"สธ.1" ออกนโยบายคุมเข้ม อ.ย. เผยปี 39 ลงแส้ผู้ฝืนกฎหมายกว่า 3,000 คดี

กรุงเทพ--20 พ.ย.--กระทรวงสาธารณสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สั่งการอ.ย.และสำนักงานสาธารณสุขทั่วประเทศ คุมเข้มความปลอดภัยอาหารและยาอย่างใกล้ชิด หากมีใครฝ่าฝืนกฎหมาย จะได้รับโทษทันที พร้อมมีรางวัลให้พลเมืองดีที่แจ้งเบาะแสแหล่งผลิตที่ฝืนกฎหมาย สัดส่วนสูงถึง 35% ของค่าปรับ เผยปีที่ผ่านมามีผู้ประกอบการทั่วประเทศถูกลงแส้กว่า 3,000 ราย นายรักเกียรติ สุขธนะ รัฐมนตรีว่าการทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการดำเนินงานปกป้องความปลอดภัยด้านสุขภาพประชาชนว่า ได้แบ่งงานให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขทั้ง 2 ท่านดูแลกำกับหน่วยงานต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว โดยนายธีระวัฒน์ ศิริวัณสาณฑ์ ดูแลกรมอนามัย กรมควบคุมโรคติดต่อ และกรมสุขภาพจิต ส่วนนายคำรณ ณ ลำพูน ดูแลกรมการแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข ที่เหลือคือสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา องค์การเภสัชกรรม และสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข อยู่ในความดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายรักเกียรติ กล่าวว่า สำหรับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ซึ่งมีบทบาทอย่างมากในการดูแลความปลอดภัย และพัฒนาสุขภาพเบื้องต้นของประชาชน ตนได้มอบนโยบายให้เพิ่มความปลอดภัยด้านนี้ให้มากและใกล้ชิดยิ่งขึ้น ทั้งนี้เนื่องจากในขณะนี้ประเทศกำลังประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ ซึ่งอาจจะเป็นช่องทางให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบประชาชนได้ง่าย หรือพ่อค้าอาจเห็นแก่ได้มากกว่าการคำนึงถึงความปลอดภัยของสินค้า จึงได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาและสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศมีการเฝ้าระวังตรวจสอบมาตรฐานอย่างใกล้ชิด หากพบผู้กระทำผิดให้ดำเนินการตามขั้นตอนกฏหมายทันที ทางด้านนายแพทย์มงคล ณ สงขลา เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า ปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาได้เปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้มีบทบาทในการเฝ้าระวังอันตรายแก่สังคมด้วย ซึ่งจะทำให้การเฝ้าระวังเป็นไปอย่างทั่วถึงยิ่งขึ้น โดยได้เพิ่มสินบนนำจับมูลค่าสูงถึง 35% ของค่าปรับ ให้แก่พลเมืองดีที่แจ้งเบาะแสผู้ประกอบการที่สงสัยว่าจะกระทำไม่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยให้แจ้งที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หมายเลขโทรศัพท์ 02-590-7092, 591-8487-8 หากอยู่ในต่างจังหวัดสามารถแจ้งที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในจังหวัดนั้น ๆ เพื่อจะได้จัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบทันที โดยในปีนี้ทั่วประเทศได้รับการชี้เบาะแสจากประชาชนแล้วประมาณ 80 รายอยู่ระหว่างการดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนใหญ่จะเป็นการกระทำผิดด้านอาหารที่ไม่บริสุทธิ์ นายแพทย์มงคลกล่าวต่อไปว่า ในปีที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาได้ดำเนินการตามกฎหมาย ผู้ประกอบการที่ผลิตน้ำดื่มบรรจุขวด เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง ยา อาหาร ที่กระทำฝ่าฝืนกฎหมายต่าง ๆ รวมกว่า 3,000 ราย แบ่งเป็นถูกลงโทษโดยให้งดการผลิต จำนวน 182 ราย ดำเนินการยึดอายัดผลิตภัณฑ์ รวม 826 ราย ตักเตือน 1376 ราย และตัดสินคดีขั้นเด็ดขาดตามกฎหมาย 571 รายในจำนวนนี้เป็นผู้ประกอบการด้านยา 386 ราย ที่เหลือเป็นอาหาร--จบ--

• ข่าวสำนักงานสาธารณสุข
• ข่าวรักเกียรติ สุขธนะ
• ข่าวกระทรวงสาธารณสุข
• ข่าวกระทรวงสาธารณ
• ข่าวผู้ประกอบการ