หุ้นกู้ทั้งหมดของบริษัทได้รับการค้ำประกันโดย Toyota Motor Finance (Netherlands) B.V. (TMF หรือ ผู้ค้ำประกัน) โดย TMF เป็นบริษัทลูกของ Toyota Financial Service Corporation (TFS) ที่ถือหุ้น 100% โดย Toyota Motor Corporation (TMC) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกลุ่มโตโยต้า บริษัททั้ง 3 แห่งคือ TMF TFS และ TMC ได้รับการจัดอันดับเครดิตระดับ “AA-” จาก Standard & Poor’s และระดับ “Aa3” จาก Moody’s Investors Service (Moody’s) รวมทั้งได้รับการจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้ระยะสั้นที่ระดับ “A-1+” จาก Standard & Poor’s และ “P-1” จาก Moody’s ด้วย อันดับเครดิตหุ้นกู้ระยะสั้นและระยะปานกลางของ TLT สะท้อนถึงการค้ำประกันแบบไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถเพิกถอนได้โดย TMF ซึ่งอันดับเครดิตของ TMF อยู่บนพื้นฐานของสถานะอันดับเครดิตของ TMC ภายใต้โครงสร้างการค้ำประกันดังกล่าว TMC ได้ทำสัญญาให้การสนับสนุนสินเชื่อ (Credit Support Agreement - CSA) กับ TFS ในขณะเดียวกัน TFS ก็ได้ทำสัญญา CSA กับ TMF ด้วยเช่นกัน ภายใต้เงื่อนไขของสัญญา CSA ดังกล่าว TMC จะทำหน้าที่รักษาสภาพคล่องทางการเงินให้อยู่ในระดับที่เพียงพอสำหรับรองรับภาระหนี้หุ้นกู้ หรือพันธบัตร และตราสารทางการเงิน (Commercial Paper) อื่น ๆ ของบริษัทลูกซึ่งได้แก่ TFS และ TMF นอกจากนี้ TMC จะเป็นผู้จัดหาสภาพคล่องทางการเงินที่เพียงพอสำหรับเงื่อนไขการค้ำประกันของ TMF ด้วย ทั้งนี้ การค้ำประกันของ TMF บังคับใช้ภายใต้กฎหมายของประเทศเนเธอร์แลนด์โดยเป็นการค้ำประกันแบบไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถเพิกถอนได้ ซึ่งผู้ค้ำประกันจะเป็นผู้รับผิดชอบในการชำระเงินตามกำหนดเวลาของหุ้นกู้แต่ละชุดที่ออกให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้ของ TLT ทั้งนี้ ภาระการค้ำประกันของ TMF มีสถานะทางกฎหมายอยู่ในระดับเดียวกับตราสารหนี้ไม่มีประกันและไม่ด้อยสิทธิอื่น ๆ ของผู้ค้ำประกันที่ออกทั้งในปัจจุบันและในอนาคต อีกทั้งยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขหรือเพิกถอนโดยปราศจากการยินยอมทั้งจากตัวแทนผู้ถือหุ้นกู้และผู้ค้ำประกัน
อย่างไรก็ตาม ผู้ค้ำประกันไม่มีภาระในการชำระหนี้ใดใดแทนในกรณีที่ผู้ออกหุ้นกู้ไม่สามารถชำระหนี้ด้วยเหตุอันเกิดจากการเข้าแทรกแซงหรือการกระทำต่าง ๆ โดยองค์กรใดใดของรัฐบาลไทย ดังนี้ (1) ชะงักการชำระเงินเนื่องจากผู้ออกหุ้นกู้ไม่สามารถโอนเงินไปให้นายทะเบียน หรือผู้ถือหุ้นกู้ หรือไม่สามารถแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเป็นสกุลเงินที่ต้องชำระตามหุ้นกู้ (2) ทำให้ต้องมีการโอนการถือหุ้นข้างมากหรือการควบคุมผู้ออกหุ้นกู้ไปยังองค์กรอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกของกลุ่มโตโยต้า (3) การเวนคืนหรือการโอนซึ่งทรัพย์สินของผู้ออกหุ้นกู้ให้เป็นของรัฐซึ่งมีมูลค่ารวมอย่างน้อย 10% ของมูลค่าสุทธิของสินเชื่อเช่าซื้อสุทธิของผู้ออกหุ้นกู้และบริษัทลูกของผู้ออกหุ้นกู้ และ (4) การเวนคืนหรือการโอนทรัพย์สินให้เป็นของรัฐอันมีผลทำให้ผู้ออกหุ้นกู้และบริษัทลูกของผู้ออกหุ้นกู้ไม่สามารถประกอบธุรกิจได้ ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งเห็นว่าโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวมีน้อยมาก
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนความน่าเชื่อถือของบริษัทแม่ลำดับสุดท้ายของ TLT คือ TMC ซึ่งได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ระดับ “AA-” จาก Standard & Poor’s และ “Aa3” จาก Moody’s โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” อันดับเครดิตองค์กรในปัจจุบันของ TMC ที่ระดับ “AA-” ซึ่งจัดโดย Standard & Poor’s และ “Aa3” โดย Moody’s สะท้อนสถานะเครดิตที่แข็งแกร่งของ TMC เมื่อเทียบกับบริษัทต่าง ๆ ในประเทศไทยที่ได้รับอันดับเครดิตในระดับ National Scale ที่ “AAA” จากทริสเรทติ้ง
