(ต่อ 2) วอร์เนอร์ บราเดอร์สฯ ภูมิใจเสนอบทประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์เรื่อง "Hero"

กรุงเทพฯ--14 ม.ค.--วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิคเจอร์ส ผลงานภาพยนตร์ In the Mood for Love (2000) Sausalito (2000) Augustin, King of Kung Fu (1999) Those were the Days (1997) Chinese Box (1997) The Soong Sisters (1997) Comrades: Almost a Love Story (1996) Irma Vep (1996) Conjugal Affairs (1994) Ashes of Time (1994) White Rose (1993) Mad Monk (1993) The Bare Footed Kid (1993) Green Snake (1993) Enigma of Love (1993) First Shot (1993) The Eagle Shooting Heroes (1993) Flying Dagger (1993) The Seven Princesses (1993) Heroic Trio 2: Executioners (1993) Moon Warriors (1993) Boys are Easy (1993) What a Hero (1992) Family Happiness (1992) Police Story III: Supercop (1992) Too Happy for Words (1992) Millionaire Cop (1992) Duel of Dragons (1992) The Heroic Trio (1992) New Dragon Inn (1992) True Love (1992) Actress (Yuen Ling-Yuk) (1992) The Perfect Match (1991) The Banquet (1991) Heart against Hearts (1991) Alan and Eric Between Hello and Goodbye (1991) My Dear Son (1991) Today's Hero (1991) Days of Being Wild (1991) Farewell China (1990) Red Dust (1990) Will of Iron (1990) The Dragon from Russia (1990) Heart into Hearts (1990) Autumnal Lament in Exile (1990) A Fishy Story (1989) Time Warriors (1989) In Between Love (1989) Full Moon in New York (1989) Double Causes Trouble (1989) Little Cop (1989) Bachelor's Swan Song (1989) Soldier of Love (1988) Beloved Son of God (1988) Police Story 2 (1988) Paper Marriage (1988) Last Romance (1988) North and South Mamas (1988) How to Pick Girls Up (1988) Double Fattiness (1988) As Tears Go By (1988) Call Girl '88 (1988) Moon, Stars & Sun (1988) Project A II (1987) Chasing Girls (1987) Yellow Story (1987) Heavenly Fate (1987) Heartbeat 100 (1987) Kino Countdown (1987) Happy Ghost 3 (1986) Seven Curse (1986) Police Story (1985) The Story of Rose (1985) Modern Cinderella (1985) Christmas Romance (1985) The Frog Prince (1984) Fate (1984) จางซิยี่ (มูน) หนึ่งในบรรดาดาราสุดฮอตที่จะมาแรงของจีนในช่วงสองสามที่ผ่านมา จางซิยี่ได้สร้างความตกตะลึงให้กับผู้ชมจากผลงานแสดงเรื่องแรกของเธอในภาพยนตร์ของจางอี้โหม่วเรื่อง 'The Road Home' ภาพยนตร์เรื่องนั้นได้รับรางวัล Silver Bear Award จาก Berlin Film Festival 2000 และกลายเป็นแรงส่งให้จางซิยี่ก้าวขึ้นสู่การเป็นที่รู้จักในต่างประเทศ หนทางที่สดใสสู่การเป็นดาราของเธอนั้นยังตามติดมาด้วยงานหนังชนะรางวัลตุ๊กตาทองของอั้งลี่ ในเรื่อง 'Crouching Tiger, Hidden Dragon' จุดเริ่มต้นความสนใจในด้านการแสดงของจางซิยี่เริ่มจากการเต้นและยิมนาสติค เมื่ออายุ 11 เธอสอบเข้าเรียนที่ Beijing College of Dance และระหว่าง 4 ปีที่ฝึกฝนการเต้น เธอก็ได้รับรางวัลมากมายแต่ทว่าถึงแม้เธอจะดูมีอนาคตไกลทางการเต้น เธอก็ยังสนใจและกระตือรือร้นทางการแสดง เธอจึงได้สมัครเข้าเรียนที่ Central Academy of Drama อันทรงเกียรติแห่งปักกิ่ง อีกไม่นานต่อมาเธอก็ได้ถูกค้นพบโดยจางอี้โหม่ว ผู้กำกับการแสดงชื่อดังระดับโลกจากหนังเรื่อง 'Raise the Red Lantern' และ 'Red Sorghum' จางรู้โดยทันทีว่าจางซิยี่เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับหนังเรื่องใหม่ของเขา 'The Road Home' (1999) และคัดเลือกให้เธอรับบทเด็กสาวซึ่งหลงรักครูหนุ่มของโรงเรียนประจำตำบลของจีน ผลงานของเธอเป็นสิ่งที่รับประกันเป็นอย่างดีเมื่ออั้งลี่ผู้กำลังคัดตัวแสดงสำหรับหนังศิลปะป้องกันตัวเรื่องใหม่ของเขา 'Crouching Tiger, Hidden Dragon' (2000) ได้เลือกจางซิยี่ให้รับบทเจินยู สาวชั้นสูงอารมณ์ร้อน 'Crouching Tiger, Hidden Dragon'' ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างกึกก้อง นับเป็นการรับรองว่าจางซิยี่จะกลายมาเป็นดาราที่คุ้นหน้าของผู้ชม ในความเป็นศิลปินที่มีฝีมือยอดเยี่ยมด้านศิลปะป้องกันตัว ซึ่งร่วมฉากกับมิเชล เหยียว และโจวเหวินฟะและเธอได้รับรางวัลจาก Toronto Film Critics Association Award - Best Supporting Actress ในปี 2000 จากเรื่องนี้ รวมทั้ง Most Promising Actress จาก Chicago Film Critics Association Awards ในปี 2001 เธอยังได้รับรางวัลจาก MTV Movie Award - Best Fight Scene และได้รับโหวตให้เป็นหนึ่งใน People magazine's 50 Most Beautiful People in the World นับแต่นั้นมาพรสวรรค์ของจางซิยี่ได้ขจรขจายไปไกลกว่าบ้านเกิดของเธอ และได้ร่วมงานกับฮอลลีวู้ดใน 'Rush Hour 2' (2001) กับคู่ฮา คริส ทัคเกอร์ และแจ็กกี้ ชานและได้ร่วมแสดงในหนังแห่งตำนานเกาหลี 'The Warriors' เธอจะมีผลงานเรื่องต่อไปในงานของซุย ฮาร์ก เรื่อง 'The Legend Of Zu' รวมทั้งหนังอนาคตของหว่องกาเหว่ยเรื่อง '2046' ผลงานภาพยนตร์ The Warriors (2001) The Legend of Zu (2001) Rush Hour 2 (2001) Crouching Tiger, Hidden Dragon (2000) The Road Home (1999) เฉินดาวหมิง (กษัตริย์แห่งฉิน) เคยรับบทจักรพรรดิองค์สุดท้ายในซีรี่ส์โทรทัศน์เรื่องฮิต 'The Last Emperor' (1984) เฉินดาวหมิงกลายมาเป็นชื่อที่คุ้นเคยของผู้ชมที่บ้านเกิดในจีน และจากการแสดงนี้ทำให้เขาได้รับรางวัล Best Actor จากทั้งที่ 7th People's Television Golden Eagle Awards และจาก 9th National Government TV 'High Flying' Awards จากผลงานซีรี่ส์โทรทัศน์เรื่องดัง 