"บริษัทไฟเซอร์ให้ความสำคัญกับผู้ป่วยเป็นลำดับแรก เราตระหนักถึงปัญหาของผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะลุกลาม และความต้องการในการเข้าถึงการบำบัดรักษาอย่างเหมาะสม เราจึงมีความยินดีและภูมิใจในการมีส่วนช่วยผู้ป่วยมะเร็งเต้านมในระยะแพร่กระจายในการเข้าถึงยาที่เหมาะสมตามมาตรฐานการรักษาเพื่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย เป็นการสร้างเสริมสุขภาพที่ดีให้กับสังคมไทย รวมถึงการรักษาและการให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีการป้องกันโรคต่างๆ คือ หนึ่งในพันธกิจหลักของบริษัทฯ" คุณลักษณวรรณ ตั้งไพบูลย์ ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจไฟเซอร์ อินโนเวทีฟ เฮลท์, ประเทศไทยและอินโดนีเซีย, บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
ปัจจุบันมะเร็งเต้านมเป็นมะเร็งที่พบบ่อยที่สุดในหญิงไทย ข้อมูลจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติในปี 2557 หญิงไทยป่วยด้วยมะเร็งเต้านมรายใหม่ 31.36 ต่อประชากรหนึ่งแสนคน หรือมีจำนวน 14,804 คน หรือ 40 คนต่อวัน และเสียชีวิต 3,455 คน หรือ 10 คนต่อวัน โดยผู้ชายก็มีสิทธิ์เป็นมะเร็งเต้านมได้ 1 ใน 100 ของผู้ป่วยเป็นมะเร็งเต้านม1
"มะเร็งเต้านมระยะแพร่กระจาย หรือรู้จักกันว่ามะเร็งเต้านมระยะที่ 4 ซึ่งถือเป็นระยะสุดท้าย โดยเป็นระยะที่มะเร็งจะแพร่กระจายจากเต้านมและต่อมน้ำเหลืองโดยรอบไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกาย ซึ่งที่พบมากจะกระจายไปสู่กระดูก ปอด ตับ และสมอง โดยสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตคือการแพร่กระจายของมะเร็งสู่ส่วนอื่นๆ ของร่างกาย ยานวัตกรรมช่วยให้การรักษาผู้ป่วยกลุ่มนี้มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ หากแต่การเข้าถึงยาในสิทธิ์การรักษาต่างๆ ในปัจจุบันยังมีข้อจำกัด ยาที่รับบริจาคนี้นับว่าเป็นประโยชน์อย่างมากทางการแพทย์ซึ่งจะสามารถช่วยให้การดูแลผู้ป่วยมะเร็งเต้านมมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการทำให้การเข้าถึงยาเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยอย่างยิ่ง" ผศ.นพ. เอกภพ สิระชัยนันท์ หัวหน้าอายุรศาสตร์มะเร็งวิทยา คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และนายกมะเร็งวิทยาสมาคมแห่งประเทศไทยกล่าว
รศ.ดร.นพ.วิโรจน์ ศรีอุฬารพงศ์ หัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ โรคมะเร็งครบวงจร โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์กล่าวเสริมว่ายาที่บริษัทไฟเซอร์บริจาคนั้นนับเป็นยาตัวแรกของยาต้านมะเร็งชนิดที่ยับยั้งการทำงานของโปรตีนซีดีเค 4/6 ซึ่งใช้ร่วมกับการรักษาโดยการให้ยาต้านฮอร์โมนได้อย่างมีประสิทธิผลที่ดีขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับยาต้านฮอร์โมนเพียงอย่างเดียว โดยยาดังกล่าวได้รับการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยา ให้ใช้เป็นยาอันดับแรก (First Line) ในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะลุกลามหรือแพร่กระจายชนิด ER+/HER 2- วัยหมดประจำเดือน และเป็นทางเลือกใหม่ในการรักษาเพื่อยืดอายุ และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของผู้ป่วยในประเทศไทย ซึ่งยาชนิดนี้เมื่อใช้ร่วมกับเลทโทรโซล (Letrozole) สามารถเพิ่มอัตราการรอดชีวิตโดยโรคสงบเกือบ 2 เท่าเมื่อเทียบกับการรักษาโดยให้เลทโทรโซล (Letrozole) เพียงอย่างเดียว ซึ่งถือเป็นมาตรฐานการรักษาสำหรับผู้ป่วยมะเร็งกลุ่มนี้
มะเร็งเป็นโรคที่มีความซับซ้อนสูงทำให้บริษัทไฟเซอร์พยายามคิดค้น และนำเสนอยาที่สามารถยืดอายุให้กับผู้ป่วยมะเร็งในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่องโดยยาดังกล่าวเป็นทางเลือกใหม่ให้กับแพทย์ เพื่อใช้ควบคู่กับการให้ยาต้านฮอร์โมนที่ยับยั้งสัญญาณที่ทำให้เซลล์เจริญเติบโต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษามะเร็งเต้านมระยะแพร่กระจายชนิด มีผลการตรวจตัวรับฮอร์โมนเป็นบวก (HR+) และมีผลการตรวจตัวรับเฮอร์ทูเป็นลบ (HER2-)
เอกสารอ้างอิง
1. www.thaihealth.or.th
http://www.thaihealth.or.th/Content/45219-%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B9%87%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A1%20%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B8%B4%E0%B8%87.html
เกี่ยวกับบริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ก่อตั้งโดยบริษัท ไฟเซอร์ อิงค์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ใน พ.ศ. 2501 เป็นหนึ่งในบริษัทยาและเวชภัณฑ์ชั้นนำของโลกที่ทุ่มเทคิดค้น วิจัย และพัฒนายาอย่างต่อเนื่องโดยคำนึงถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยสำหรับการรักษาและป้องกันโรคเพื่อช่วยผู้ป่วยให้มีชีวิตที่ยืนยาวขึ้นรวมทั้งมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยผลิตภัณฑ์ของเรามีทั้งยาและวัคซีนรวมทั้งผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพสำหรับผู้บริโภคที่เป็นที่รู้จักกันดีทั่วโลก
ตลอดระยะเวลา 6 ทศวรรษ บริษัทฯ มุ่งเน้นส่งเสริมและสนับสนุนการมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทย นอกจากนี้ ยังร่วมมือกับผู้ให้บริการสุขภาพ บุคลากรทางการแพทย์ตลอดจนองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนรวมถึงชุมชนท้องถิ่นทั่วประเทศ เพื่อขยายการเข้าถึงยาและการให้บริการ อีกทั้งยังได้ริเริ่มกิจกรรมต่างๆ ที่มุ่งส่งเสริมสุขภาพที่ดีแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่องเพื่อรณรงค์ให้คนไทยเห็นความสำคัญในการดูแลสร้างเสริมสุขภาพกายและจิตของตนเองรวมทั้งคนในครอบครัวและคนใกล้ชิดดั่งเจตนารมณ์ที่ว่า"ไฟเซอร์ ร่วมสรรค์สร้างเพื่อสุขภาพที่ดีกว่าของคนไทย" โดยมีพนักงานกว่า 300 คนร่วมกันปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ เพื่อนำเสนอยาที่ผ่านการค้นคว้าวิจัยภายใต้ระบบการกำกับดูแลคุณภาพและมาตรฐานสากลโดยมุ่งเน้นการตอบสนองต่อความต้องการด้านการรักษาทางการแพทย์ที่หลากหลายของผู้ป่วยในประเทศไทย
สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.pfizer.co.th