ผลประกอบการของ TMC ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่รอบปีบัญชี 2556 (เมษายน 2555 - มีนาคม 2556) หลังจากอ่อนแอในช่วง 2-3 ปีก่อนหน้า โดยได้รับแรงสนับสนุนจากความพยายามในด้านกิจกรรมทางการตลาดและการลดต้นทุน TMC รายงานยอดขายรวมของรถยนต์ที่ 9.116 ล้านคันในรอบปีบัญชี 2557 ปรับเพิ่มขึ้นจาก 8.871 ล้านคันในรอบปีบัญชี 2556 บริษัทมียอดขาย 2.241 ล้านคันในไตรมาสแรกของรอบปีบัญชี 2558 ใกล้เคียงกับยอดขาย 2.232 ล้านคันในช่วงเดียวกันของรอบปีบัญชี 2557 การอ่อนค่าลงของเงินเยนตั้งแต่ปลายปี 2555 ช่วยปรับผลประกอบการทางการเงินของบริษัทให้ดีขึ้นในรอบปีบัญชี 2557 บริษัทมีกำไรสุทธิปรับเพิ่มขึ้นเป็น 1,823 พันล้านเยนในรอบปีบัญชี 2557 จาก 962 พันล้านเยนในรอบปีบัญชี 2556 กำไรสุทธิยังคงปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็น 588 พันล้านเยนในไตรมาสแรกของรอบปีบัญชี 2558 หรือเพิ่มขึ้น 4.6% จากช่วงเวลาเดียวกันของรอบปีบัญชี 2557 บริษัทยังคงมีสถานะทางการตลาดและการแข่งขันที่เข้มแข็งซึ่งได้รับแรงหนุนจากการมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและตลาดที่กระจายตัวกว้างขวาง ตลอดจนความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี และความเสี่ยงทางการเงินที่อยู่ในระดับต่ำบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (TLT)อันดับเครดิตตราสารหนี้: หุ้นกู้มีการค้ำประกันในวงเงิน 60,000 ล้านบาท ในโครงการ Medium-term Debenture: - TLT14DA: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 AAA- TLT155A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 5,400 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 AAA- TLT158A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 4,750 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 AAA- TLT15NA: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 1,115 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 AAA- TLT162A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 4,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 AAA- TLT164A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 AAA- TLT165A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 600 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 AAA- TLT168A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 2,050 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 AAA- TLT16NA: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 1,185 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 AAA- TLT174A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 AAA- TLT175A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 1,900 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 AAA- TLT184B: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 3,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 AAA- TLT188B: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 3,100 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 AAA- TLT198B: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 8,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 AAA- TLT198B: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 8,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 AAAหุ้นกู้ระยะสั้นมีการค้ำประกันในวงเงิน 40,000 ล้านบาท ครั้งที่ 1/2556 T1+ หุ้นกู้ระยะสั้นมีการค้ำประกันในวงเงิน 40,000 ล้านบาท ครั้งที่ 2/2556 T1+หุ้นกู้ระยะสั้นมีการค้ำประกันในวงเงิน 40,000 ล้านบาท ครั้งที่ 1/2557 T1+หุ้นกู้ระยะสั้นมีการค้ำประกันในวงเงินไม่เกิน 80,000 ล้านบาท ครั้งที่ 2/2557 T1+แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit