“น้ำ” ในฐานะทรัพยากรอย่างหนึ่ง เคยอุดมสมบูรณ์อย่างยิ่ง จนกระทั่งทำให้เราคิดไปว่า น้ำไม่มีทางจะหมดสิ้นไป แต่ทุกวันนี้ เราเริ่มตระหนักรู้แล้วว่า น้ำคือทรัพยากรที่มีจำกัด ใช้แล้วหมดไป ไม่ได้มีมากมายเหลือกินเหลือใช้อีกแล้ว เพราะประชากรนั้นเพิ่มมากขึ้น แต่น้ำกลับมีจำนวนเท่าเดิม
แม้ว่าในอดีต น้ำไม่เคยขาดแคลน แต่การมาของน้ำก็เป็นฤดูกาล อีกทั้งในแต่ละพื้นที่ก็มีปริมาณน้ำไม่เท่ากัน ผู้คนในอดีตจึงเรียนรู้วิธีการจัดการน้ำ ขนส่งน้ำ กักเก็บน้ำ อนุรักษ์น้ำด้วยวิธีการต่างๆ และวิธีการเหล่านั้นยังคงมีประสิทธิภาพมาจนถึงปัจจุบัน
ในงานมหกรรมวิทยาศาสต์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ปี 2556 ซึ่งจัดขึ้นที่ไบเทค บางนา ระหว่างวันที่ 6-21 สิงหาคม 2556 ได้มีการจัดนิทรรศการ “ภูมิปัญญาสู่นวัตกรรมการจัดการน้ำ”ขึ้น เพื่อนำเสนอความสำคัญของน้ำ และการจัดการน้ำด้วยภูมิปัญญาซึ่งพัฒนามาสู่นวัตกรรมการจัดการน้ำในรูปแบบต่างๆ การบริหารจัดการน้ำในช่วงวิกฤติ โดยแบ่งการนำเสนอออกเป็น 4 ส่วน ได้แก่
1. Water is life นำเสนอความสำคัญและคุณสมบัติของน้ำ
2. A Journey of water แสดงการเดินทางของหยุดน้ำที่สัมพันธ์กับวัฒนธรรมและการบริหารจัดการ
3. Water Management นำเสนอการบริหารจัดการน้ำของภาครัฐตามแนวพระราชดำริ
4. Water Technology นำเสนอเทคโนโลยีเกี่ยวกับน้ำ
โดยในส่วนของ Water is life หรือ “น้ำคือชีวิต”นั้น นิทรรศการได้นำเสนอความสำคัญและคุณสมบัติของน้ำที่น่าสนใจ เช่น ป่าไม้ต้นน้ำของประเทศไทยเหลือไม่ถึงร้อยละ 37 หรือ ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้น้ำของชาวกรุงเทพฯ ที่มีค่าเฉลี่ยสูงถึงคนละ 265 ลิตรต่อวัน ขณะที่ชาวฮ่องกงมีการใช้น้ำเฉลี่ยเพียงคนละ 112 ลิตรต่อวัน แสดงให้เห็นว่า คนกรุงเทพฯ ใช้น้ำในปริมาณที่สูงมาก
ส่วนของ A Journey of water เป็นการจำลองเส้นทางของน้ำที่สัมพันธ์กับวัฒนธรรมและการบริหารจัดการ เช่น ทางน้ำผ่าน(ฟลัดเวย์) ซึ่งเป็นเส้นทางลัดที่ช่วยผันน้ำที่ไหลบ่ามาปริมาณมาก ให้ไปตามทางน้ำเพื่อลงสู่ทะเลโดยเร็ว เป็นการป้องกันไม่ให้น้ำท่วมพื้นที่เศรษฐกิจชั้นใน , การสร้างเขื่อน สร้างฝาย เพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้ประโยชน์ในยามขาดแคลน, การทำฝนหลวง(Artificial Rain) ซึ่งเป็นกรรมวิธีการเหนี่ยวนำน้ำจากฟ้า โดยใช้เครื่องบินบรรจุสารเคมีขึ้นไปโปรยในท้องฟ้าเพื่อให้เกิดปฏิกิริยากับอุณหภูมิและความชื้นจนเกิดเป็นฝนตกลงมาในตำแหน่งที่ต้องการ ฯลฯ
