สำหรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน หรือ AEC ที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2558 นี้นั้น ผมมองว่าเป็นโอกาสของอุตสาหกรรมไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคมของไทยที่จะขยายฐานการส่งออกให้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะตลาดอาเซียนในประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ CLMV ดังนั้น ทั้งภาคอุตสาหกรรมการผลิตและภาครัฐของไทยจะต้องมีการปรับกลยุทธ์เพื่อเตรียมการรองรับการเปิด AEC ซึ่งผมขอให้ความสำคัญกับมาตรการ 3 ข้อดังที่จะกล่าวต่อไปนี้
มาตรการแรกเป็นมาตรการด้านการตลาดซึ่งภาครัฐและเอกชน จะต้องร่วมมือกันส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างแบรนด์ของผู้ผลิตไทยอย่างจริงจัง ซึ่งทางกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าฯ มีแนวคิดจะร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ภายใต้ตราสินค้า THAICO โดยการรวมตัวของผู้ผลิตสินค้าหลายๆรายและมาร่วมกันจำหน่ายและส่งออกสินค้าภายใต้ตราสัญลักษณ์เดียวกัน คือ THAICO โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการตลาดอย่างจริงจัง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดตั้งบริษัทฯ ซึ่งความคืบหน้าจะได้แจ้งให้ทราบต่อไป
มาตรการที่ 2 คือ การสร้างและสนับสนุนเครือข่าย(Cluster) โดยการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างผู้ผลิตชิ้นส่วน ผู้ผลิตสินค้าสำเร็จรูป ซึ่งจะก่อให้เกิดการรวมกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วน ซึ่งส่วนใหญ่เป็น SMEs ซึ่งนอกจากจะสร้างให้เกิดความเข้มแข็ง ยังจะก่อให้เกิดการใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศไทยให้เพิ่มขึ้นอีกด้วย
มาตรการที่ 3 คือ การสนับสนุนผู้ประกอบการไทย ซึ่งภาครัฐควรจะต้องมีนโยบายสนับสนุนและจัดซื้อสินค้าที่สามารถผลิตโดยผู้ประกอบการไทยเป็นหลัก เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมไทยให้มีศักยภาพในการพัฒนาสินค้าใหม่ให้เข้าสู่ตลาดสากล ก่อให้เกิดการจ้างงาน และมูลค่าเพิ่มในประเทศ อาทิ โครงการแจกคูปอง Set top box ของ กสทช., โครงการแจก Tablet ของกระทรวงศึกษาธิการในโอกาสต่อไป และ โครงการเปลี่ยนหลอดไฟถนน LED ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เป็นต้น
จากมาตรการที่กล่าวมาข้างต้น จะเป็นกลไลที่ช่วยสนับสนุนและส่งเสริมให้อุตสาหกรรมไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคมของไทย ยังคงรักษาฐานผลิตและเพิ่มมูลค่าการส่งออกของไทยให้เพิ่มขึ้น เพิ่มโอกาสทางการค้า ขยายตลาดไปยังผู้บริโภคกว่า 600 ล้านคนในภูมิภาคอาเซียน และในตลาดอื่นๆทั่วโลก ซึ่งจะเป็นโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการไทยที่จะได้ปรับตัวและเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการเปิด AEC ที่จะมาถึงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า