(ต่อ5) วอร์เนอร์ บราเดอร์สฯ ภูมิใจเสนอบทประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์เรื่อง "Analyze That"

กรุงเทพฯ--16 ธ.ค.--วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิคเจอร์ส ทีมงาน โด่งดังด้วยพรสวรรค์ที่ไม่เหมือนใครของเขาทางการเขียน กำกับการแสดง และอำนวยการสร้าง แฮโรลด์ เรมิส (ผู้กำกับการแสดง/บทภาพยนตร์) เป็นผู้สร้างงานที่ประสบความสำเร็จให้กับหนังคอมเมดี้ส่วนใหญ่ที่เคยสร้างมา ด้วยความเชี่ยวชาญของเขา เรมิสเกิดที่ชิคาโก้ เขาได้รับปริญญาตรีจาก Washington University ในเซนต์หลุยส์ และอยู่ที่นั่นจนปี 1993 และได้รับเกียรตินิยม Doctorate of Arts เขาเริ่มงานคอมเมดี้จากเวที Second City กับกลุ่มนักพูด และได้รับการว่าจ้างให้เป็นกองบรรณาธิการของ Playboy Magazine ในปี 1974 เขาย้ายไปยังนิวยอร์คเพื่อเขียนและแสดงใน The National Lampoon Show กับเพื่อนร่วมรุ่นจาก Second City ชื่อจอห์น เบลูชิ, กิลด้า แรดเนอร์ และบิล เมอเรย์ และในปี 1976 กลายมาเป็นหัวหน้าผู้เขียนบทและตัวแสดงประจำในซีรี่ส์คอมเมดี้ ของ SCTV เรมิสได้ร่วมเขียนในเรื่องฮิต National Lampoon's Animal House, และร่วมทีมกับผู้อำนวยการสร้าง/กำกับการแสดง อิแวน ไรท์แมน ในการเขียนบทเรื่อง Meatballs, Stripes, Ghostbusters และ Ghostbusters II เขายังได้ร่วมแสดงใน Stripes และเรื่องฮิต Ghostbuster และแสดงใน Baby Boom, Stealing Home, Groundhog Day, Airheads, Love Affair, As Good As It Gets, และคอมเมดี้แห่งปี 2002 เรื่อง Orange County และ I'm With Lucy. เรมิสได้กำกับหนังเรื่องแรก ในคอมเมดี้ฮิต Caddyshack, ซึ่งเขาร่วมเขียนบทด้วย ผลงานกำกับสร้างชื่อยังมี Vacation, Club Paradise, Groundhog Day (ซึ่งเขาได้รับรางวัล British Comedy Award และร่วมรับรางวัล BAFTA Award - Best Original Screenplay), Multiplicity, Stuart Saves His Family, หนังฮิตระดับโลก Analyze This และแฟนตาซีคอมเมดี้เรื่อง Bedazzled, ซึ่งร่วมเขียนบทและอำนวยการสร้าง พอล่า วืนสไตน์ (ผู้อำนวยการสร้าง) บริหารงานของ Baltimore Spring Creek Pictures ร่วมกับหุ้นส่วน แบรี่ เลวินสัน และได้ทำงานมากมายกับหนังใหญ่ของทุกสตูดิโอภาพยนตร์ ระหว่างการทำงาน 25 ปีในอาชีพให้ความบันเทิง หนังเรื่องล่าสุดของเธอ ซึ่งออกฉายในปีนี้ คือโรมานซ์เรื่อง Possession, กำกับการแสดงโดย นีล ลาบิวต์ และแสดงโดยกวินเน็ธ พัทโธรล วีสไตน์กำลังอยู่ระหว่างการถ่ายทำให้กับวอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิคเจอร์ส ในหนังคอมเมดี้แอ็คชั่นผจญภัย เรื่อง Looney Tunes: Back in Action, กำหนดฉายในปี 2003 และโปรเจ็คของ HBO ในเรื่อง Iron Jawed Angels เริ่มอาชีพจากาารเป็นเอเย่นต์ และในปี 1976 เข้าทำงานกับวอร์เนอร์ บราเดอร์ส ในตำแหน่งรองประธานฝ่ายผลิต ก่อนที่จะย้ายไปอยู่ ทเวนตี้ เซ็นจูรี่ ฟอกซ์ และ Ladd Company ในปี 1984 วีนสไตน์ได้ก่อตั้งบริษัทโปรดักชั่นของตนเอง - WW Productions และในปี 1987 ได้เป็นผู้บริหารงานที่ปรึกษา ให้กับ MGM ในฝ่ายภาพยนตร์ เพื่อทำงานโปรเจ็คของตน รวมทั้ง A Dry White Season และ The Fabulous Baker Boys ซึ่งได้รับการเสนอชื่อชิงสี่รางวัลตุ๊กตาทองผลงานภาพยนตร์ที่เธอได้สร้าง ได้แก่ Bandits, The Perfect Storm, Analyze This, An Everlasting Peace, Liberty Heights, Fearless, Flesh and Bone, Something To Talk About และ With Honors วีนสไตน์ได้อำนวยการบริหารให้กับ HBO ในเรื่อง Citizen Cohn, Truman, The Cherokee Kid และ First Time Felon เธอได้ร่วมรับรางวัล เอ็มมี่ ในฐานะผู้อำนวยการบริหารในปี 1995 จากหนังโทรทัศน์ Truman, และได้รับการเสนอชื่อชิงอีกหนึ่งรางวัลเอ็มมี่จาก Citizen Cohn ในความเป็นสมาชิกก่อตั้งของ Hollywood Women's Political Committee ในปี 1989 วีนสไตน์ร่วมกับมาร์ค โรเซนเบิร์ก ได้รับ Bill of Rights Award จาก Southern California Chapter of the American Civil Liberties Union ในปี 2000 วีนสไตน์ได้รับรางวัล Variety's Showbiz Expo Hall of Fame Award และในปี 1999 เธอได้รับรางวัล Women In Film's Crystal Award เจน โรเซนธัล (ผู้อำนวยการสร้าง) ผู้ก่อตั้ง Tribeca Productions และ Tribeca Film Center ร่วมกับโรเบิร์ต เดอ นีโร เมื่อปี 1988 เธอได้ดูแลงานทุกด้านที่ครอบคลุมการผลิตและยังเป็นผู้อำนวยการสร้างกับเดอ นีโร งานสร้างภาพยนตร์ของ Tribeca ได้แก่ Thunderheart, Cape Fear, Mistress, Night and the City, The Night We Never Met, Panther, A Bronx Tale, และงานดัดแปลงจากละครของ สก็อต แมคเฟอสัน Marvin's Room นำแสดงโดย เมอริล สตรีพ และไดแอน คีตัน เธอยังได้อำนวยการสร้างหนังเรื่องดังของแบรี่ เลวินสัน ที่เข้าชิงรางวัลเรื่อง Wag the Dog เขียนบทโดย เดวิด มาเหม็ด นำแสดงโดยดัสติน ฮอฟฟแมน และโรเบิร์ต เดอ นีโร โรเซนธัลยังได้อำนวยการสร้างมินิซีรี่ส์เรื่องฮิต Witness to the Mob ให้กับ NBC เมื่อเร็วๆ นี้ โรเซนธัลได้ชื่นชมกับงานที่ประสบความสำเร็จระบบบ็อกซ์ออฟฟิซอย่าง Analyze This และอีกเรื่องในอันดับบ็อกซ์ออฟฟิซเช่นกันจาก Meet the Parents ทางบริษัทเพิ่งจัดจำหน่ายหนังเรื่อง Showtime ให้กับวอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิคเจอร์ส นำแสดงโดยโรเบิร์ต เดอ นีโร และเอ็ดดี้ เมอร์ฟี่ย์ และยังได้ผลิตเรื่อง