ปภ.แนะผู้ขับขี่เรียนรู้เทคนิคขับรถผ่านเส้นทางน้ำท่วม...ลดเสี่ยงอันตราย

17 Oct 2017
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แนะผู้ขับขี่เรียนรู้เทคนิคการขับรถผ่านเส้นทาง น้ำท่วม หากน้ำท่วมระดับผิวถนน ไม่ควรขับรถเร็ว ไม่เร่งเครื่องยนต์ น้ำท่วมระดับท้องรถ ควรขับรถให้ช้าที่สุด รักษาความเร็ว ให้อยู่ในระดับเดียวกันอย่างสม่ำเสมอ น้ำท่วมระดับไฟหน้ารถ ผู้ขับขี่ควรหยุดรถเพื่อประเมินสถานการณ์ หากระดับน้ำลึกและไหลเชี่ยว อย่าฝืนขับรถผ่านเส้นทางดังกล่าว ขณะขับรถผ่านเส้นทางน้ำท่วม ต้องปิดเครื่องปรับอากาศ ใช้ความเร็วต่ำ รถยนต์เกียร์ธรรมดา ควรใช้เกียร์ 1 หรือเกียร์ 2 รถยนต์เกียร์อัตโนมัติ ควรใช้เกียร์ L และรักษารอบเครื่องยนต์ให้คงที่ ลดการใช้เบรก ใช้แรงเฉื่อยของเครื่องยนต์ในการหยุดรถ เว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากกว่าปกติ จะได้มีระยะทาง ในการหยุดรถอย่างปลอดภัย เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง

นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า ระยะนี้ประเทศไทยอยู่ในช่วง ฤดูฝน มีฝนตกหนาแน่นในหลายพื้นที่ ทำให้น้ำท่วมขังผิวการจราจร ส่งผลกระทบต่อการสัญจรของประชาชน เพื่อความปลอดภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะประชาชนเรียนรู้เทคนิคการขับรถผ่านเส้นทางน้ำท่วม ดังนี้การขับรถผ่านเส้นทางน้ำท่วมระดับผิวถนน ผู้ขับขี่ไม่ควรขับรถเร็ว รักษาความเร็วรถอย่างสม่ำเสมอ ไม่เร่งเครื่องยนต์ เพราะน้ำที่ถูกยางล้อรถรีดอาจกระจายขึ้นมาเต็มหน้ากระจกรถ บดบังทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทาง รวมถึงน้ำอาจเข้าไปในห้องเครื่อง ทำให้เครื่องยนต์ดับได้ น้ำท่วมระดับท้องรถ ผู้ขับขี่ควรขับรถให้ช้าที่สุด รักษาความเร็วให้อยู่ในระดับเดียวกันอย่างสม่ำเสมอ พร้อมขับรถไปตามแนวการขับขี่ของรถคันหน้า เพื่อป้องกันรถออกนอกเส้นทาง โดยขับรถบนถนนส่วนที่น้ำตื้นที่สุดและระวังคลื่นน้ำจากรถที่ขับสวนทางมา เพราะกระแสน้ำอาจพัดเข้าไปในห้องเครื่อง ทำให้เครื่องยนต์ดับ ส่งผลให้รถลอยตัวจนไม่สามารถควบคุมทิศทางรถ ก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ น้ำท่วมระดับไฟหน้ารถ เป็นระดับน้ำท่วมที่อันตรายที่สุด ผู้ขับขี่ควรหยุดรถเพื่อประเมินสถานการณ์ หากระดับน้ำลึกและไหลเชี่ยวควรเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น อย่าฝืนขับรถผ่านเส้นทางดังกล่าว เพราะรถไม่สามารถต้านแรงน้ำ ส่งผลให้รถจมน้ำ ก่อให้เกิดอันตรายได้ ข้อควรปฏิบัติขณะขับรถผ่านเส้นทางน้ำท่วม ปิดเครื่องปรับอากาศ เพราะพัดลมแอร์จะพัดน้ำเข้าไปในห้องเครื่อง ทำให้เครื่องยนต์ดับ รวมถึงอาจพัดเศษวัสดุเข้าไปติดมอเตอร์พัดลมหรือใบพัด ทำให้ระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์ขัดข้อง ใช้ความเร็วต่ำ ไม่เร่งเครื่องยนต์และลดความเร็วโดยไม่จำเป็น เพื่อป้องกันคลื่นน้ำบดบังทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทาง และกระแสน้ำอาจเข้าไป ในห้องเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์ดับ ใช้เกียร์ต่ำ รถยนต์เกียร์ธรรมดาให้ใช้เกียร์ 1 หรือเกียร์ 2 พยายามเลี้ยงคลัตช์ พร้อมเร่งเครื่องยนต์ให้รอบเครื่องสูงกว่าปกติเล็กน้อย รถยนต์เกียร์อัตโนมัติ ควรใช้เกียร์ L และรักษารอบเครื่องยนต์ให้คงที่ ลดการใช้เบรก ใช้แรงเฉื่อยของเครื่องยนต์ในการหยุดรถหรือชะลอความเร็ว เพื่อความปลอดภัย ควรเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากกว่าปกติ จะได้มีระยะทางในการหยุดรถอย่างปลอดภัย ทั้งนี้ เมื่อขับรถผ่านเส้นทางที่มีน้ำท่วม ผู้ขับขี่ควรประเมินสถานการณ์ ทั้งสภาพเส้นทาง ระดับความลึก และความแรงของกระแสน้ำ โดยสังเกตจากรถที่ขับนำหน้าหรือสวนทางมา รวมถึงพิจารณาสมรรถนะและความสูงของรถ หากไม่ปลอดภัยให้เปลี่ยนไปใช้เส้นทางอื่น ไม่ควรฝืนขับรถผ่านเส้นทางดังกล่าว เพราะนอกจากจะทำให้รถได้รับความเสียหายแล้ว ยังก่อให้เกิดอันตราย