ส่วนถัดมาก็คือนิทรรศการ Water Management ซึ่งนำเสนอการบริหารจัดการน้ำของภาครัฐตามแนวพระราชดำริ มีข้อมูลที่น่าสนใจคือ แนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นการบริหารจัดการน้ำตามธรรมชาติตั้งแต่ต้นน้ำ สู่กลางน้ำ และระบายออกทางปลายน้ำ โดยต้นน้ำ จะเป็นการปลูกป่า สร้างฝาย ,กลางน้ำ จะเป็นการบริหารน้ำในเขื่อน ปรับซ่อมบำรุงประตูน้ำ และปลายน้ำ จะเป็นการสร้างแนวกั้นน้ำล้อมพื้นที่สำคัญ เพิ่มความสามารถในการระบายน้ำ รวมทั้งในส่วนของภาครัฐเอง หลังจากมหาอุทกภัยปี 2554ก็ได้เริ่มโครงการออกแบบและก่อสร้างระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างบูรณาการ อาทิ การจัดทำทางผันน้ำ,การปรับปรุงพื้นที่เกษตรชลประทาน,การจัดทำระบบคลังข้อมูลเพื่อการพยากรณ์และเตือนภัย ฯลฯ
และนิทรรศการในส่วนของ Water Technology นำเสนอเทคโนโลยีเกี่ยวกับน้ำที่น่าสนใจ อาทิ เครื่องผลิตไฮโดรเจนจากน้ำ เพื่อให้ความร้อนสูงไม่มีเขม่าควัน ซึ่งนำไปใช้ในอุตสาหกรรมจิวเวลลี่, ชุดกรองน้ำดื่มพกพา Life Straw ซึ่งใช้ระบบทางจุลชีววิทยาในการกรองน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติให้กลายเป็นน้ำสะอาดบริโภคได้, เครื่องผลิตน้ำจากความชื้นในอากาศ ซึ่งใช้พลังงานไฟฟ้าดึงเอาความชื้นจากอากาศมาผลิตเป็นน้ำพร้อมดื่ม มีกำลังการผลิต 12-25 ลิตรต่อวัน
โดยเฉพาะไฮไลท์ของงานซึ่งมีคนรอคิวยาว คือ ซิมูเลชั่น “การเดินทางของสายน้ำ” โรงภาพยนตร์ขนาดเล็ก ที่ผู้ชมทุกคนจะได้รับความสนุกสนานตื่นเต้นไปพร้อมๆ กับภาพและเสียง โดยเก้าอี้นั่งที่เคลื่อนไหวด้วยระบบไฮโดรลิกจะให้ความรู้สึกร่วม เสมือนผู้ชมได้ผจญภัยไปกับสายน้ำที่เดินทางจากแหล่งน้ำธรรมชาติ ไปสู่ทะเล
น้องๆ จากโรงเรียนเพรักษมาตา จังหวัดระยอง ผลัดกันเล่าให้ฟังว่า “ในซิมูเลชั่นก็จะมีเขื่อน มีการสำรวจน้ำ มีทางระบายน้ำ เราก็ได้เดินทางร่วมกับสายน้ำ จากที่เก็บน้ำไปจนถึงป่าชายเลน เหมือนกับเราได้ล่องเรือไปตามเส้นทางน้ำ รู้สึกสนุก ตื่นเต้นมาก ชอบมาก ทำให้เราได้รู้ว่า กว่าน้ำจะไปถึงเขื่อน ต้องผ่านอะไรมาบ้าง เหมือนได้ผจญภัยไปด้วยกัน”
ส่วนรัตนา เทพยศ จากสมุทรปราการ กล่าวว่า ซิมูเลชั่น ทำให้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางของน้ำ และเหตุผลที่ต้องเก็บกักน้ำ “ได้ชมเรื่องการปล่อยน้ำจากเขื่อน ไปสู่ป่าชายเลน ทำให้เราได้รู้ว่า เราเก็บกักน้ำไปเพื่ออะไร น้ำจากธรรมชาติเดินทางมาอย่างไร ”
ร่วมเรียนรู้เรื่องน้ำและร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการจัดการน้ำ ได้ในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2556 ตั้งแต่วันนี้จนถึง 21 สิงหาคม 2556 เวลา 09.00 - 20.00 น. ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา และงานเทคโนมาร์ท ตั้งแต่วันนี้ถึง 18 สิงหาคม 2556 ณ ลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิร์ล เวลา 10.00 – 20.00 น. สำหรับโรงเรียนหรือสถาบันต่าง ๆ ที่ต้องการเข้าชมเป็นหมู่คณะ ติดต่อจองเข้าชมได้ที่ โทร. 0 2577 9960 Call Center 1313
-กภ-
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net