ประชาชน 85.09 อยากให้ข่าวความรุนแรงในครอบครัวหมดไปจากสังคมไทยในปี 2561 นี้ ขณะที่กลุ่มตัวอย่างอยากให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหาเศรษฐกิจมากที่สุด

          ศ. ดร.ศรีศักดิ์ จามรมาน ประธานกรรมการอาวุโส,อาจารย์พรพิสุทธิ์ มงคลวนิช ประธานกรรมการ,ดร.พิสิฐ พฤกษ์สถาพร กรรมการรองผู้อำนวยการ และอาจารย์วัฒนา บุญปริตร กรรมการรองผู้อำนวยการสำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม (STC) แถลงผลการสำรวจความคาดหวังของประชาชนทั่วไปในปีพุทธศักราช 256วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ซึ่งได้ทำการสำรวจระหว่างวันที่ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ถึง 4 มกราคม พ.ศ. 256วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม จากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม,วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม6สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ คน
          ศ.ดร.ศรีศักดิ์กล่าวว่า วันขึ้นปีใหม่ตามความเชื่อของผู้คนทั่วไปถือเป็นวันดีในการเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ๆ ขณะเดียวกันผู้คนจำนวนมากมักจะใช้วันปีใหม่เป็นโอกาสในการเริ่มต้นทำในสิ่งที่ตนเองตั้งใจไว้ ทั้งนี้ผู้คนในสังคมมักจะมีความตั้งใจที่จะทำสิ่งต่างๆให้กับตนเองในปีใหม่ ซึ่งเมื่อถึงสิ้นปีก็จะมีทั้งผู้ที่ได้ทำและไม่ได้ทำในสิ่งที่ตนเองตั้งใจไว้ นอกจากนี้ เมื่อถึงวันขึ้นปีใหม่ผู้คนในสังคมมักจะขอพรให้ตนเองได้พบสิ่งดีๆในปีใหม่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหน้าที่การงาน การเรียน คุณภาพชีวิต เป็นต้น รวมถึงแสดงความคาดหวังในเรื่องต่างๆที่จะเกิดขึ้นในปีใหม่ ดังนั้นเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่พุทธศักราช 256วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์จึงได้ทำการสำรวจความคาดหวังของประชาชนทั่วไปในปีพุทธศักราช 256วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม 
          ศ.ดร.ศรีศักดิ์กล่าวต่อไปว่า จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างอายุ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม5 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นเพศหญิงร้อยละ 5สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์.78 และเพศชายร้อยละ 49.22 สามารถสรุปผลได้ดังนี้ ในด้านพฤติกรรมการทำในสิ่งที่ตั้งใจจะทำในปี พ.ศ. 256สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 42.33 ระบุว่าตนเองได้ทำในสิ่งที่ตั้งใจจะทำในปี พ.ศ. 256สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ เพียงบางสิ่ง ขณะที่กลุ่มตัวอย่างมากกว่าหนึ่งในสี่หรือคิดเป็นร้อยละ 26.38 ยอมรับว่าไม่ได้ทำในสิ่งที่ตนเองตั้งใจจะทำในปี พ.ศ. 256สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ เลย มีกลุ่มตัวอย่างเพียงร้อยละ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม9.22 ระบุว่าตนเองได้ทำครบทุกสิ่งแล้ว และกลุ่มตัวอย่างร้อยละ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม2.สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์7 ระบุว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจจะทำสิ่งใดในปี พ.ศ. 256สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ เลย
          ในด้านความตั้งใจที่จะทำสิ่งใหม่ๆในปี พ.ศ. 256วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม กลุ่มตัวอย่างมากกว่าสองในสามหรือคิดเป็นร้อยละ 7สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์.สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์9 ระบุว่าตนเองตั้งใจจะทำสิ่งใหม่ๆในปี พ.ศ. 256วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม2.4วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ยอมรับว่าตั้งใจจะไม่ทำสิ่งใหม่ๆในปี พ.ศ. 256วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม เลย โดยที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม7.5 ระบุว่าตนเองยังไม่แน่ใจ
          สำหรับพรที่กลุ่มตัวอย่างขอให้กับตนเองในปี พ.ศ. 256วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม มากที่สุด 5 อันดับได้แก่ ขอให้สุขภาพแข็งแรงไม่เจ็บป่วยคิดเป็นร้อยละ 88.79 ขอให้สมาชิกในครอบครัวอยู่ร่มเย็นเป็นสุขคิดเป็นร้อยละ 86.38 ขอให้ร่ำรวยเงินทอง/มีกินมีใช้ตลอดปีคิดเป็นร้อยละ 83.36 ขอให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน/การเรียนคิดเป็นร้อยละ 8สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์.52 และขอให้ถูกสลากกินแบ่ง/สลากออมสิน/สลากต่างๆคิดเป็นร้อยละ 76.98
          ส่วนข่าวที่กลุ่มตัวอย่างอยากให้หมดไปจากสังคมไทยในปี พ.ศ. 256วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม สูงที่สุด 5 อันดับคือ ข่าวความรุนแรงภายในครอบครัวคิดเป็นร้อยละ 85.สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์9 ข่าวความรุนแรงที่กระทำกับเด็กคิดเป็นร้อยละ 82.93 ข่าวล่วงละเมิดทางเพศคิดเป็นร้อยละ 8วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม.สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์3 ข่าวการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐโดยไม่เป็นธรรมคิดเป็นร้อยละ 77.93 และข่าวการทุจริตในนโยบาย/โครงการต่างๆคิดเป็นร้อยละ 76.8วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม 
          และสำหรับความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาที่ต้องการให้รัฐบาลให้ความสำคัญในปี พ.ศ. 256วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม นั้น กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 3วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม.55 ระบุว่าในปี พ.ศ. 256วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม นี้ตนเองอยากให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหาด้านเศรษฐกิจ/ปากท้องของประชาชน (ราคาสินค้าอุปโภค/บริโภค ราคาสาธารณูปโภค รายจ่าย/รายได้) มากที่สุด รองลงมาคือปัญหาด้านการบริหารราชการแผ่นดิน (การทุจริตคอรัปชั่น/ประพฤติมิชอบ การช่วยเหลือพวกพ้อง การบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียม) คิดเป็นร้อยละ 25.86 ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม3.วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม9 ระบุว่าอยากให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหาด้านการเกษตร (ราคาสินค้าทางการเกษตร ปัญหาสินค้าทางการเกษตรล้นตลาด/ขาดแคลน) ส่วนกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 8.97 ร้อยละ 7.5 ร้อยละ 6.47 และร้อยละ 5.34 ระบุว่าปัญหาด้านความมั่นคง (ปัญหาความไม่สงบในชายแดนภาคใต้ ปัญหาการหมิ่นสถาบัน) ปัญหาด้านสังคม (ปัญหาอาชญากรรม ยาเสพย์ติด อุบัติเหตุ ความรุนแรงภายในครอบครัว หนี้นอกระบบ) ปัญหาภัยธรรมชาติ (น้ำท่วม ภัยแล้ง) และปัญหาด้านการเมือง (ความขัดแย้งทางการเมือง ความเคลื่อนไหวทางการเมือง การจัดการเลือกตั้ง) ตามลำดับ และปัญหาอื่นๆคิดเป็นร้อยละ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม.วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม2 ศ.ดร.ศรีศักดิ์กล่าว