'Walled City' (1990) เฉินได้รับรางวัล International Sichuan Film Festival's Golden Panda Award - Best Actor รวมทั้ง รางวัล Best Actor จาก 11th High Flying Awards และเข้าชิงรางวัล Best Actor ใน 3rd Chinese Film and Performing Arts Academy Awards และ 2nd National Production Awards ติดอันดับดารา Top Ten Movie and TV Stars of China ในปี 1995 เฉินดาวหมิงได้โด่งดังขึ้นเป็นลำดับ คว้ารางวัล 1996 National Film Society Outstanding Acting Award และรางวัล Golden Rooster Award ที่ทรงเกียรติจากบทบาทในเรื่อง 'My 1919' in 2000 ผลงานภาพยนตร์ My 1919 (1999) Peach Blossom (1995) Dance Fever (1995) Justice Guan (1990) The Eight Battalions (Ba Qi Zi Di) (1989) Evil Empress (1987) Blood Evidence (Tao Cheng Xue Zheng) (1986) Snuff Bottle (1985) One and Eight (1983) Flying Snowstorm (Jin Ye You Bu Feng Xue) (1982) ดอนนี่ เหยิน (เวหา)ดาราดาวรุ่ง ดอนนี่ เหยิน ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักแสดงหน้าใหม่ทางศิลปะป้องกันตัว เคยร่วมงานมาเป็นเวลานานกับ เหยียนวูปิง นักเต้นเจ้าของรางวัลตุ๊กตาทองจาก 'Crouching Tiger, Hidden Dragon' (2000) การแสดงศิลปะป้องกันตัวของเหยิน เป็นที่รู้จักกันดีในความสามารถที่ซับซ้อนเป็นอย่างสูงของเขา เกิดที่มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน เหยินได้ย้ายมายังฮ่องกงเมื่ออายุสองขวบ เขาอยู่ที่นั่นจนอายุได้สิบเอ็ดและต่อมาได้ย้ายไปยังบอสตัน ประเทศอเมริกาพร้อมกับครอบครัว และใช้เวลาช่วงวัยรุ่นตอนต้นในนิวอิงแลนด์ ที่ซึ่งมารดาของเขาซึ่งเป็นอาจารย์วิชา Tai Chi ชื่อดังได้เปิดสตูดิโอสอนวิชาศิลปะป้องกันตัว และได้ฝึกลูกชายของตนเองให้รู้จักวิชานี้ตั้งแต่เขาเริ่มเดินได้ เขาใช้เวลาช่วงวัยรุ่นในปักกิ่ง ฝึกฝนกับทีมศิลปะป้องกันตัวที่มีชื่อเสียงอย่าง Beijing Martial Arts Team และได้รับการประสาทวิชาโดยอาจารย์คนเดียวกับเจ็ต ลี ระหว่างเดินทางกลับมายังอเมริกา เขาได้แวะไปยังฮ่องกงซึ่งทำให้ได้พบกับ หยวนโวปิง นักแสดงแอ็คชั่นของภาพยนตร์มีระดับเรื่อง 'The Matrix' และ 'Crouching Tiger, Hidden Dragon' หยวนคือผู้ที่ปูทางการแสดงอาชีพให้กับแจ็กกี้ ชานในหนังเรื่อง 'Snake in Eagle's Shadow' (1978) และ 'Drunken Master' (1978) เขากำลังมองหานักแสดงกังฟูคนใหม่ และได้รับความประทับใจโดยทันทีที่ได้รู้ถึงความสามารถของดอนนี่ เหยิน ดังนั้นสองยอดฝีมือจึงร่วมงานกันในหนังหลายเรื่อง ได้แก่ 'Drunken T'ai Chi' (1984), 'Tiger Cage' (1988), 'Once Upon a Time in China II' (1992) และ 'Iron Monkey' (1993) นับแต่นั้นมาอาชีพทางการแสดงของเหยินก็เบ่งบาน และได้แสดงร่วมกับดาราดังอย่างเจ็ต ลี ('Once Upon a Time in China II', 1992) และไมเคิล เหยียว ('Butterfly Sword', 