นางอังคณา พุทธศรี ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 1 เชียงใหม่ (สศท.1) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า "ถั่วเหลือง" นับเป็นพืชเศรษฐกิจสร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยคณะอนุกรรมการพัฒนาการผลิตถั่วเหลือง ได้จัดทำยุทธศาสตร์ถั่วเหลืองและความมั่นคงทางด้านอาหาร ระยะเวลา 20 ปี (พ.ศ. 2561-2579) โดยมีเป้าหมายเพิ่มพื้นที่ปลูกถั่วเหลืองเป็น 2.5 ล้านไร่ ในปี 2579 มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและยกระดับมาตรฐานสินค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีศักยภาพในรูปแบบการเกษตรแปลงใหญ่และพื้นที่ปลูกหลังนา เพื่อการลดต้นทุนการผลิต เพิ่มผลผลิตต่อหน่วยการพัฒนาคุณภาพมาตรฐานตรงตามความต้องการของตลาด
ปัจจุบัน สถานการณ์การผลิตถั่วเหลืองในพื้นที่ภาคเหนือ รวม 17 จังหวัด มีประมาณ 88,563 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 85 ของพื้นที่เพาะปลูกทั้งประเทศ (พื้นที่ปลูกทั้งประเทศ 104,193 ไร่ ข้อมูล ณ กุมภาพันธ์ 2564) แบ่งเป็นถั่วเหลืองรุ่น 1 ปลูกช่วงพฤษภาคม - ตุลาคม พื้นที่ปลูกประมาณ 46,960 ไร่ และถั่วเหลืองรุ่น 2 เริ่มปลูกช่วงพฤศจิกายน - เมษายนของปีถัดไป พื้นที่ปลูกประมาณ 41,603 ไร่ ซึ่งแหล่งปลูกสำคัญอยู่ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เขียงรายกำแพงเพชร สุโขทัย แพร่ และเชียงใหม่
ที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายส่งเสริมให้เกษตรกรรวมกลุ่มการผลิตในลักษณะแปลงใหญ่ โดยดำเนินการผ่านสหกรณ์การเกษตร เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรการผลิตร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถลดต้นทุนการผลิตและการตลาด ซึ่ง สศท.1 ได้ติดตามสถานการณ์การผลิตถั่วเหลืองรุ่น 2 ปีเพาะปลูก 2562/63 ของสหกรณ์นิคมแม่แตง จำกัด ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตถั่วเหลืองขนาดใหญ่ เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2517 ปัจจุบันมีสมาชิก 400 ราย พื้นที่ปลูกประมาณ 1,000 ไร่ เกษตรกรนิยมปลูกพันธุ์เชียงใหม่ 60 มีต้นทุนการผลิตรวมจนถึงเก็บเกี่ยวเฉลี่ย 4,452 บาท/ไร่/รอบการผลิต ระยะเวลาเพาะปลูกจนถึงเก็บเกี่ยว 120 วัน ผลผลิตรวมประมาณ 245 ตัน/รอบการผลิต ผลผลิตเฉลี่ย 245 กิโลกรัม/ไร่/รอบการผลิต ให้ผลตอบแทน 4,532 บาท/ไร่/รอบการผลิต ราคาที่เกษตรกรขายได้เมล็ดความชื้น 13% อยู่ที่ 18.50 บาท/กิโลกรัม (ราคา ณ มีนาคม 2564) ด้านสถานการณ์ตลาด ผลผลิตส่วนใหญ่ร้อยละ 45 เกษตรกรจำหน่ายผลผลิตให้กับสหกรณ์ โดยเกษตรกรเก็บเกี่ยวและตากเองก่อนส่งจำหน่ายให้กับสหกรณ์ รองลงมาร้อยละ 32 ส่งจำหน่ายพ่อค้ารายย่อยลักษณะเช่นเดียวกับจำหน่ายให้กับสหกรณ์ คือ เก็บเกี่ยวและตากเองก่อนส่งจำหน่าย ส่วนร้อยละ 23 ส่งจำหน่ายพ่อค้ารายใหญ่ในจังหวัดที่มารับซื้อถึงไร่นาเท่านั้น โดยพ่อค้าจะต้องมีเครื่องนวดเพื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตเอง
นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมพัฒนาที่ดินได้เข้ามาส่งเสริม อบรมให้ความรู้แก่เกษตรกรในการใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินและตามความต้องการของพืช เพื่อให้ใช้ในปริมาณและในระยะเวลาที่เหมาะสม ส่งเสริมให้เกษตรกรมีการใช้เครื่องจักรกลการเกษตรทดแทนแรงงานคนผ่านกลุ่มแปลงใหญ่หรือสหกรณ์การเกษตร รวมถึงพัฒนาองค์ความรู้เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยวแก่เกษตรกร เช่น การลดความชื้นผลผลิตและมีการคัดเกรดผลผลิตเพื่อให้มีการขายผลผลิตที่มีคุณภาพ
ทั้งนี้ จึงขอเชิญชวนเกษตรกรหันมาปลูกถั่วเหลือง เนื่องจากเป็นพืชอายุสั้น ใช้น้ำน้อย ปลูกเพียง 4 เดือน ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ให้ผลผลิตสูง รวมถึงตลาดยังมีความต้องการต่อเนื่อง นอกจากนี้ ถั่วเหลืองยังเป็นพืชที่ช่วยบำรุงคุณภาพดินอีกด้วย หากเกษตรกรหรือท่านใดสนใจข้อมูลการผลิตถั่วเหลืองภาคเหนือ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สศท.1 โทร.0 5312 1318 อีเมล [email protected]
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit