กรุงเทพ--21 ต.ค.--สนง.คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายวิรัตน์ วัฒนศิริธรรม เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และคณะผู้บริหาร ประกอบด้วย นายไพโรจน์ สุจินดา รองเลขาธิการฯ นายสันติ บางอ้อ รองเลขาธิการฯ นายพรชัย รุจิประภา ที่ปรึกษาฯ และนายโกมล ชอบชื่นชม ผู้ช่วยเลขาธิการฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ สศช. เดินทางไปตรวจราชการภาคเหนือและประชุมเพื่อมอบหมายนโยบายและภารกิจให้แก่ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาภาคเหนือและเจ้าหน้าที่
นายวิรัตน์ วัฒนศิริธรรม เลขาธิการ สศช. ได้กล่าวมอบนโยบายให้แก่ศูนย์พัฒนาภาคเหนือว่าควรกำหนดบทบาทและภารกิจของศูนย์พัฒนาภาคให้สอดคล้องกับข้อจำกัดของอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ที่มีอยู่ และการทำงานของศูนย์แต่ละภาคไม่จำเป็นต้องปฏิบัติในเรื่องเดียวกัน ทั้งนั้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและความสอดคล้องกับปัญหาหลักของแต่ละภาค เช่น ภาคเหนือปัญหาสังคม ปัญหาทรัพยากรธรรมชาติ เป็นต้น
นอกจากนี้ รูปแบบการทำงานของศูนย์พัฒนาภาคอาจแตกต่างกัน เพราะภารกิจองค์กร และกลไกการทำงานในระดับภาคไม่เหมือนกัน เช่น ภาคใต้ มีคณะกรรมการพัฒนาภาคใต้ ซึ่งมีบทบาทดูแลการพัฒนาภาคใต้ครอบคลุมทั้งภาค เป็นต้น
สำหรับภารกิจของศูนย์พัฒนาภาค นายวิรัตน์ เลขาธิการ สศช. กล่าวว่า การกำหนดภารกิจของศูนย์พัฒนาภาคให้ชัดเจนนั้นค่อนข้างยาก เนื่องจากได้รับการคาดหวังว่าจะต้องตอบสนองความต้องการของทั้งสศช. ส่วนกลางและหน่วยงานราชการและองค์กรต่าง ๆ ในพื้นที่ซึ่งศักยภาพของศูนย์พัฒนาภาคในปัจจุบันไม่สามารถรองรับงานทั้งสองส่วนพร้อมกันได้ทุกเรื่อง ดังนั้นแนวทางที่เป็นไปได้คือ ศูนย์พัฒนาภาคควรกำหนดบทบาทภารกิจเฉพาะเรื่องหลัก ๆ ที่สำคัญตามแผนฯ 8 และความจำเป็นของพื้นที่
เลขาธิการ สศช. ยังกล่าวอีกว่า ศูนย์พัฒนาภาคต้องมีความชัดเจนว่าจะทำอะไร ผลสำเร็จคืออะไร และจะใช้เวลาดำเนินงานเท่าใด ซึ่งอาจแบ่งเป็น 2 กลุ่มงานหลัก คือ ภารกิจที่เกิดจากศูนย์พัฒนาภาคเอง และภารกิจที่มาจาก สศช. ส่วนกลาง โดยเน้นด้านพื้นที่ (Area Approach) รวมทั้งควรกำหนดกรอบการทำงานของศูนย์พัฒนาภาคให้ชัดเจน ซึ่งควรประกอบด้วย
1)งานการพัฒนาระบบข้อมูลพื้นฐาน ควรมีระบบข้อมูลพื้นฐานของภาคและข้อมูลประเด้นปัญหาของภาค เช่น ข้อมูลโรคเอดส์ ข้อมูลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อใช้ประกอบการวางแผนและให้บริการแก่ส่วนราชการและองค์กรเอกชน
2)การวางแผนหรือการศึกษาเชิงนโยบาย ควรมีการจัดทำแนวทางการพัฒนาภาคและพื้นที่เฉพาะ เช่นยุทธศาสตร์การลงทุนกลุ่มจังหวัด แผนปฏิบัติการฟื้นฟูยกระดับเศรษฐกิจสังคมพื้นที่เฉพาะ 3 จังหวัด (พะเยา แพร่ น่าน) เป็นต้น
3)การประสาานนโยบายการพัฒนาในระดับพื้นที่ควรมีการประสานกันเพื่อให้เกิดการปฏิบัติตามแผนฯ 8 ตามแนวทางการพัฒนาภาค ยุทธศาสตร์การลงทุนกลุ่มจังหวัด และแผนพัฒนาพื้นที่เฉพาะ รวมทั้งงานทางด้านวิชาการควรประสานการศึกษาในประเด็นต่าง ๆ ของภาคโดยเฉพาะเป็นเรื่อง ๆ ไป
4)การติดตามและประเมินผลการพัฒนาภาค ควรทำเรื่องเฉพาะที่เห็นว่ามีความจำเป็น โดยอาจทำในลักษณะดัชนีชี้วัดผลการพัฒนาที่สำคัญ ๆ
นอกเหนือจากการประชุมเพื่อมอบนโยบายและภารกิจให้แก่ศูนย์พัฒนาภาคเหนือแล้ว เลขาธิการ สศช. พร้อมด้วยคณะผู้บริหารดังกล่าว ยังได้เดินทางไปดูงานโรงไฟฟ้าพลังความร้อนใต้พิภพฝาง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาพลังงานทดแทนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ตอบสนองนโยบายรัฐบาลเกี่ยวกับการนำเอาทรัพยากรธรรมชาติที่ยังไม่เคยดำเนินการมาก่อนมาทำการผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อทดแทนน้ำมันและถ่านหิน และโครงการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานน้ำพุร้อน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นโครงการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของอำเภอฝาง ซึ่งได้แก่บ่อน้ำร้อน บ่อพุร้อน น้ำตก และโรงไฟฟ้าพลังความร้อนใต้พิภพซึ่งอยู่บริเวณเดียวกันด้วย--จบ