บสท. กับการรับโอนหนี้ด้อยคุณภาพจาก IFCT

กรุงเทพฯ--9 ม.ค.--บสท. บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) จัดตั้งขึ้นตามพระราชกำหนดบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย พ.ศ. 2544 ทำหน้าที่เร่งรัดการแก้ปัญหาหนี้ด้อยคุณภาพ ด้วยการรับโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพจากสถาบันการเงิน และบริษัทบริหารสินทรัพย์ทั้งของรัฐและเอกชน บสท. จะนำลูกหนี้เหล่านั้นมาบริหารจัดการเพื่อให้ลูกหนี้ที่สุจริตและมีศักยภาพสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ และแก้ไขปัญหาสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non Performing Loan-NPL) ของสถาบันการเงิน ปัจจุบัน บสท. ได้รับโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพมาแล้วกว่า 5,000 ราย รวมมูลค่าทางบัญชีกว่า 7 แสนล้านบาท โดยรับโอนจากสถาบันต่างๆรวม 29 แห่ง ประกอบด้วย บริษัทบริหารสินทรัพย์ 7 แห่งและสถาบันการเงินที่กำหนดตามมาตรา 3 ใน พ.ร.ก. บสท. พ.ศ.2544 คือ 1) ธนาคารพาณิชย์ 11 แห่ง( ไม่รวมสาขาของธนาคารต่างประเทศ ) 2) บริษัทเงินทุนและบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ 11 แห่ง นอกจากสถาบันการเงินต่างๆ ข้างต้นแล้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้มีประกาศให้บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (The Industrial Finance Corporation of Thailand หรือ IFCT) เป็นสถาบันการเงินตามมาตรา 3 แห่ง พ.ร.ก. บสท. พ.ศ.2544 เพิ่มเติม โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2545 บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จึงถือเป็นสถาบันการเงินซึ่งอยู่ในข่ายที่จะโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพให้แก่ บสท. ซึ่งคาดว่าจะรับโอนในปี 2545 นี้ โดย บสท. จะประกาศกำหนดการรับโอนอย่างเป็นทางการต่อไป สินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่ บสท. จะรับโอนจาก IFCT จะต้องเป็นสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่มีอยู่ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2543 และต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้ 1) เป็นลูกหนี้ที่เป็นนิติบุคคลและมีเจ้าหนี้เป็นสถาบันการเงินหรือบริษัทบริหารสินทรัพย์ตั้งแต่ 2 รายขึ้นไป 2) มูลค่าสินทรัพย์ด้อยคุณภาพตามบัญชีของเจ้าหนี้ทุกสถาบันรวมกันสำหรับลูกหนี้แต่ละรายเป็นจำนวนเงินตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป 3) เป็นสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่มีทรัพย์สินเป็นหลักประกันการชำระหนี้ ทั้งนี้ สินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่มีลักษณะดังต่อไปนี้ ไม่เข้าข่ายที่ต้องโอนไปยัง บสท 1) ลูกหนี้ที่ศาลล้มละลายมีคำสั่งเห็นชอบแผนฟื้นฟูกิจการแล้วก่อนวันที่ พ.ร.ก. มีผลบังคับใช้ 2) ลูกหนี้ที่ IFCT ได้ยื่นฟ้องต่อศาล และศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาหรือศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ก่อนวันโอน 3) ลูกหนี้ที่ชำระหนี้เสร็จสิ้นแล้ว 4) ลูกหนี้ที่ได้มีการตกลงปรับโครงสร้างหนี้เป็นหนังสือก่อนวันที่ 9 กรกฎาคม 2544 และลูกหนี้ยังไม่เคยผิดนัดชำระหนี้ หรือผิดเงื่อนไขที่ได้ตกลงปรับปรุงโครงสร้างหนี้ไว้ก่อนวันโอน 5) สินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่มาจากการจำหน่ายขององค์การเพื่อการปฎิรูปสถาบันการเงิน 6) ลูกหนี้ซึ่งเป็นสถาบันการเงินที่ถูกระงับกิจการโดยกระทรวงการคลังและอยู่ในขั้นตอนการชำระบัญชี นับจากวันที่ บสท. รับโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพดังกล่าว สิทธิเรียกร้องในหนี้และสิทธิอื่นใดทั้งปวงที่ IFCT มีต่อลูกหนี้ ตลอดจนสิทธิจำนองและสิทธิจำนำเกี่ยวพันกับสิทธิเรียกร้องและสิทธิอื่นดังกล่าว รวมทั้งสิทธิอันเกิดจากการค้ำประกันเพื่อสิทธิดังกล่าวย่อมโอนและตกเป็นของ บสท. การโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพจาก IFCT มายัง บสท. จะทำให้เกิดความคล่องตัวในการบริหารและ IFCT จะสามารถปล่อยสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งจะช่วยลดต้นทุนใน การดูแลสินทรัพย์ด้อยคุณภาพของ IFCT ด้วย อันจะเป็นประโยชน์ต่อการสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและระบบสถาบันการเงินโดยรวมของประเทศต่อไป สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย หรือกรณีที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพของ บสท. สามารถยื่นเรื่องร้องเรียน พร้อมแสดงหลักฐาน ข้อเท็จจริงและเหตุผลประกอบคำร้องเรียนมาที่ ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน ชั้น 22 อาคารเอ็กซิม ถนนพหลโยธิน พญาไท กรุงเทพฯ 10400 หรือ โทร. 02-265-5198-99 Fax : 0-2265-5197 หรือติดต่อผ่านทาง E-mail: [email protected] และที่ ตู้ ปณ. 50 ปณฝ. สนามเป้า กรุงเทพฯ 10406--จบ-- -ศน-

• ข่าวสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้
• ข่าวบริษัทบริหารสินทรัพย์
• ข่าวบริหารสินทรัพย์ไทย
• ข่าวบริหารสินทรัพย์
• ข่าวสถาบันการเงิน