กรุงเทพฯ--9 ต.ค.--ปภ.
พายุหมุนเขตร้อนเป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่มักเกิดทางด้านตะวันตกของมหาสมุทรในเขตร้อน โดยเริ่มก่อตัวจากหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงเหนือผิวน้ำทะเล และเมื่ออยู่ในสภาวะที่เอื้ออำนวยจะพัฒนาตนเองปรากฎเป็นระบบหมุนเวียนของลมอย่างชัดเจน โดยในแต่ละปีประเทศไทยจะได้รับผลกระทบจากพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนตัวผ่านเฉลี่ยปีละ ๒ – ๓ ลูก ซึ่งในช่วงเดือนตุลาคมพื้นที่ตอนบนของประเทศไทยมีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนตัวผ่าน ในขณะที่ภาคใต้ของประเทศมักได้รับผลกระทบจากพายุหมุนเขตร้อนที่ก่อตัวบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลจีนใต้ในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม โดยพื้นที่ที่พายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนตัวผ่าน จะมีฝนตกหนัก พายุลมแรง อาจทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่มในพื้นที่เสี่ยงภัยได้ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือพายุหมุนเขตร้อน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขอแนะนำให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยปฏิบัติตน ดังนี้
ก่อนเกิดพายุหมุนเขตร้อน หมั่นติดตามพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาหรือประกาศเตือนภัยจากหน่วยงานภาครัฐอย่างสม่ำเสมอ ตรวจสอบสิ่งปลูกสร้างบริเวณรอบบ้านให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง หากพบต้นไม้ ป้ายโฆษณาและเสาไฟฟ้าอยู่ในสภาพเสี่ยงต่อการหักโค่นให้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขโดยด่วน พร้อมทั้งจัดเตรียมเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน ตลอดจนย้ายปลั๊กไฟให้อยู่สูงกว่าระดับน้ำท่วมถึง และเข้าร่วมการฝึกซ้อมการอพยพหนีภัยที่หน่วยงานต่างๆจัดขึ้น ขณะพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนตัวผ่าน
ผู้ที่อาศัยในบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยทั้งที่ลาดเชิงเขา ที่ราบลุ่มริมแม่น้ำและใกล้ทางน้ำไหล ควรหลบในอาคารที่มั่นคงแข็งแรง ปิดประตู หน้าต่างอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันแรงลมพัดสิ่งของภายในบ้านเสียหาย ไม่ออกไปอยู่ในที่โล่งแจ้งเพราะอาจได้รับอันตรายจากกิ่งไม้ ใบไม้ สังกะสีและกระเบื้องที่ปลิวมาตามลมได้ พร้อมทั้งหมั่นสังเกตความเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ หากน้ำเปลี่ยนเป็นสีเดียวกับดินบนภูเขา ระดับน้ำในลำน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว มีเสียงดังมาจากป่าต้นน้ำ สัตว์ป่าแตกตื่นให้รีบอพยพขึ้นที่สูงตามเส้นทางที่กำหนด เพราะอาจเกิดน้ำป่าไหลหลากหรือดินโคลนถล่มได้ ตลอดจนหลีกเลี่ยงการขับรถหนีน้ำในเส้นทางที่กระแสน้ำไหลเชี่ยว เพราะความแรงของกระแสน้ำอาจพัดรถจมน้ำได้
ผู้ที่อาศัยบริเวณชายฝั่งทะเล ควรอพยพไปอยู่ในพื้นที่ห่างจากชายฝั่ง ไม่นำเรือออกจากฝั่ง โดยเฉพาะเรือเล็ก เพราะช่วงที่พายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนตัวผ่านจะมีฝนตกหนัก คลื่นลมในทะเลมีกำลังแรง อาจทำให้เรือล่มได้
หลังเกิดพายุหมุนเขตร้อน ไม่ควรรีบออกไปในที่โล่งแจ้ง ควรรอจนกว่าพายุสงบภายในบ้านอย่างน้อย ๒ - ๓ ชั่วโมง หากพบเห็นสายไฟฟ้าขาด เสาไฟฟ้าล้ม ไม่ควรเข้าใกล้บริเวณดังกล่าวหรือนำไม้ไปเขี่ยอย่างเด็ดขาด เพราะอาจได้รับอันตรายจากไฟฟ้าดูด ไฟฟ้าช๊อตเสียชีวิต ให้รีบแจ้งการไฟฟ้ามาดำเนินการแก้ไขโดยด่วน ถ้ามีต้นไม้ใกล้ล้มให้รีบจัดการโค้นทิ้ง เพราะหากปล่อยทิ้งไว้อาจหักโค้นลงมาสร้างความเสียหายในภายหลัง
ท้ายนี้ ขอเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ติดตามข่าวสารพยากรณ์อากาศ และเตรียมความพร้อมโดยเฝ้าระวังสถานการณ์ภัย และหมั่นสังเกตสัญญาณความเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติอย่างใกล้ชิด จะช่วยลดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินจากภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้น
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 022432200 ปภ.
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit