คงปฎิเสธไม่ได้ว่า "ความอ่อนเพลียระหว่างวัน" คือศัตรูตัวร้ายของวัยทำงานโดยเฉพาะ ในช่วงเวลาหลังพักเที่ยงที่หนังท้องตึงหนังตาหย่อน อยากจะประท้วงขอปิดทำการชั่วคราวให้ได้ ส่งผลถึงประสิทธิภาพการทำงานโดยรวม ดังนั้นอย่าปล่อยให้ความอ่อนเพลียทำร้ายจนทำงานไม่ได้ดั่งใจ พญ.กฤดากร เกษรคำ แพทย์ American Board of Anti-Aging Medicine จาก Addlife Anti-Aging Center ชั้น คิวเฮ้าส์ ไลฟ์เซ็นเตอร์ (คิวเฮ้าส์ ลุมพินี) มาบอกเคล็ดไม่ลับวิธีแก้อาการอ่อนเพลียระหว่างวัน รวมถึงอาการเหนื่อยง่าย เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ลองทำตามนี้ดูนะคะ
- ถ้ารู้ตัวว่านอนน้อย ตื่นมาให้รีบทำแบบนี้ถ้ารู้ตัวว่าในคืนที่ผ่านมาพักผ่อนไม่เพียงพอ และไม่อยากอ่อนเพลียระหว่างวัน แนะนำให้รีบดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อย 300-400 มิลลิลิตร ทันทีหลังตื่นนอน เพื่อเติมน้ำที่ขาดไประหว่างหลับ สร้างความสดชื่นให้ร่างกาย รวมถึงช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญ จากนั้นให้ออกไปรับแสงแดดยามเช้าสักครู่หนึ่ง เนื่องจากจะช่วยกระตุ้นการผลิตสารเซโรโทนินในสมอง ซึ่งมีบทบาทในการปรับอารมณ์และทำให้รู้สึกตื่นตัวหลายคนเข้าใจผิดว่าถ้านอนไม่พอ ตื่นมาต้องรีบซัดกาแฟ ยิ่งเข้มยิ่งดี ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะการดื่มกาแฟทันทีหลังตื่นอาจทำให้ระดับคอร์ติซอลในร่างกายเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้น วิธีแก้อาการอ่อนเพลียที่ถูกต้องคือ ทิ้งช่วงรอก่อนดื่มประมาณ 1 ชั่วโมงหลังตื่น จะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์จากคาเฟอีนอย่างเต็มที่
อีกหนึ่งเรื่องที่ควรรู้คือ มื้อเช้าควรเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น โดนัท ขนมปัง ซีเรียล เพราะระดับน้ำตาลที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจะเกิดภาวะน้ำตาลตกหลังจากนั้น ทำให้ง่วงซึมได้
- ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร
อาหารมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างพลังงานในแต่ละวัน ดังนั้น จึงควรเลือกกินอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ โปรตีน ไขมันดี คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน วิตามินและแร่ธาตุ เช่น ผัก ผลไม้ ถั่ว และธัญพืช ซึ่งช่วยให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในทางตรงกันข้าม วิธีแก้อาการเหนื่อยง่ายระหว่างวันคือ ควรหลีกเลี่ยงอาหารเที่ยงที่มีการพองตัวมากในกระเพาะ เช่น ข้าวเหนียว ก๋วยเตี๋ยว ขนมปัง เพราะจะทำให้รู้สึกหนักท้องและง่วงนอนหลังมื้อเที่ยง
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ
วิธีแก้อาการอ่อนเพลียระหว่างวันที่ใกล้ตัวและทำได้ง่ายที่สุดคือ การดื่มน้ำให้เพียงพอ เนื่องจากน้ำมีความสำคัญต่อการทำงานของร่างกาย การขาดน้ำเพียงเล็กน้อยก็ทำให้เกิดอาการอ่อนเพลียได้ ปริมาณน้ำดื่มที่แนะนำต่อวันโดยทั่วไปคือ 30 มิลลิลิตรต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม หรือประมาณวันละ 8 แก้ว โดยควรค่อย ๆ จิบเฉลี่ยให้ทั่วทั้งวัน อย่าดื่มรวดเดียวในปริมาณมาก
- หาเวลางีบระยะสั้น ๆ
อีกหนึ่งวิธีแก้อาการเหนื่อยง่ายระหว่างวันคือ การหาเวลางีบหลับสั้น ๆ ประมาณ 10-20 นาที หรือที่เรียกว่า "Power Nap" โดยวิธีนี้ถ้าทำอย่างถูกต้องจะช่วยเติมพลังงานให้สมองได้ดีทีเดียว อ้างอิงจากงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ระบุว่าการงีบระหว่างวัน 10-20 นาทีช่วยเพิ่มความตื่นตัว เพิ่มความจำ และช่วยตัดสินใจได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ไม่ควรงีบนานเกิน 30 นาที เพราะร่างกายจะเริ่มเข้าสู่ช่วงหลับลึก ซึ่งถ้าต้องตื่นขึ้นมาในระยะนี้อาจรู้สึกมึนงงปวดหัวได้
