กรุงเทพฯ--25 ต.ค.--เวเบอร์ แชนด์วิค
บริษัทเงินทุน เกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) ประกาศผลการดำเนินงานสำหรับงวด 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2545
(ยังไม่ได้สอบทาน) มีกำไรสุทธิ 1,022 ล้านบาท เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานสำหรับงวด 9 เดือนของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 1,018 ล้านบาท
ในขณะเดียวกัน "ขาดทุนที่ยังไม่เกิดจากเงินลงทุนในสิทธิเรียกร้อง" ที่ปรากฏในส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 30 กันยายน 2545 มีจำนวนที่ลดลง 129
ล้านบาท เทียบกับปี 2544 ซึ่งลดลงจำนวน 392 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทฯ มีนโยบายที่จะตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญทั่วไปเท่ากับ 5% สำหรับเงินให้สิน
เชื่อเพื่อการฟื้นฟูธุรกิจ โดยเริ่มตั้งในงวดนี้เป็นจำนวนเงิน 50 ล้านบาท
รายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลรับสุทธิของบริษัทมีจำนวนที่เพิ่มขึ้นจากจำนวน 1,082 ล้านบาทในปี 2544 เป็นจำนวน 2,053 ล้านบาทในปี
2545 เป็นผลมาจากการขยายธุรกิจทางด้านการให้สินเชื่อและเช่าซื้อ และมาจากดอกเบี้ยรับจากเงินลงทุนในสิทธิเรียกร้องที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ในทาง
ตรงกันข้ามดอกเบี้ยจ่ายของบริษัทมีจำนวนที่ลดลงจากปีก่อน เนื่องมาจากอัตราดอกเบี้ยที่อ่อนตัวลง
รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลงจากจำนวน 1,312 ล้านบาทในปี 2544 เป็นจำนวน 197 ล้านบาทในปี 2545 เนื่องจากในปี 2545 มีผลขาด
ทุนจากการปรับมูลค่าหลักทรัพย์จำนวน 394 ล้านบาท ในขณะที่ปี 2544 มีผลกำไรจากการปรับมูลค่าหลักทรัพย์จำนวน 818 ล้านบาท เป็นผลจากการ
รับชำระหนี้จากเงินลงทุนในสิทธิเรียกร้องที่ปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งรับรู้เป็นรายได้ดอกเบี้ยรับเงินลงทุนในสิทธิเรียกร้องเป็นระยะๆ สำหรับการปรับ
โครงสร้างหนี้ของเงินลงทุนในสิทธิเรียกร้องที่เหลืออยู่ยังคงดำเนินการอย่างสม่ำเสมอ ถึงแม้ว่าจะเป็นไปในอัตราที่ช้าลงบ้าง
การขยายตัวของเงินให้กู้ยืมยังคงเป็นไปตามแผนงานของบริษัท ซึ่งเงินให้สินเชื่อเพื่อการฟื้นฟูธุรกิจบางส่วนได้บันทึกอยู่ในกองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์โดยมีจำนวนคงเหลือ ณ วันที่ 30 กันยายน 2545 เท่ากับ 1,170 ล้านบาท
ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นจากจำนวน 8,270 ล้านบาทในปี 2544 เป็นจำนวน 9,346 ล้านบาทในปี 2545 มาจากผลการดำเนินงานหัก
เงินปันผลจ่ายระหว่างงวดและการใช้สิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นสามัญเป็นจำนวน 533 ล้านบาท
ตัวเลขอื่น ๆ ในงบการเงินที่เป็นสาระสำคัญ
ธันวาคม 2544 กันยายน 2545
(หน่วย: ล้านบาท) (หน่วย: ล้านบาท)
เงินให้กู้ยืม 6,514 8,144
ลูกหนี้ตามสัญญาเช่าซื้อ 3,545 4,416
ลูกหนี้หยุดรับรู้รายได้ 1,776 1,394
%ลูกหนี้หยุดรับรู้รายได้ 17.65% 11.10%
ส่วนของผู้ถือหุ้น 8,270 9,346
เงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง 25.04% 27.90%
ขาดทุนสุทธิที่ยังไม่เกิดจากเงินลงทุน
ในสิทธิเรียกร้อง 832 820--จบ--
-ศน-