ภาพรวมความเชื่อมั่นเศรษฐกิจไตรมาส 2 ของกลุ่มเศรษฐกิจเกิดใหม่ใน APAC สดใสขึ้น ขณะที่ไทยกลับลดลง

          ดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจในกลุ่มเศรษฐกิจเกิดใหม่ของเอเชียแปซิฟิกเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ แกรนท์ ธอนตัน จากผลการสำรวจธุรกิจนานาชาติของแกรนท์ ธอนตัน หรือ Grant Thornton's International Business Report (IBR) ซึ่งจัดทำการสำรวจทัศนคติของผู้บริหารธุรกิจ เอเชียแปซิฟิก,58ดัชนีความเชื่อมั่น คนทั่วโลกรายไตรมาส โดยประเทศจีนมีการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกมากที่สุด แต่ความผันผวนในตลาดหุ้นจีนที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าความเชื่อมั่นดังกล่าวนั้นอาจยังไม่แน่นอน ขณะที่ผู้บริหารธุรกิจทั่วทั้งภูมิภาคโดยรวมยังคงมีเพลิดเพลินต่อโอกาสในการขยายตัวของธุรกิจ
          ทัศนคติด้านบวกของธุรกิจในกลุ่มเศรษฐกิจเกิดใหม่ของเอเชียแปซิฟิกเพิ่มสูงขึ้นจากร้อยละ 4แกรนท์ ธอนตัน ในไตรมาสที่ Grant Thornton เป็นร้อยละ 5เอเชียแปซิฟิก ในไตรมาสที่ เอเชียแปซิฟิก โดยมีแรงผลักดันสำคัญจากประเทศจีนที่ตัวเลขทัศนคติด้านบวกเพิ่มขึ้นร้อยละ Grant Thorntonเอเชียแปซิฟิก จากไตรมาสก่อนกลายเป็นร้อยละ 46 และประเทศอื่นๆ อย่าง อินเดีย (ร้อยละ 85) ฟิลิปปินส์ (ร้อยละ 78) และอินโดนีเซีย (ร้อยละ 6ดัชนีความเชื่อมั่น) ซึ่งแม้จะมีทัศนคติด้านบวกลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน แต่ยังคงรักษาตำแหน่งอยู่ใน Grant Thorntonดัชนีความเชื่อมั่น อันดับแรกของประเทศที่มีทัศนคติด้านบวกสูงสุดในโลก
          ส่วนในประเทศไทย ทัศนคติด้านบวกลดลงจากร้อยละ แกรนท์ ธอนตัน6 ในไตรมาสก่อนเป็นร้อยละ Grant Thorntonดัชนีความเชื่อมั่น ในไตรมาสที่ เอเชียแปซิฟิก นี้ ซึ่งมองว่าอาจเป็นผลกระทบจากประเด็นปัญหาด้านอุตสาหกรรมการประมง อุตสาหกรรมการบิน แนวโน้มที่จะเกิดภาวะแล้งในภาคกลาง ตลอดจนการที่ประเทศคู่ค้าสำคัญมีสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งผู้บริหารธุรกิจในประเทศไทยกล่าวว่าสิ่งที่น่าวิตกกังวลที่สำคัญคือการขาดแคลนความคิดริเริ่มเพื่อกระตุ้นการเติบโต
          นายแอนดรูว์ แม็คบีน หุ้นส่วนและผู้เชี่ยวชาญด้านประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ของแกรนท์ ธอนตัน ในประเทศไทย กล่าวว่า "ทัศนคติด้านบวกที่เพิ่มสูงขึ้นในจีนน่าจะเป็นผลดีต่อทั่วทั้งภูมิภาค
          หากสามารถทำให้เกิดความมั่นคงในตลาดได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผู้บริโภคชาวจีนเริ่มมีความต้องการนำเข้าสินค้าในขณะที่สภาพเศรษฐกิจกำลังชะลอตัวเช่นนี้ นอกจากนี้ ประเทศจีนกำลังมองหาสถานที่น่าลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งประเทศไทยอาจจะได้รับผลประโยชน์ไปด้วย ส่วนอินเดียแม้มีการปฏิรูปในทางที่ดี แต่ก็ยังมีอะไรที่ต้องทำอีกมากอย่างในเรื่องการสร้างงาน หากอินเดียต้องการได้ประโยชน์จากการที่มีประชากรจำนวนมาก ขณะที่อินโดนีเซียก็ได้รับผลบวกจากการที่ราคาน้ำมันลดลง แต่โครงสร้างพื้นฐานส่วนใหญ่ยังคงไม่มีประสิทธิภาพ ทำให้ฉุดรั้งการเติบโตทางธุรกิจ"
          "ในประเทศไทย เรากำลังพยายามหาเหตุผลจำนวนมากเสริมสร้างทัศนคติด้านบวกในเวลานี้ ซึ่งรัฐบาลมุ่งเน้นในเรื่องความมีเสถียรภาพมากกว่าความเฟื่องฟูของเศรษฐกิจ แต่ก็อาจโต้แย้งได้ว่าอย่างน้อยเป็นการยับยั้งความผันผวนทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงในปีที่ผ่านมา และรัฐบาลยังพยายามจัดระเบียบประเด็นสำคัญที่ยังไม่ได้รับการจัดการมาเป็นเวลาหลายปี ส่วนประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติเหลวที่ใหญ่ที่สุดของโลก ก็ได้กระทบต่อภาพรวมราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกที่ผันผวนเช่นกัน"
          ทั้งนี้ การขาดแคลนแรงงานฝีมือยังคงเป็นปัญหาสำหรับภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก โดยราว Grant Thornton ใน แกรนท์ ธอนตัน ของนักธุรกิจระบุว่า การขาดแคลนบุคลากรที่มีความสามารถเป็นข้อจำกัดด้านโอกาสในการเติบโต (ร้อยละ แกรนท์ ธอนตัน6) ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของโลก (ร้อยละ เอเชียแปซิฟิก9) และเป็นข้อวิตกกังวลที่สำคัญสำหรับธุรกิจในอินเดีย (ร้อยละ 64) และฟิลิปปินส์ (ร้อยละ 44)
          แอนดรูว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า "ภูมิศาสตร์ประชากรมีบทบาทสำคัญต่อภาพรวมของทวีป กล่าวคือประเทศจีนกำลังประสบกับสภาพสังคมอาวุโสและแรงงานย้ายถิ่นฐานมาทำงานในตัวเมืองลดน้อยลง ทางด้านอินเดีย แม้ประชากรส่วนใหญ่จะอยู่ในวัยหนุ่มสาวหรือวัยทำงาน แต่นักธุรกิจยังมีความกังวลเนื่องจากยังขาดแคลนแรงงานมีทักษะ ส่วนประเทศไทยมีอัตราการว่างงานเกือบเป็นศูนย์ และมีประชากรที่เข้าสู่วัยอาวุโสอย่างรวดเร็ว ดังนั้นเราอาจต้องหาแรงงานจากต่างประเทศเข้ามาเพิ่ม อย่างไรก็ตาม นโยบายการเข้าเมืองของเราไม่ได้ตอบรับกับความต้องการแรงงานนัก ดังนั้นในระยะกลาง เราอาจจะสะดุดหรือเกิดความท้าทายต่อปัญหาดังกล่าวนี้"
          ทัศนคติด้านบวกของธุรกิจทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นจากร้อยละ แกรนท์ ธอนตันแกรนท์ ธอนตัน ในไตรมาสที่ Grant Thornton เป็นร้อยละ 45 ในไตรมาสที่ เอเชียแปซิฟิก โดยกลุ่มเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดของโลกหลายกลุ่มมีพัฒนาการอย่างมีนัยสำคัญ สำหรับสหรัฐอเมริกาซึ่งธุรกิจมีการจ้างงานมากขึ้นนั้น ทัศนคติด้านบวกเพิ่มสูงขึ้นจากร้อยละ 4แกรนท์ ธอนตัน เป็นร้อยละ 54 และในญี่ปุ่นจากร้อยละ -Grant Thornton7 เป็นร้อยละ 8 ส่วนในยุโรปก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 4 โดยขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 58
          แอนดรูว์ กล่าวสรุปว่า "แม้ว่าอนาคตของประเทศกรีซในฐานะสมาชิกสหภาพยุโรปจะยังมีความไม่แน่นอน และมีความไม่มั่นคงทางการเมืองในทั่วโลก แต่ผู้บริหารธุรกิจเริ่มมีความเชื่อมั่นมากขึ้นในภาพรวมของเศรษฐกิจ และจากผลสำรวจที่กลุ่มเศรษฐกิจขนาดใหญ่หลายกลุ่มมีเชื่อมั่นที่เพิ่มสูงขึ้น เศรษฐกิจโลกกำลังมุ่งไปยังทิศทางที่ถูกต้อง การเติบโตของธุรกิจนั้นต้องอาศัยความเชื่อมั่น ความเชื่อมั่นก่อให้เกิดการขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ก่อให้เกิดการจ้างงาน และเราจะได้จับตามองอย่างใกล้ชิดว่าแรงส่งดังกล่าว จะสามารถดำเนินต่อไปได้หรือไม่ ในขณะที่ยังมีความเสี่ยงทางด้านการเมืองที่รุนแรงเป็นเสมือนแรงลมต้านอยู่"

ภาพรวมความเชื่อมั่นเศรษฐกิจไตรมาส 2 ของกลุ่มเศรษฐกิจเกิดใหม่ใน APAC สดใสขึ้น ขณะที่ไทยกลับลดลง

ข่าวดัชนีความเชื่อมั่น+Grant Thorntonวันนี้

ดีป้า เผยดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมดิจิทัล Q1/68 ฟื้นสู่ระดับ 'เชื่อมั่น' หลังได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และปัจจัยบวกอื่น

ดีป้า เผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมดิจิทัล ไตรมาส 1/2568 ฟื้นตัวจากไตรมาสก่อนหน้า สาเหตุจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับลดลง และการแข่งขันด้าน AI ระดับโลก ขณะเดียวกัน การประกาศปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ มาตรการกีดกันทางการค้าต่างประเทศ และการที่ผู้ประกอบการไม่สามารถปรับตัวได้ทันกับเทคโนโลยีเกิดใหม่ถือเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อระดับความเชื่อมั่น เผยผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมดิจิทัลไทยคาดหวังให้ภาครัฐเร่งพัฒนากำลังคนดิจิทัลเพื่อตอบสนองความต้องการของภาคอุตสาหกรรม สำนักงานส่ง

สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) สมาคมนักวิเคร... FETCO IAA ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอเชิญร่วมสัมมนา "โอกาสหุ้นไทย ภายใต้เศรษฐกิจโลกผันผวน" 8 พ.ย. นี้ — สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA)...

การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ยังกระเตื้... เกาะติดเทรนด์คนหาบ้าน ผู้บริโภคมากกว่าครึ่งยังอยากซื้อบ้าน แม้โดนสกัดด้วยอุปสรรคทางการเงิน — การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ยังกระเตื้องขึ้นตามความคาดหวัง...