์สภาวะการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน
—
บริษัท อุตสาหกรรม อีเล็คโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) ...
EIC ปิดดีลซื้อ ส.ธนา มีเดีย เดินหน้าพัฒนาธุรกิจป้ายโฆษณาและอีเล็คโทรนิคแบบผสมผสาน
—
บริษัท อุตสาหกรรม อีเล็คโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ EIC รายงานต่อตลาดห...