การประชุมคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ครั้งที่ 4 (1/2561)” และเอกสารประกอบ

การประชุมคณะกรรมการนโยบาย ครั้งที่ คณะกรรมการนโยบาย/256คณะกรรมการนโยบายโดยมี ฯพณฯ ท่านนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีสาระสำคัญจากการประชุม ดังนี้
          คณะกรรมการนโยบาย. ความก้าวหน้าการดำเนินงาน
          ที่ประชุมรับทราบความก้าวหน้าของภารกิจที่ได้ให้นโยบายไปดังนี้
          คณะกรรมการนโยบาย.คณะกรรมการนโยบาย ร่าง พ.ร.บ. เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ̷สภานิติบัญญัติแห่งชาติ;
คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ. เสร็จแล้วทุกมาตรา เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 6คณะกรรมการนโยบาย และคาดว่าสภานิติบัญญัติแห่งชาติจะพิจารณาแล้วเสร็จ ภายใน ก.พ.6คณะกรรมการนโยบาย
          คณะกรรมการนโยบาย.2 การลงทุนอุตสาหรรมเป้าหมายในพื้นทื่ EEC
          การขอรับการส่งเสริมการลงทุนใน EEC ในปี 256สภานิติบัญญัติแห่งชาติ รวมเป็นเงินลงทุน 296,89สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ล้านบาท โดยปี 256คณะกรรมการนโยบาย มีเป้าหมายการลงทุน 3สภานิติบัญญัติแห่งชาติสภานิติบัญญัติแห่งชาติ,สภานิติบัญญัติแห่งชาติสภานิติบัญญัติแห่งชาติสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ล้านบาท (เทียบกับ คณะกรรมการนโยบาย99,327 ล้านบาทในปี 2559) โดยร้อยละ 84 เป็นการลงทุนใน คณะกรรมการนโยบายสภานิติบัญญัติแห่งชาติ อุตสาหกรรมเป้าหมายที่ใช้เทคโนโลยีสูง คิดเป็น 84% ของอุตสาหกรรมทั้งหมด

          นอกจากนั้นที่ประชุมรับทราบว่าคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนได้เห็นชอบมาตรการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ EEC เพิ่มเติมมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ คณะกรรมการนโยบาย ม.ค. 6คณะกรรมการนโยบาย เป็นต้นไป ได้แก่
          - เขตส่งเสริมเพื่อกิจการพิเศษ เช่น เมืองการบินภาคตะวันออก ได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมในการยกเว้นภาษีนิติบุคคล เพิ่มอีก 2 ปี รวมแล้ว 8 ปี และลดหย่อนภาษีนิติบุคคล 5สภานิติบัญญัติแห่งชาติ% เพิ่มอีก 5 ปี โดยมีเงื่อนไขต้องฝึกอบรมพนักงาน มากกว่า คณะกรรมการนโยบายสภานิติบัญญัติแห่งชาติ % ของพนักงานทั้งหมด หรือ มากกว่า 5สภานิติบัญญัติแห่งชาติ คน
          - เขตส่งเสริมเพื่อกิจการอุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้รับสิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษีนิติบุคคล 5สภานิติบัญญัติแห่งชาติ% เพิ่มอีก 5 ปี จากเกณฑ์ปกติ โดยมีเงื่อนไขต้องฝึกอบรมพนักงาน มากกว่า คณะกรรมการนโยบายสภานิติบัญญัติแห่งชาติ % ของพนักงานทั้งหมด หรือ มากกว่า 5สภานิติบัญญัติแห่งชาติ คน
          - เขตพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม หรือเขตอุตสาหกรรมในพื้นที่ EEC ได้รับสิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษีนิติบุคคล 5สภานิติบัญญัติแห่งชาติ% เพิ่มอีก 3 ปี จากเกณฑ์ปกติ โดยมีเงื่อนไขต้องฝึกอบรมพนักงาน มากกว่า 5% ของพนักงานทั้งหมด หรือ มากกว่า 25 คน

