แพทย์เตือนภาวะเจ็บหน้าอก สัญญาณอันตรายหลอดเลือดหัวใจตีบเฉียบพลัน

กรุงเทพฯ--20 ก.ค.--พีอาร์ แอนด์ แอสโซซิเอส

แพทย์เตือนว่า ภาวะเจ็บหน้าอก หรือ Chest pain ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง เช่น กลุ่มชายสูบบุหรี่ ผู้สูงอายุ ผู้เป็นเบาหวาน ผู้ที่มีภาวะไขมันหรือโคเลสเตอรอลในเลือดสูง และความดันโลหิตสูงที่เข้าข่ายเป็นโรคหัวใจ อาจเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบและมีอันตรายต่อชีวิตได้ นายแพทย์สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ อายุรแพทย์โรคหัวใจกล่าวว่า แม้ว่าอาการเจ็บหน้าอก เกิดได้จากหลายปัจจัยและไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นโรคหัวใจเสมอไป เพราะบางครั้งเป็นอาการที่แสดงมาจากอวัยวะที่อยู่ใกล้เคียง เช่น การอักเสบของเหยื่อปอด ผู้ที่เป็นโรคกระเพาะ หรือกระดูกซี่โครงกับกล้ามเนื้อที่อยู่บริเวณดังกล่าวก็อาจทำให้เกิดอาการเจ็บหน้าอกได้ แต่หากใครมีอาการเจ็บบริเวณหน้าอกส่วนกลาง อึดอัดและหายใจไม่สะดวก ปวดร้าวไปที่กราม และแขน ส่วนมากจะเป็นที่แขนซ้ายเกิดขึ้นบ่อยๆ และปวดเป็นเวลานาน โดยเฉพาะเวลาออกกำลังกาย ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว เพราะอาการดังกล่าวเสี่ยง ต่อการเป็นโรคหัวใจตีบ นอกจากนั้นลักษณะอาการที่อาจสงสัยว่าเป็นโรคหัวใจ มี 2 ลักษณะ คือ อาการที่เกิดเป็นระยะๆ และไม่เจ็บเป็นเวลานาน มักเกิดในช่วงออกกำลังกาย หรือขณะทำกิจกรรมบางอย่างอยู่ แต่ลักษณะการเจ็บแบบนี้จะเป็นการเจ็บไม่นาน และยังไม่มีอันตรายมาก ส่วนอาการที่เป็นสัญญาณอันตรายของภาวะหลอดเลือดตีบแบบเฉียบพลัน คือ เจ็บมาก อาจมีเหงื่อออก ใจเต้นใจสั่น หายใจไม่สะดวกและเจ็บอยู่นานอย่างต่อเนื่องนานประมาณ 20 นาที หรือมากกว่านั้น การวินิจฉัยของแพทย์ว่าผู้ป่วยจะมีอาการของโรคหัวใจหรือไม่นั้น สามารถทำได้โดยให้คนไข้เดินสายพานร่วมกับตรวจเลือดเพื่อหาระดับไขมันและน้ำตาล ตรวจความดันโลหิต วิธีเหล่านี้สามารถยืนยันของภาวะโรคดังกล่าวได้ร้อยละ 50 - 60 หรือแพทย์อาจใช้วิธีตรวจคลื่นไฟฟ้า ฉีดสารกัมมันตภาพรังสีดูภาพหัวใจ การอัลตร้าซาวน์เพื่อดูการบีบตัวของหัวใจ หรือการวัดปริมาณแคลเซียมที่หลอดเลือดหัวใจ ซึ่งกลุ่มคนที่มีโอกาสเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ หรือกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเป็นโรคหัวใจ ได้แก่ ผู้ชายอายุ 60 ปีขึ้นไปที่มีภาวะความดันโลหิตสูง หรือระดับไขมันในเลือดสูง อย่างไรก็ตามภาวะโรคหัวใจดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้กับผู้ที่มีอายุน้อยได้เช่นกัน อาทิ ผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคหัวใจ เป็นต้น การรักษาก็สามารถทำได้หลายวิธี ทั้งนี้อยู่กับอาการของคนไข้และปัจจัยหลายด้าน เช่น อายุที่เพิ่มมากขึ้น จุดที่หลอดเลือดหัวใจตีบมีน้อยหรือมาก โดยขั้นแรกอาจใช้วิธีรับประทานยา ทำบอลลูนขยายหลอดเลือด ทำบายพาส หรือใส่สเตนท์ การทำบอลลูนปัจจุบันมีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยมาก ถือเป็นวิธีการรักษาได้โดยไม่ต้องผ่าตัดด้วยการเอาสายที่มีบอลลูนที่ ตรงปลายสอดใส่เข้าไปที่หลอดเลือดแขนหรือขา โดยที่เมื่อก่อนนี้การทำบอลลูนมีโอกาสที่หลอดเลือดตีบซ้ำเกิดขึ้นในระยะ 6 เดือนแรก ขณะที่การใส่สเตนท์ หรือขดลวดประดิษฐ์ลักษณะเหมือนกับสปริงเล็กๆ ทำจากสแตนเลสสตีล หรือคาร์บอน สามารถใส่เข้าไปค้ำตรงที่หลอดเลือดตีบ หลังจากทำบอลลูนแล้วจะลดอาการตีบซ้ำไม่ให้กลับมาได้อีก หรือลดได้จากระดับร้อยละ 35 - 40 ลงมาที่ระดับร้อยละ 10 - 20 ขึ้นอยู่กับคนไข้ สาเหตุการตีบซึ่งเกิดจากขดลวดที่ใส่เข้าไปนี้จะไปกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ (เช่นเดียวกับการแผลเป็น) ให้เจริญเติบโตเข้าไปในขดลวด เกิดการตีบของหลอดเลือดบริเวณที่มีขดลวดแบบเก่านี้ ในปัจจุบันได้มีพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่นำยาไปเคลือบบนขดลวด ซึ่งเมื่อใส่ขดลวดนี้เข้าไปในหลอดเลือดแล้ว ตัวยาที่เคลือบอยู่จะค่อยๆถูกปล่อยเข้าไปในผนังหลอดเลือดเพื่อทำปฏิกริยาหยุดยั้งการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ที่เกิดตามตามธรรมชาติ สามารถลดการกลับมาตีบใหม่ได้ (โดยการเติบโตของเนื้อเยื่อนี้จะเกิดภายใน 6 เดือนแรกและถ้าไม่เกิดก็จะไม่เกิดขึ้นอีก) ทำให้วิธีใส่ขดลวดที่เคลือบยาดังกล่าวลดการกลับไปตีบใหม่จากร้อยละ 20 ลงมาที่ระดับร้อยละ 5 หรือต่ำกว่าได้ และถือว่าเป็นการปฏิวัตินวัตกรรมทางการแพทย์เลยทีเดียวที่การรักษาด้วยการขยายหลอดเลือดให้ผลดีเท่ากับ/หรือดีกว่าทางผ่าตัดบายพาสในบางกรณี (แต่ยังไม่เคยมีการศึกษาเปรียบเทียบโดยตรง) อย่างไรก็ตาม แม้จะมีวิธีการรักษาที่ทันสมัยและปลอดภัยมากขึ้น แต่ผู้ป่วยก็ควรต้องดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่องด้วย ทั้งนี้ทางที่ดีที่สุดคือควรป้องกันไม่ให้เกิดโรคนี้ เช่น ควรงดการสูบบุหรี่ ป้องกันไม่ให้มีไขมันในเลือดสูง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และควรเช็คสุขภาพเป็นประจำ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ : กนกรัชต์ ทิมบุญธรรม พีอาร์ แอนด์ แอสโซซิเอส โทรศัพท์ 0-2651-8989 ต่อ 225 โทรสาร 0-2651-9649-50--จบ-- --อินโฟเควสท์ (นท)--