1993) แต่เขาก็ไม่พึงใจเพียงแค่การแสดงแค่บนจอเท่านั้น เขายังรับตำแหน่งผู้ดูแลแอ็คชั่นให้กับหนังอย่าง 'Blade II' (2002) และ 'Highlander: The Endgame' (2000) เหยินยังได้ทำงานกำกับการแสดงทางโทรทัศน์ ซึ่งเขาร่วมแสดงแอ็คชั่นด้วย ในหนึ่งของรายการโชว์ติดอันดับของฮ่องกงอย่าง 'Fist of Fury' (1995) ซึ่งเป็นมินิซีรี่ส์ 30 ตอนอิงจากหนังคลาสสิคของบรู๊ซ ลี เหยินมีผลงานกำกับเรื่องแรกใน 'Legend of the Wolf' (1997) ตามมาติดๆ ด้วย 'Ballistic Kiss' (1998) 'Ballistic Kiss' ทำให้เขาได้รับรางวัล Best Young Director Award จาก Yubari Film Festival ในประเทศญี่ปุ่น และได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน Best Films of 1998 โดย Hong Kong Film Critics Society ชื่อเสียงยังขจรขจายไปยังต่างประเทศ ด้วยผลงานกำกับและแสดงแอ็คชั่นใน 'Blood Flying Snow Princess' (2001) หนังต่อสู้สมัยใหม่อิงจากตัวละครญี่ปุ่น Shurayuki Hime เหยินยังได้เป็นผู้สร้างหนังจีนคนแรกที่ได้ควบคุมงานครีเอทีฟให้กับงานผลิตทางโทรทัศน์ของเยอรมัน เขาร่วมอำนวยการผลิต และกำกับภาพแอ็คชั่น ให้กับรายการโชว์ติดอันดับเรตติ้งสูงสุดของเยยอรมัน 'Codename: Puma' (1999, 2000)ขณะนี้เป็นที่ร่ำลือทั่วเมืองจากงานของอเมริกาจาก 'Iron Monkey' (2001) ดอนนี่ เหยินยังรวมถึงรายชื่อใน GQ Magazine ให้เป็น Hottest Action Stars และยังได้รับโหวตมให้เป็น Hottest People on the Planet โดย In Gear Magazine เมื่อเดือนมกราคม 2002 ผลงานเรื่องต่อไปที่จะมีร่วมกับแจ็กกี้ ชาน และโอเวน วิลสัน ในเรื่อง 'Shanghai Knights' ภาคต่อของคอมเมดี้เรื่องฮิต 'Shanghai Noon' (2000) ผลงานภาพยนตร์ Blade II (2002) Fist of Fury: The Sequel (2001) Highlander: Endgame (2000) City of Darkness (1999) Ballistic Kiss (1998) Shanghai Affairs (1998) Black Rose II (1997) Legend of the Wolf (1997) Satan Returns (1996) Iron Monkey 2 (1996) The Saint of Gamblers (1995) Fist of Fury (1995) (TV) High Tension (1995) Cinema of Vengeance (1994) Circus Kids (1994) Wing Chun (1994) Cheetah on Fire (1993) Iron Monkey (2001) Hero Among Heroes (1993) Butterfly Sword (1993) Once Upon a Time in China II (1992) New Dragon Inn (1992) China Heat (1991) Holy Virgin vs. the Evil Dead (1990) Tiger Cage 2 (1990) In the Line of Duty 4: Witness (1989) Tiger Cage (1988) Mismatched Couples (1985) Drunken Tai-Chi (1984) Love Meets the Match ทีมงาน จางอี้โหม่ว (ผู้กำกับการแสดง, ร่วมเขียนบท, อำนวยการสร้าง) นับแต่ผลงานกำกับการแสดงเรื่องแรกใน 'Red Sorghum' (1987) ซึ่งได้รับรางวัล Golden Bear Award จาก Berlin Film Festival นับว่า จางอี้โหม่วได้สร้างรากฐานแห่งชื่อเสียงของเขา