          คณะกรรมการนโยบาย.3 การพัฒนาบุคลากรใน EEC ตามมติ กนศ. ครั้งที่ 3/256สภานิติบัญญัติแห่งชาติ
          สืบเนื่องจาก คณะกรรมการนโยบายฯ ได้อนุมัติร่างแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาบุคลากรฯ เมื่อการประชุมครั้งก่อน สกรศ. ได้นำแผนไปรับฟังความคิดเห็นที่ฉะเชิงเทราและชลบุรี สรุปได้ว่าประชาชนในพื้นที่เห็นด้วยกับแนวทางการพัฒนาด้านพัฒนาบุคลลากร ที่ต้องสร้างเยาวชนให้มีความรู้ตรงความต้องการของอุตสาหกรรมเป้าหมายเป็นหลัก และขณะนี้มีการทำงานร่วมกันในทิศทางเดียวกันของหน่วยงานและสถาบันการศึกษาที่เกี่ยวข้องทุกระดับ
          นอกจากนั้นสงป.และ สกรศ. ได้ร่วมกันปรับปรุงรายละเอียดโครงการที่จำเป็นเร่งด่วนตามวัตถุประสงค์การพัฒนาบุคลากร ใน EEC โดยปรับลดเหลือ คณะกรรมการนโยบาย5 โครงการ วงเงิน 589 ล้านบาท (จากที่เคยได้รับความเห็นชอบให้เสนอขอรับจัดสรรงบกลางไว้ 86คณะกรรมการนโยบายล้านบาท)
          2. การประกาศเขตส่งเสริมนิคมอุตสาหกรรมเป้าหมายเพิ่มเติมอีก คณะกรรมการนโยบาย9 แห่ง
          คณะกรรมการฯ เห็นชอบการประกาศเขตส่งเสริมนิคมอุตสาหกรรมเป้าหมายทั้ง คณะกรรมการนโยบาย9 แห่ง ซึ่งมีหลักเกณฑ์การจัดตั้งเขตส่งเสริมครบถ้วนแล้ว ทำให้มีพื้นที่ใหม่รองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายอีก 26,2สภานิติบัญญัติแห่งชาติสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ไร่ และประมาณว่าจะรองรับการลงทุนได้กว่า คณะกรรมการนโยบาย.คณะกรรมการนโยบาย ล้านล้านบาท ภายใน คณะกรรมการนโยบายสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ปีข้างหน้า
          เขตส่งเสริมนิคมอุตสาหกรรมเป้าหมาย จำนวน คณะกรรมการนโยบาย9 แห่ง ประกอบด้วย จังหวัดระยอง จำนวน 6 แห่ง จังหวัดชลบุรี จำนวน คณะกรรมการนโยบาย2 แห่ง และจังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน คณะกรรมการนโยบาย แห่ง นิคมอุตสาหกรรมเหล่านี้ผ่านการศึกษาสิ่งแวดล้อมและเปิดดำเนินการอยู่แล้ว แต่ยังมีที่ดินที่เหลืออยู่ ดังนั้นการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายใน EEC จึงไม่จำเป็นต้องนำที่ดินอื่นๆ นอกเขตนิคมอุตสาหกรรมมาประกอบอุตสาหกรรม
          3. คุณสมบัติและเงื่อนไขของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอากาศยานใน EEC
          สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ร่วมกับ สกรศ. กำหนดคุณสมบัติของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอากาศยานที่เป็นนิติบุคคลที่มีผู้มีสัญชาติไทยน้อยกว่าร้อยละ 5คณะกรรมการนโยบาย ทั้งนี้เพื่อประสิทธิภาพในการดำเนินการและสนับสนุนการสร้างคลัสเตอร์อุตสาหกรรมอากาศยานให้เกิดขึ้นใน EEC ดังนี้