เบทาโกร จับมือ สวก. และ มก. เซ็น MOU ขยายผลสำเร็จนวัตกรรมผลิตเอนไซม์เคราติเนส ย่อยขนไก่เป็นโปรตีนอาหารสัตว์ ศึกษาต่อยอดนำงานวิชาการมาใช้จริงในเชิงพาณิชย์

กรุงเทพฯ--9 ต.ค.--เครือเบทาโกร

เครือเบทาโกรลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “การใช้ประโยชน์โรงงานต้นแบบและเครื่องมืออุปกรณ์จากโครงการการผลิตเอนไซม์เคราติเนสในระดับโรงงานต้นแบบ” ขยายผล สู่การศึกษาหาแนวทางนำความสำเร็จจากผลงานวิจัย มาใช้ประโยชน์จริงในเชิงวิชาการ และ เชิงพาณิชย์ ยกระดับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพของไทย นายวนัส แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เครือเบทาโกร รศ.วุฒิชัย กปิลกาญจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ รศ.ดร.พีรเดช ทองอำไพ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก. ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “การใช้ประโยชน์โรงงานต้นแบบและเครื่องมืออุปกรณ์จากโครงการการผลิตเอนไซม์เคราติเนสในระดับโรงงานต้นแบบ” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการขยายผลงานวิจัย รวมทั้งเกิดการใช้ประโยชน์โรงงานต้นแบบและเครื่องมืออุปกรณ์อย่างจริงจังเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ ภาคการเกษตรของประเทศอย่างยั่งยืน นายวนัส กล่าวว่า เครือเบทาโกร ตระหนักถึงความสำคัญของการวิจัยและพัฒนา คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร โดยถือเป็นพันธกิจสำคัญขององค์กร จึงให้การสนับสนุนงานวิจัยและพัฒนาของมหาวิทยาลัยต่างๆ มาโดยตลอด ในด้านแนวคิดที่จะผลิตเอนไซน์สำหรับการย่อยขนไก่ ถือเป็นหนึ่งในงานวิจัยและพัฒนาซึ่งเกิดจากความร่วมมือระหว่าง 3 หน่วยงาน ใช้เวลาในการวิจัยและพัฒนากว่า 2 ปี ดังนั้น เพื่อเป็นการนำผลสำเร็จที่เกิดขึ้นจากโครงการฯ มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด จึงเป็นที่มาของการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในวันนี้ เพื่อร่วมกันศึกษาหาแนวทางการนำโรงงานต้นแบบมาใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์และให้บริการในด้านวิชาการ ความสำเร็จครั้งนี้ถือเป็นการตอบโจทย์เรื่องการหาวัตถุดิบอาหารสัตว์ทดแทน แก้ปัญหาขนไก่ที่ไม่ได้นำไปใช้ประโยชน์ และช่วยลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ปัจจุบัน เครือเบทาโกรต้องสั่งซื้อเอนไซม์จากผู้ผลิตในต่างประเทศ เพื่อนำมาช่วยย่อยขนไก่ที่เหลือทิ้งจากกระบวนการแปรรูปประมาณ 1,200 ตันต่อเดือน ให้เป็นขนไก่ป่น (Feather Meal) ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนสำหรับใช้ผลิตอาหารสัตว์ โครงการดังกล่าวจึงเป็นประโยชน์อย่างมากต่อภาคอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร และเป็นตัวอย่างของงานวิจัยและพัฒนาในเชิงวิชาการที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง ก่อให้เกิดการยกระดับในภาคอุตสาหกรรมเกษตรของประเทศไทย รศ.วุฒิชัย กล่าวว่า อุตสาหกรรมการเลี้ยงไก่เนื้อในประเทศไทยมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกปี ทั้งเพื่อการบริโภคภายในประเทศและการส่งออกในรูปของไก่สดและเนื้อไก่แปรรูป ขณะเดียวกันในกระบวนการแปรรูปพบว่ามีขนไก่เหลือทิ้งในปริมาณมาก ซึ่งขนไก่เหล่านี้ประกอบด้วยโปรตีนประมาณ 85% ส่วนใหญ่เป็นโปรตีนประเภทเคราติน (Keratin) ที่ย่อยสลายได้ยาก และถ้ามีการสะสมในปริมาณมากจะก่อให้เกิดปัญหาต่อสิ่งแวดล้อม นักวิจัยของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์โดยการนำของ รศ.ดร.สุนีย์ นิธิสินประเสริฐ ได้เริ่มการวิจัยเพื่อค้นคว้าจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพในการย่อยสลายขนไก่ตั้งแต่ปีพ.ศ.2536 พบว่าจุลินทรีย์ที่ได้สามารถสร้างเอนไซม์ที่มีแนวโน้มในการประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมการย่อยขนไก่ได้ดี จึงได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องมากว่า 20 ปี และในปีพ.ศ.2554 สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) และเครือเบทาโกร ได้ให้การสนับสนุนทุนวิจัยเป็นจำนวนเงินกว่า 38 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการ “โรงงานต้นแบบการผลิตเอนไซม์ เคราติเนสสำหรับการย่อยขนไก่เพื่อใช้ในอาหารสัตว์” (Keratinase Production at Pilot Scale) โดยมีระยะเวลาดำเนินโครงการ 2 ปี 6 เดือน ขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินโครงการในระยะสุดท้าย รศ.ดร.พีรเดช กล่าวว่า ประเทศไทยยังไม่มีโรงงานผลิตเอนไซม์ในระดับอุตสาหกรรม ทั้งที่ประเทศไทยมีความหลากหลายทางชีวภาพสูง มีการคัดเลือกสายพันธุ์จุลินทรีย์ที่มีคุณสมบัติที่ดี รวมทั้งมีงานวิจัยที่ เกี่ยวขัองกับการใช้เอนไซม์ในอาหารสัตว์เป็นจำนวนมาก ภาควิชาเทคโนโลยีชีวภาพ คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สามารถแยกและคัดเลือกสายพันธุ์แบคทีเรียและเชื้อราที่มีคุณสมบัติในการสร้างเอนไซม์เคราติเนส ซึ่งผ่านการทดสอบร่วมกับศูนย์วิจัยและพัฒนา เครือเบทาโกร ในระดับห้องปฏิบัติการและในตัวสัตว์มานานกว่า 3 ปี พบว่ามีคุณสมบัติและคุณภาพในการใช้ย่อยขนไก่ได้เทียบเท่าเอนไซม์จากต่างประเทศ โรงงานต้นแบบนี้ยังสามารถใช้เพื่อการทดลองผลิตเอนไซม์ชนิดอื่นๆ ที่ใช้ในอาหารสัตว์ได้ ซึ่งมีมูลค่าในการนำเข้ามากกว่า 500 ล้านบาทต่อปี รวมทั้งเอนไซม์ที่ใช้ในอาหารสำหรับมนุษย์ เช่น หัวเชื้อในการหมักซีอิ๊ว แหนมและอาหารหมักดองอื่นๆ นับเป็นนวัตกรรมที่จะเป็นประโยชน์ต่อภาคอุตสาหกรรมเกษตรและอุตสาหกรรมอาหารของไทย และยังเป็นต้นแบบในการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตเอ็นไซม์อื่นๆ ต่อไปในอนาคต สอบถามข้อมูลข่าวเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายสื่อสารองค์กร เครือเบทาโกร ธีรานุช วรรณสาย โทร. 0 2833 8315 อีเมล์ [email protected] วิภาพรรณ อมรศักดิ์ โทร. 0 2833 8316 อีเมล์ [email protected] ขนิษฐา ลุนผา โทร. 0 2833 8317 อีเมล์ [email protected] -นท-

ข่าวสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร+มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์วันนี้

ARDA จับมือ ฟาร์ม เอ็กซ์โป และพันธมิตร เปิดศึก AGRITHON by ARDA Season 2 เฟ้นหาสุดยอดไอเดียปลุกพลังนวัตกรรมเกษตรไทย ชิงทุนวิจัยรวมกว่า 100 ล้าน

สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ ARDA ร่วมกับ ฟาร์ม เอ็กซ์โป เดินหน้าจับมือพันธมิตรยักษ์ใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กลุ่มบริษัท ซี แอล พี (CLP Group) และ การยางแห่งประเทศไทย (Rubber Authority of Thailand) เปิดเวทีการแข่งขัน "AGRITHON by ARDA Season 2" เฟ้นหาสุดยอดนวัตกรรมเกษตรระดับประเทศจากนักวิจัย สตาร์ทอัพ เกษตรกรรุ่นใหม่ และเยาวชนทั่วประเทศ คุณชวลิต ชูขจร ประธานกรรมการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) อดีตปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์คนที่ 26 กล่าวว่า

เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2568 องค์การอุตสหกรร... อ.อ.ป. ร่วมเป็นวิทยากรให้ความรู้ ในหัวข้อ "Carbon Credit โอกาสทางธุรกิจ เพื่อการฟื้นฟูโลก" — เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2568 องค์การอุตสหกรรมป่าไม้ โดยนายชาญณรง...

ผศ.ดร.วีรชัย อาจหาญ ผู้ว่าการ สถาบันวิจัย... วว. ร่วมหารือ สวก. ขับเคลื่อนภาคการเกษตรให้ยั่งยืน ด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม — ผศ.ดร.วีรชัย อาจหาญ ผู้ว่าการ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห...

สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประ... วว.ลงพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ อบรมเชิงปฏิบัติการ "การผลิตภาชนะรักษ์โลกจากเยื่อกล้วย" — สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ร่วมกับ คณะวิท...

หลักสูตรวิทยาการเกษตรระดับสูง (วกส.) รุ่น... กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปัจฉิมนิเทศน์และปิดหลักสูตรวิทยาการเกษตรระดับสูง (วกส.) รุ่นที่ 3 — หลักสูตรวิทยาการเกษตรระดับสูง (วกส.) รุ่นที่ 3 โดยหลักสูตร วกส. ...

ลำไยเป็นผลไม้เศรษฐกิจที่สำคัญ ในแต่ละปีปร... ม.มหิดล วิจัยพัฒนาบรรจุภัณฑ์ เพิ่มมูลค่า และรักษาคุณภาพสินค้าเกษตร — ลำไยเป็นผลไม้เศรษฐกิจที่สำคัญ ในแต่ละปีประเทศไทยส่งออกลำไยสดไปทั่วโลกคิดเป็นมูลค่าหลา...