ข่าวโรคหลอดเลือดหัวใจ+หลอดเลือดหัวใจตีบวันนี้

CT CALCIUM SCORE การตรวจแคลเซียมหลอดเลือดหัวใจ

ตรวจแคลเซียมหลอดเลือดหัวใจ หรือ Coronary Artery Calcium (CAC) คือการตรวจวัดปริมาณแคลเซียมที่สะสมในผนังหลอดเลือดหัวใจ ด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) เพื่อประเมินความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ หากผลการตรวจระบุคราบหินปูนสะสมในปริมาณสูง ก็จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงโรคหลอดเลือดแดงแข็ง นำไปสู่ภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบตัน หรือโรคหัวใจขาดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันและเสียชีวิตได้ Calcium Score เกิดจากอะไร การเสื่อมสภาพของหลอดเลือดตามธรรมชาติในผู้ป่วยแต่ละราย

รักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบสนิท 100% โดยไม่... รักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบสนิท 100% โดยไม่ต้องผ่าตัด — รักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบสนิท 100% โดยไม่ต้องผ่าตัด ที่ศูนย์หัวใจ 24 ชั่วโมง กับโรงพยาบาลรามคำแหง โ...

คอนเซปต์ เมดิคอล ได้รับอนุมัติสถานะ IDE เพื่อศึกษาความปลอดภัยและประสิทธิภาพของสายสวนบอลลูนเคลือบยาไซโรลิมัส "เมจิกทัช" สำหรับรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบขนาดเล็ก

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (US FDA) อนุมัติสถานะผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ในการศึกษาวิจัยทางคลินิก (Investigational Device...

"โดยปกติผู้หญิงที่หมดประจำเดือนแล้ว จะมีค... หญิงวัยหมดประจำเดือน เสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ — "โดยปกติผู้หญิงที่หมดประจำเดือนแล้ว จะมีความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจตีบมากกว่าผู้หญิงในวัยอื่น และเพ...

โรคหลอดเลือดหัวใจตีบในระยะแรกมักไม่แสดงอา... เจ็บหน้าอกแบบไหน? ใช่สัญญาณเตือน "หลอดเลือดหัวใจตีบ" — โรคหลอดเลือดหัวใจตีบในระยะแรกมักไม่แสดงอาการผิดปกติ จนกระทั่งหลอดเลือดเริ่มตีบมากขึ้น กล้ามเนื้อหัว...

โรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน เป็นภัยเงียบที่คร... ตรวจหาปริมาณแคลเซียมในหลอดเลือดหัวใจ ได้แล้วที่โรงพยาบาลธนบุรี 2 — โรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน เป็นภัยเงียบที่คร่าชีวิตคนไทยอย่างต่อเนื่องอาการที่สังเกตได้ คื...

โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ในระยะแรกผู้ป่วยอาจม... หลอดเลือดหัวใจตีบ โรคร้ายที่อาจมาแบบไม่รู้ตัว — โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ในระยะแรกผู้ป่วยอาจมีอาการเจ็บหน้าอกในขณะออกแรง เมื่อได้พักอาการก็จะหายไป หรือ...

MagicTouch SCB ได้รับการรับรองสถานะ Breakthrough Device Designation สำหรับใช้รักษารอยโรคหลอดเลือดหัวใจเล็ก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาใหญ่

Concept Medical Inc. (CMI) ได้รับการรับรองสถานะ "Breakthrough Device Designation" จากศูนย์อุปกรณ์และรังสีวิทยา (CDRH) ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA)...

โรงพยาบาลกรุงเทพ ขอเชิญท่านเข้ารับการตรวจ... แพคเกจการตรวจสุขภาพหลอดเลือด ด้วย PVR (Pulse volume recoding) วันนี้ – 31 ธันวาคม 2563 — โรงพยาบาลกรุงเทพ ขอเชิญท่านเข้ารับการตรวจวิเคราะห์หลอดเลือดแดง ด้...