วอร์เนอร์ บราเดอร์สฯ ภูมิใจเสนอบทประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์เรื่อง "Hero"

กรุงเทพฯ--14 ม.ค.--วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิคเจอร์ส เวลา สองพันปีก่อน สถานที่ จุดเริ่มต้นความป่าเถื่อนแห่งราชวงศ์ฉิน เรื่องราว ของว่าที่จักรพรรดิแห่งแผ่นดินจีน ผู้กำลังจะมีชัยในการครอบครองแผ่นดินที่ถูกย่ำยีด้วยพิษสงคราม และศัตรูสามฝ่ายที่ต่างมุ่งหมายที่จะลอบปลงพระชนม์ หากแต่หนึ่งผู้ภักดีนั้นคืออุปสรรคอันใหญ่หลวงสำหรับของพวกเขา ผลงานจาก Miramax Films Presentation ในกลุ่ม Elite Group Enterprise Inc. Production, HERO กำกับการแสดงโดย จาง อี้โหม่ว, บทภาพยนตร์โดย จางอี้โหม่ว, ลี่เฝิง และหวังบิน, อำนวยการสร้างโดย บิล กอง และ จางอี้โหม่ว, คริสโตเฟอร์ ดอยล์ เป็นผู้กำกับภาพ, ผู้ออกแบบฝ่ายศิลป์ ได้แก่ หัวติงเสี่ยว และ ยี่เฉินจู, โทนี่ ฉิงเสี่ยวตุง เป็นผู้กำกับแอ็คชั่น, ออกแบบเครื่องแต่งกายโดย เอมิ วาดะ, ดนตรีประกอบโดย ตันดุน เรื่องย่อ ในยุคสงครามระหว่างรัฐ ประเทศจีนได้ถูกแบ่งออกเป็น 7 อาณาเขต : ฉิน, เฉ่า, ฮั่น, เว่ย, หยาน, ชู และฉี เป็นเวลาหลายปีที่แคว้นต่างๆ ได้ต่อสู้อย่างบ้าคลั่งเพื่อแก่งแย่งอำนาจ ยังผลให้ประชาชนจำนวนมากต้องล้มตายและทนทุกข์ทรมาณนานนับทศวรรษ ในบรรดาแคว้นทั้งเจ็ด รัฐฉินนั้นแข็งแกร่งที่สุด กษัตริย์แห่งฉิน ปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะครอบครองจีนทั้งแผ่นดิน เพื่อขึ้นครองเป็นจักรพรรดิแห่งจีนพระองค์แรก พระองค์จึงตกเป็นเป้าสังหารของอีกทั้งหกแคว้น ในบรรดามือสังหารทั้งหลาย จะหาผู้ใดที่น่าสะพรึงกลัวเท่ากับสามจอมยุทธ กระบี่หัก, หิมะเหิน และเวหา นั้นมิมี ผู้ใดก็ตามที่สามารถเอาชนะยอดฝีมือทั้งสามได้ กษัตริย์แห่งฉินจักพระราชทานยศศักดิ์, ทรัพย์สินเงินทองกองเท่าภูเขา และได้รับสิทธิพิเศษในการเข้าเฝ้าเป็นการส่วนพระองค์ แต่การเอาชนะจอมยุทธนั้นเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ยากยิ่ง กว่าสิบปีที่มิมีผู้ใดมีความสามารถพอที่จะได้เป็นเจ้าของรางวัล ดังนั้นเมื่อ นิรนาม นายอำเภอผู้มีทีท่าน่าสงสัย มาขอเข้าเฝ้าพร้อมหลักฐานซึ่งเป็นอาวุธประจำกายของมือสังหารทั้งสาม กษัตริย์จึงแทบคอยไม่ไหวที่จะได้ฟังเรื่องจากปากเขา ขณะที่นั่งอยู่ในท้องพระโรง ห่างจากพระองค์เพียงสิบก้าว นิรนามจึงแถลงไขถึงเรื่องราวอันโลดโผนของเขา : เป็นระยะเวลาสิบปีที่นิรนามได้ศึกษาเพลงดาบและหนทางท้าประลองกับมือสังหารทั้งสาม ด้วยความลับแห่งวิชาเพลงกระบี่ของเขา นิรนามได้มีชัยชนะเหนือ เวหา ด้วยการต่อสู้อันดุเดือด และหลังจากที่ได้ลิ้มรสหวานของชัยชนะครั้งแรก เขาจึงได้ทำลายคู่หูพิฆาต หิมะเหิน และกระบี่หัก และครานี้ด้วยอาวุธอันร้ายกาจยิ่งไปเสียกว่ากระบี่ของเขา - โดยให้ต่างฝ่ายพิฆาตกันเองด้วยมิตรภาพที่แนบแน่นเกินกว่าธรรมดาของทั้งสอง กษัตริย์ทรงครุ่นคิดถึงรายละเอียดทุกตอนของเรื่องราวที่น่าสงสัยนี้ แต่แล้วบางอย่างที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น - เพราะทรงมีเรื่องเล่าที่แตกต่างออกไปว่าเหตุใด นิรนามจึงได้มานั่งอยู่ต่อเบื้องพระพักตร์ของพระองค์! เมื่อปรากฎว่าไม่มีอะไรที่ได้มาโดยง่าย นิรนาม - ทหารกล้า และกษัตริย์แห่งฉิน - ผู้ปกครองอาณาจักร ต่างตกอยู่ท่ามกลางเล่ห์เพทุบาย และระยะสิบก้าวที่คั่นกลางระหว่างทั้งคู่นั้น - ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยตำนานแห่งความรัก ความจงรักภักดี และหน้าที่ เรื่องราวที่ดำเนินไปไกลเกินกว่าจะได้รับการบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ เรื่องราวแห่งความหมายของการเป็น HERO ในการสร้างชีวิตให้กับตำนานแห่งความรัก, ความจงรักภักดี, ความริษยาอาฆาต และเล่ห์เหลี่ยม ภาพยนตร์เรื่อง HERO ได้รวบรวมนักแสดงโด่งดังที่มีพรสวรรค์ทางศิลปะป้องกันตัวของเอเชียอาทิ เช่น เจ็ต ลี ผู้รับบท นิรนาม นายอำเภอผู้ทำตัวน่าสงสัย ซึ่งได้เข้าเฝ้ากษัตริย์แห่งฉิน และดาราดังของฮ่องกง โทนี่ เหลียงเฉาเหว่ย และแม็กกี้ เจียงม่านยุก ซึ่งทั้งคู่เพิ่งได้รับรางวัลจากหนังของ หว่องกาไว เรื่อง 'In the Mood for Love' และได้มาร่วมงานกันอีกครั้ง ด้วยการรับบทมือสังหาร กระบี่หัก (เหลียง) และหิมะเหิน (เจียง) ส่วนจางซิยี่ ซึ่งนับวันก็จะเพิ่มความแรง นับแต่ผลงานเรื่องแรกที่โด่งดังของเธอ ใน 'The Road Home' มารับบท มูน สาวใช้ผู้ซื่อสัตย์ของกระบี่หัก ในขณะที่มือเก่าอย่าง เฉินดาวหมิง รับบทกษัตริย์แห่งฉินผู้ทรงอำนาจ ส่วนดาราดาวรุ่งและนักแสดงศิลปะป้องกันตัวอย่าง ดอนนี่ เหยิน รับบทเวหา มือสังหารคนที่สาม ผู้กำกับการแสดงที่ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลถึงสองครั้ง จางอี้โหม่ว ร่วมกับ บิล กอง ผู้อำนวยการสร้างเจ้าของรางวัลตุ๊กตาทองจาก 'Crouching Tiger, Hidden Dragon' และคริสโตเฟอร์ ดอยล์ เจ้าของรางวัล Cannes Technical Grand Prize ในตำแหน่งผู้กำกับภาพ, และจากผลงานประสบความสำเร็จในเรื่อง 'Shaolin Soccer' ผู้กำกับแอ็คชั่น โทนี่ ฉิงเสี่ยวตุง, ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกายรางวัลตุ๊กตาทอง เอมิ วาดะ และผู้ประพันธ์เพลงรางวัลตุ๊กตาทอง ตันดุน ทั้งหมดนี้ทำให้ทีมงานยอดฝีมือครบถ้วนสมบูรณ์ ปูมหลังประวัติศาสตร์ HERO จากเค้าโครงเหตุการณ์ของจีนระหว่าง 3 ศตวรรษก่อนคริสกาล นับแต่ปี 475 - 221 ก่อนคริสตกาล แผ่นดินถูกแบ่งออกเป็น 7 แคว้น : ฉิน, เฉ่า, ฮั่น, เว่ย, หยาน, ชู และฉี ซึ่งเรียกว่าเป็น 'ยุคสงครามระหว่างรัฐ' เพราะการแก่งแย่งอำนาจระหว่างแคว้นต่างๆ นับเป็นช่วงเวลาแห่งสงครามโหดร้ายมิรู้จบ กับความทุกข์ยากและทรมาน สงครามเป็นหนทางที่มีพลังอำนาจแห่งชีวิต ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ได้ช่วยในการคัดสรรยุทโธปกรณ์ประจำกาย ซึ่งเป็นอาวุธของกองทหารเดินเท้า ยังผลให้เกิดคำสั่งใหม่ในกองทัพ ในช่วงกาลก่อน ทั้งขุนนางและอัศวินต่างร่วมกันทำศึก แต่ภายหลังกลับถูกแทนที่ด้วยการออกคำสั่งจากขุนพล โดยให้เหล่าชาวนาอยู่แถวหน้า และมีผู้บังคับบัญชาคอยวางแผนการศึก ได้มีสนธิสัญญาหลายฉบับที่ถูกเขียนขึ้นในระหว่างช่วงเวลาที่โกลาหลนี้ รวมถึง 'Art of War' ที่โด่งดังของ ซุนจู การศึกษาที่ลงลึกเกี่ยวกับยุทธวิธีนี้ ยังคงยึดถือเป็นคัมภีร์แห่งการศึกมาจนถึงปัจจุบันนี้ แม้จะถูกครอบงำด้วยการแก่งแย่งอำนาจ ยุคสงครามระหว่างรัฐ ก็ยังนับว่าเป็นช่วงของปรัชญาแพร่หลายเช่นกัน ดังเป็นที่รู้จักกันในชื่อ ยุคปรัชญา 100 สำนัก ลัทธิขงจื๊อ เต๋า และสำนักนิติธรรม ได้แพร่หลายในยุคสงครามระหว่างรัฐ และบางส่วนของบทกวีและร้อยแก้วที่น่าประทับใจได้เกิดขึ้นในช่วงนี้เช่นกัน สงครามของการสืบตระกูลระหว่างพี่น้องสายเลือดเดียวกัน ยังผลให้เกิดการปฏิรูปสังคมด้านอื่น ทั้งทางเศรษฐกิจ และการพัฒนาเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร อันตามมาด้วยการเพิ่มขึ้นของจำนวนของประชากรอย่างมหาศาล ในช่วงของยุคสงครามระหว่างรัฐ ระบบศักดินาได้ถือกำเนิดขึ้นอย่างเหนียวแน่น และ ในยุคนั้นขุนนางศักดินาแห่งแต่ละแคว้นต่างก็แก่งแย่งความมีอิทธิพลเหนือกว่า ต่างฝ่ายต่างเชื่อมั่นว่าพวกเขาถูกลิขิตให้รวบรวม 'ดินแดนทั้งหมดภายใต้สวรรค์' ซึ่งเป็นคำกล่าวที่หมายถึง ความศิวิไลส์ เฉกเช่นที่พวกเขารู้ กษัตริย์แห่งฉินนั้นโหดร้ายและทะเยอทะยานมากที่สุด ประวัติศาสตร์ได้บันทึกไว้ว่าเป็นทรราชย์โหด กษัตริย์แห่งฉินปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะครอบครองและควบคุมแคว้นทั้งมวล ประวัติศาสตร์ทุกตอน ได้มีเรื่องราวของเหล่ามือสังหารทั่วแผ่นดินจีน ที่วางแผนลอบปลงพระชนม์กษัตริย์แห่งฉิน ภาพยนตร์เรื่อง HERO ก็เป็นหนึ่งในเรื่องราวเหล่านั้น แคว้นทั้งเจ็ดไม่หยุดยั้งที่จะบรรลุเป้าหมาย แห่งการสร้างอาณาจักรจีนเป็นครั้งแรก พวกเขาทั้งสร้างกองทัพและกำแพงอันยิ่งใหญ่ตามชายแดน และที่ปรึกษาการศึก เพื่อให้มีชัยต่อกองทัพต่างชาติ และพันธมิตรระหว่างแคว้นถูกก่อกำเนิดขึ้นเพื่อจะถูกทำลายทิ้งไป ท่ามกลางสนามแห่งการต่อสู้นั้นเต็มไปด้วยนักรบเร่ร่อน พวกเขาเป็นนักสู้ฝีมือเยี่ยมที่พร้อมจะใช้ความสามารถในการต่อสู้ศัตรูให้กับแต่ละแคว้น สำหรับในเรื่อง HERO นั้น โชคชะตาของแผ่นดินจีน ตกอยู่ในกำมือของสามยอดนักรบแห่งตำนาน เบื้องหลัง เส้นทางของ HERO สู่จอภาพยนตร์ เริ่มต้นขึ้นเมื่อผู้กำกับการแสดงของเรื่อง จางอี้โหม่ว ซึ่งมีชื่อเสียงกระฉ่อนโลกในด้านการเล่าเรื่อง และการถ่ายทอดเรื่องราวประเทศจีนสู่ภาพได้อย่างแหลมคม จางปรารถนามาโดยตลอดที่จะสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับการต่อสู้ เขาจดจ่อกับ wuxia (นิยายศิลปะป้องกันตัว) มาตั้งแต่เด็ก แต่ปฏิเสธความคิดที่จะดัดแปลงจากงานเขียน และหันกลับไปใช้เวลาถึงสามปีทำงาน เรื่อง HERO ซึ่งเขาให้คำขยายความว่า "ไม่ใช่เป็นเพียงหนังการต่อสู้ แต่ยังเป็นตำนาน [ของสิ่ง] ที่เกิดขึ้นในประเทศจีนยุคโบราณ" จางยังอธิบายต่อถึงเหตุผลของเขาว่า : "ถ้ามองย้อนไปในประวัติศาสตร์ของงานเขียนเกี่ยวกับการต่อสู้ของจีน" เขากล่าว "พล็อตเรื่องมักจะเกี่ยวกับการแก้แค้น… หลายปีที่ผ่านมา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงแกนของหนังสงครามของจีน ไม่ว่าจะเป็นบรูซ ลี หรือแจ๊กกี้ ชาน ผมต้องการเปลี่ยนทิศทางใหม่ให้กับหนังประเภทนี้ ในเรื่องนี้ จุดหมายก็คือ ลดความรุนแรงลง ตัวละครถูกกระตุ้นโดยความปรารถนาที่จะให้สงครามจบสิ้น สำหรับวีรบุรุษแห่งสงครามที่แท้จริง หัวใจย่อมสำคัญยิ่งกว่าคมดาบ" สำหรับเหล่านักแสดง ภาพยนตร์เรื่อง HERO เป็นการเปิดโอกาสพิเศษให้กับพวกเขา : หนังบู๊ที่ให้ความสำคัญของพล็อตเรื่องมากเท่ากับแอ็คชั่น "HERO เป็นหนังในฝันของผม" เจ็ต ลี ยืนยัน "เมื่อได้อ่านสคริปท์ ผมร้องไห้ถึงสองครั้ง ในชีวิตภาพยนตร์ 22 ปี ของผม นี่เป็นสคริปท์เรื่องแรกที่ทำให้ผมสะอื้น เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อ และคำถามสำคัญก็คือ คนชนิดไหนกันที่เราเรียกว่าเป็น วีรบุรุษ" จางซิยี่ ตื่นเต้นยิ่งกว่าสิ่งใดในบทบาทของเธอกับเรื่อง HERO: "หนังส่วนใหญ่ที่ฉันได้ถูกเลือกให้ทำงาน มักจะมีแต่ฉากการต่อสู้" เธอกล่าว "แต่ฉันหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้มีประสพการณ์แสดงด้วยหัวใจ และไม่ใช่เพียงด้วยกำปั้น มีฉากต่อสู้บ้างเหมือนกันในเรื่อง HERO แต่บทบาทของฉันเข้มข้น ซับซ้อน และมีบุคลิกที่โดดเด่น" จางอี้โหม่ว เป็นนักเล่าเรื่องตัวฉกาจที่มีชื่อเสียงก้องโลก แต่ภาพยนตร์เรื่อง HERO เป็นหนังสงครามเรื่องแรกของเขา เขาได้สาธยายความยากลำบากในการทำงานกำกับแอ็คชั่นว่า : "การใช้ดาบแต่ละครั้งในนิยายนั้นเป็นเรื่องที่บรรยายได้ง่ายในแบบตัวหนังสือ - ทั้งความเร็วและแรง - และเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก ที่เราจะสามารถจินตนาการต่อได้อย่างไม่รู้จบสิ้น แต่ในหนัง เรามีเวลาน้อยกว่าหนึ่งวินาทีที่จะบรรยายการเคลื่อนไหวของดาบ - ซึ่งเป็นเรื่องท้าทาย" เขายอมรับถึงความไม่คุ้นเคยในขอบเขตใหม่ แต่จางก็รู้สึกตื่นเต้นกับความท้าทายและโอกาสที่จะได้ร่วมงานกับผู้กำกับแอ็คชั่น โทนี่ ฉิงเสี่ยวตุง ซึ่งเป็นเพื่อนเก่ากันมานับทศวรรษ "และบรรดานักแสดงอีกด้วย" เขาเสริม "เจ็ต ลี โทนี่ เหลียง, แม็กกี้ เจียง, จางซิยี่ และดอนนี่ เหยิน - ห้าดาราดังผู้เปี่ยมพรสวรรค์ของจีน เป็นเรื่องสนุกมากที่ได้ร่วมงานกับพวกเขา มันช่วยลดความกดดันลงได้มากในการที่ได้ทำงานกับคนเก่งๆ แบบนี้" ดอนนี่ เหยิน ชมเชยวิธีการทำงานสไตล์ไหม่ของจาง : "สำหรับคนที่ไม่เคยทำงานกำกับหนังแอ็คชั่นมาก่อน เขามี ความแตกต่างเล็กๆ น้อยในเรื่องของอารมณ์ ในแต่ละช่วง แต่ละเบรก เขาไม่เคยหยุดที่จะค้นหาภาพที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมและปรับให้สมบูรณ์แบบอย่างที่เขาคิดว่ามันควรจะเป็น" รูปแบบมาตรฐานที่ได้ตั้งไว้สำหรับเรื่องราว และฉากแอ็คชั่นในภาพยนตร์เรื่อง HERO นี้ ไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร ในรูปแบบของหนัง เรื่องราวแบ่งออกเป็นสามตอน บอกเล่าจากแง่มุมที่แตกต่าง โดยแต่ละส่วนมีสีสันเฉพาะตัว - แดง ขาว และฟ้า" ปรัชญาของหนังเรื่องนี้ผูกพันกับพล็อตของเรื่องอย่างช่วยไม่ได้" ผู้กำกับการแสดง จางอี้โหม่ว กล่าว "ความคิดที่ใช้สีสันบอกเล่าเรื่องราวนั้นเกิดขึ้นในตอนต้น นับแต่การตั้งแนวความคิดของหนัง รูปแบบของฉาก เครื่องแต่งกาย และอื่นๆ ได้ถูกพัฒนาขึ้นจนเป็นแนวทางเดียวกับสคริปท์ และผมมีจินตนาการอยู่ในหัวมาเนิ่นนานแล้ว และเมื่อได้ลงรายละเอียดในการพูดคุยร่วมกับคนอื่นๆ ในช่วงทำงานภาพยนตร์ด้วยกัน" (ยังมีต่อ) -ตม-

• ข่าววอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิคเจอร์ส
• ข่าวภาพยนตร์เรื่อง
• ข่าวประชาสัมพันธ์
• ข่าวเรื่องราว
• ข่าวบราเดอร์