ในความเป็นหนึ่งผู้กำกับที่เปี่ยมพรสวรรค์ และทรงอิทธิพลของยุคปัจจุบัน จางอี้โหม่วเกิดที่ประเทศจีนเมื่อปี 1950 เขาศึกษาด้านการถ่ายทำภาพยนตร์ จาก Beijing Film Academy และเป็นผู้นำของสมาชิกแห่ง China's Fifth Generation Filmmakers รุ่นแรกที่สำเร็จการศึกษาหลังจากการปฏิรูปวัฒนธรรม เขาเป็นนักแสดงที่มีชื่อ จากการแสดงใน 'Red Sorghum' รวมทั้งที่ได้รับรางวัล Best Actor Award จาก Tokyo International Film Festival จากการแสดงใน 'Old Well' (1986) จางอี้โหม่วยังมีความสามารถทางการถ่ายทำ ซึ่งมีผลงานเด่นจากเรื่อง 'Yellow Earth' (1984), 'Old Well' (1986), และ 'The Big Parade' (1986) ในด้านกำกับ เขาได้รับหลายรางวัลด้วยกัน เป็นนักสร้างหนังจีนคนแรกที่ได้รับการยอมรับโดย Motion Picture Academy ด้วยการถูกเสนอชื่เข้าชิงรางวัลตุ๊กตาทอง - Best Foreign Film จาก 'Ju Dou' ในปี 1990, และ 'Raise the Red Lantern' ในปี 1991 เขาได้รับหลายรางวัลทรงเกียรติ รวมทั้ง Silver Lion จาก 44th Venice International Film Festival เรื่อง 'Raise the Red Lantern' (1991), Golden Lion Award จาก 45th Venice International Film Festival เรื่อง 'The Story of Qiu Ju' (1992), Grand Jury Prize จาก 47th Cannes International Film Festival เรื่อง 'To Live' (1994), Golden Lion Award จาก 52nd Venice International Film Festival เรื่อง 'Not One Less' (1999) และ Silver Bear จาก Berlin International Film Festival เรื่อง 'The Road Home' (1999) ในปี 1997 เขาได้ใช้ความสามารถทางการกำกับของเขากับงานโอเปร่าของ Puccini 'Turandot' ในฟลอเรนส์ อิตาลี ร่วมกับผู้กำกับวง Zubin Mehta ในปี 1998 ทั้งคู่ได้ร่วมงานกันอีกครั้ง ด้วยการหวนสู่เวทีโอเปร่าที่ Beijing's Forbidden City ผลงานภาพยนตร์ Happy Times (2000) The Road Home (1999) Not One Less (1999) Keep Cool (1997) Lumiere and Company (1995) Shanghai Triad (1995) To Live (1994) The Story of Qiu Ju (1992) Raise the Red Lantern (1992) The Puma Action (1989) Red Sorghum (1987) ลี่เฝิง (ร่วมเขียนบท) เกิดเมื่อปี 1968 จบการศึกษาจาก Nanjing University ด้วยปริญญาโทสาขา Chinese Classics. ผลงานเขียนที่โด่งดังของเขา ได้แก่ 'Confucius' และ 'Shattered Father' (Sui Baba), และเรื่องสั้น 'Death of Lu Yin', (Lu Yin Zhi Si), 'China Story' (Zhong Guo Gu Shi), 'The Tang Dynasty', 'No One Can Sleep Tonight' (Jin Ye Mei Ren Jin Shui), และ 'Another Monkey King' ลี่เป็นหนึ่งในบรรดานักเขียนนิยายชั้นนำของคนรุ่นเดียวกัน และยังเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้ง ชมรมนักเขียนนิยายรุ่นใหม่ ได้รับรางวัลแรกของ Internet Quartet Cultural Prize, มีบ้านและทำงานอยู่ที่ปักกิ่ง หวังบิน (ร่วมเขียนบท) เติบโตที่มณฑลซานตง