- ถ้าต้องทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ทั้งวันแนะนำวิธีดังนี้
การจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์นาน ๆ จะทำให้ตาล้าและแห้ง ดังนั้น วิธีแก้อาการอ่อนเพลียระหว่างวันวิธีสุดท้ายที่อยากแนะนำ และเหมาะมาก ๆ กับวัยทำงานที่ต้องนั่งหน้าจอตลอดทั้งวันคือ ควรพักสายตาทุก ๆ 20 นาที โดยมองไปยังวัตถุที่อยู่ห่างออกไป 20 ฟุต เป็นเวลา 20 วินาที (กฎ 20-20-20)
นอกจากนี้การนั่งทำงานเป็นเวลานานจะทำให้กล้ามเนื้อตึงเครียดและเลือดไหลเวียนไม่ดี ควรลุกขึ้นเดิน ยืดเหยียดกล้ามเนื้อเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และลดอาการเมื่อยล้าทุก ๆ 1-2 ชั่วโมง โดยเมื่อเลือดไหลเวียนได้ดี อาการเหนื่อยล้าก็ย่อมบรรเทาลงด้วยเช่นกัน
ถ้าทำตามที่กล่าวมาแล้วไม่ดีขึ้น อยากแก้อาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ไม่มีแรง แบบตรงจุด ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย สามารถตรวจหาสาเหตุและรักษาอาการอ่อนเพลียได้อย่างตรงจุด เพื่อให้ร่างกายกลับมาสดชื่น กระปรี้กระเปร่า พร้อมใช้ชีวิตได้เหมือนวัยหนุ่มสาวอีกครั้ง ลองปรึกษาผู้เชี่ยวชาญดูนะคะ
โรคเบาหวาน (Diabetes) ที่เราคุ้นเคยกันจะเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งเป็นโรคที่ระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ (60-110 mg/dL) แบบเรื้อรัง โดยปกติอินซูลิน (Insulin) จะเป็นตัวนำน้ำตาลเข้าสู่เซลล์ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดปกติ แต่ถ้ามีความผิดปกติของตับอ่อน ทำให้ผลิตอินซูลินได้น้อยลง หรือมีภาวะดื้ออินซูลิน ก็จะทำให้น้ำตาลในเลือดสูงหรือเป็นโรคเบาหวานนั่นเอง พญ.กฤดากร เกษรคำ แพทย์ American Board of Anti-Aging Medicine จาก Addlife Anti-Aging Center ชั้น 2 ไลฟ์เซ็นเตอร์ (คิวเฮ้าส์ ลุมพินี)j ได้อธิบายเพิ่มเติม
คู่มือดูแลตัวเองในวัย 40
—
ใครบ้างคะ...ที่ช่วงนี้กำลังอินกับพระเอกหนุ่มใหญ่ซีรีส์เกาหลี แม้อายุจะเข้าเลข 4 แต่ก็ยังหล่อโอปป้า ทำสาวไทยใจละลาย...
อาหารที่ดีต่อหัวใจ
—
เดือนแห่งความรักนี้ มาลองเช็คสุขภาพหัวใจกันหน่อยค่า หัวใจแข็งแรงดีอยู่ไหม? เพราะหัวใจเป็นอวัยวะที่สำคัญ การรักษาสุขภาพหัวใจเป็น...
ตรวจสุขภาพเชิงป้องกันสำหรับผู้สูงวัยสำคัญอย่างไร?
—
เริ่มต้นปีใหม่มาดูแลสุขภาพกันตั้งแต่ต้นปีด้วยการตรวจสุขภาพกันนะคะ ตรวจสุขภาพประจำปีเป็นสิ่งจำเป็นเพ...
เปิดลิสต์ 7 อาหารช่วยชะลอวัย
—
อยากมีสุขภาพดีไม่ใช่เรื่องยาก ยุคนี้มีตัวช่วยมากมายทั้งวิตามินเทคโนโลยี แต่ถ้าอยากชะลอวัยแบบง่ายๆ ทำได้ด้วยตัวเอง สามารถ...
เคล็ดไม่ลับแก้อาการอ่อนเพลียระหว่างวัน
—
คงปฎิเสธไม่ได้ว่า "ความอ่อนเพลียระหว่างวัน" คือศัตรูตัวร้ายของวัยทำงานโดยเฉพาะ ในช่วงเวลาหลังพักเที...
อาหารสำหรับวัยทอง
—
เมื่อเข้าสู่วัยทองหรือช่วงอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป ร่างกายก็เริ่มผลิตฮอร์โมนทางเพศได้ไม่เหมือนเดิม นำมาซึ่งอาการผิดปกติมากมาย ไม่ว่าจะ...
ตรวจส่องกล้องทางเดินอาหาร จำเป็นไหม ใครควรตรวจ?
—
การตรวจสุขภาพพื้นฐานเป็นสิ่งที่ควรตรวจเป็นประจำทุกปี เพื่อป้องกันความเสี่ยงก่อนที่จะเกิดโรค และนอกจ...
5 สารอาหารช่วยบำรุงสมองและระบบประสาท
—
สมองล้า เพลีย ไม่ปลอดโปร่ง ความจำแย่ลง ระบบประสาทเสื่อม เช่น ชาปลายมือ ปลายเท้า เหล่านี้เกิดได้จากหลายสาเหตุ ได้...
How to ต่อสู้ฝุ่น PM2.5
—
PM 2.5 หรือ ฝุ่นควันพิษ ยังคงเป็นปัญหาที่ไม่ได้รับการแก้ไข และยิ่งดูเหมือนจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาได้ ...