ออกจากบ้านเพื่อเข้าร่วมกับกองทัพเมื่ออายุ 15 ปี หลังจากนั้นได้ทำงานเป็นเซลส์แมนเดินทางขายหนังสือ เป็นนักวิจัยงานเขียน และบรรณาธิการงานเขียน ในช่วงทศวรรษปี 1980 เขาจึงเริ่มเขียนหนังสือ และกลายเป็นหนึ่งในบรรดานักเขียนที่มีอิสระทางความคิดรุ่นแรกของจีน เขาได้พบกับผู้กำกับจางอี้โหม่วเป็นครั้งแรกในการร่วมแสดงความคิดเห็นให้กับหนังของจาง เรื่อง 'Ju Dou' ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของการร่วมงานที่ผลิดอกออกผล นับแต่เรื่อง 'To Live' หวังบินก็ได้เป็นที่ปรึกษาให้กับหนังทุกเรื่องของจางอี้โหม่ว นอกเหนือจากการทำงานกับจางอี้โหม่ว เขายังมีผลงานที่สร้างชื่ออีกมาก อาทิเช่น หนังของลูยิ่ว เรื่อง 'Mr. Jiao', หนังของหวังเซียวฉวย เรื่อง 'Dreamland' (Meng Huan Tian Yuan) และหนังของซุนจู เรื่อง 'Breaking the Silence' เขาเคยทำงานให้กับรายการซีรี่ส์โทรทัศน์ 'Let Love Run 'Til the End' (Zhang Ai Qing Jin Cheng Dao Dai) และ 'The Friends' (Peng You) ผลงานภาพยนตร์ Dreamland (Meng Huan Tian Yuan) (2000) Breaking the Silence (1999) Mr. Zhao (1998) บิล กอง (ผู้อำนวยการสร้าง) บิล กองเป็นผู้นำแห่ง Edko Films หนึ่งในบรรดาบริษัทหนังอิสระของฮ่องกงที่ยืนยง ผลงานสร้างเรื่องแรกของเขา คือหนังของเทียนจวงจ้วง เรื่อง 'The Blue Kite' (1993), ซึ่งได้รับรางวัลทรงเกียรติมากมาย รวมทั้ง Best Picture จาก Tokyo International Film Festival และ Hawaii International Film Festival ผลงานสร้างชื่ออื่นๆ ได้แก่ หนังของนยิมโห เรื่อง 'The Day the Sun Turned Cold' (1994) ซึ่งชนะรางวัล Best Picture และ Best Director และหนังได้รับรางวัลตุ๊กตาทองเรื่อง 'Crouching Tiger, Hidden Dragon' (2000) 'Crouching Tiger, Hidden Dragon' นั้นไม่เพียงแต่กลายเป็นหนังท็อปฮิตของปี 2000 เท่านั้น แต่ยังเป็นหนังต่างประเทศยอดนิยมในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์สหรัฐฯ ซึ่งกวาดรายได้ไปถึง 130 ล้านเหรียญสหรัฐ ในอันดับบ็อกซ์ออฟฟิซ และอีกหลายรางวัล รวมถึง 4 รางวัลตุ๊กตาทอง - Best Foreign Language Film, Best Art Direction และ Best Cinematography รวมทั้ง 2 รางวัลลูกโลกทองคำ - Best Foreign Language Film และ Best Director โปรเจ็คต่อไปของเขา ได้แก่ หนังของเทียนจวงจ้วง เรื่องรีเมคของหนังคลาสสิค 'Springtime in a Small Town' และหนังของซุนจู เรื่อง 'Zhou Yu's Train' นำแสดงโดยกงลี่ ผลงานภาพยนตร์ The Blue Kite (1993) The Day the Sun Turned Cold (1994) Crouching Tiger, Hidden Dragon (2000) Springtime in a Small Town (2002) Zhou Yu's Train (2002) (ยังมีต่อ) -ตม-

• ข่าววอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิคเจอร์ส
• ข่าวภาพยนตร์เรื่อง
• ข่าวประชาสัมพันธ์
• ข่าวบราเดอร์
• ข่าวภาพยนตร์