About a Boy, นำแสดงโดยฮิว แกรนท์ และ เรเชล ไวส์ ซึ่งเปิดตัวที่ Tribeca Film Festival โรเซนธัลกำลังอยู่ระหว่างการทำงานเรื่อง Meet the Fockers ซึ่งจะเป็นการร่วมงานอีกครั้งระหว่าง เดอ นีโร และเบน สติลเลอร์ ภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ของ Tribeca films ได้แก่ Rocky and Bullwinkle, นำแสดงโดยเดอ นีโร, เจสัน อเล็กซานเดอร์ และเรเน รุสโซ และ Flawless ซึ่งร่วมแสดงโดย เดอ นีโร กับฟิลลิป ซีมัวร์ ฮอฟแมน เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2002 โรเซนธัลและเดอ นีโร ได้จัดงาน Tribeca Film Festiva ประจำปีเป็นครั้งแรก เพื่อเฉลิมฉลองนิวยอร์คซิตี้ ในฐานะเป็นเมืองหลักที่ใช้ในการถ่ายทำ และ เพื่อช่วยเหลือในการฟื้นฟูแถบแมนฮัตตันในระยะยาว เทศกาลนี้ได้คัดเลือกหนังเข้ารอบกว่า 155 เรื่อง รวมทั้งการเปิดตัวหนังใหญ่ของหลายสตูดิโอ เช่น About a Boy, Insomnia และ Star Wars: Episode II Attack of the Clones, ร่วมด้วยงานสารคดีสั้นอิสระ และความยาวเท่าภาพยนตร์ ที่เข้าร่วมประกวดด้วย งานนี้ทำให้แมนฮัตตันกลับมามีชีวิตชีวา ด้วยการดึงดูดผู้มาเยือนถึง 150,000 คน ทั้งเพื่อชมภาพยนตร์และเป็นงานบันเทิงตลอดวันสำหรับครอบครัว และฟรีคอนเสิร์ตกลางแจ้ง ในปีนี้นับเป็นงานเวทีครั้งแรกของ Tribeca กับละครเพลง We Will Rock You จากงานดนตรีของ Queen โรเซนธัลและเดอ นีโร ได้ร่วมอำนวยการผลิตละครเพลงซึ่งเขียนบทโดย เบน เอลตัน และกำกับโดยคริส เรนชอว์ เปิดแสดงที่ West End ในลอนดอน เมื่อเดือนพฤษภาคม 2002 ก่อนการก่อตั้ง Tribeca โรเซนธัลได่ทำงานที่ Warner Bros. Television ในตำแหน่ง Vice President of Movies and Miniseries ก่อนหน้านั้น เธอใช้เวลาสองปีกับ Walt Disney เป็น Vice President in Charge of Motion Pictures and Television ที่ซึ่งเธอได้ดูแลงานสร้างภาพยนตร์เรื่อง The Color of Money, Adventures in Babysitting และ The Good Mother ผู้กำกับการแสดง-เขียนบทภาพยนตร์-อำนวยการสร้าง เจ้าของรางวัลตุ๊กตาทองอย่าง แบร์รี่ เลวินสัน (ผู้อำนวยการบริหาร) ได้สั่งสมชื่อเสียงในวงการสร้างภาพยนตร์ ผู้ซึ่งผสมผสานพรสวรรค์ และมันสมองให้กับงานภาพยนตร์ ในปี 1988 เขาได้รับรางวัลออสการ์ - Best Director จากเรื่อง Rain Man ในปี 1991 เรื่อง Bugsy ได้เข้าชิงสิบรางวัลออสการ์ รวมทั้ง Best Picture และ Best Director เขาเกิดและเติบโตในบัลติมอร์ เลวินสันใช้บ้านเกิดของเขาเป็นฉากสำหนับภาพยนตร์เรื่องดังถึงสี่เรื่องด้วยกัน : Diner, คอมเมดี้ดราม่ากึ่งอัตถชีวประวัติ ซึ่งเป็นงานกำกับการแสดงเรื่องแรกของเขา ; Tin Men, นำแสดงโดย แดนนี่ เดอวิโต และริชาร์ด เดรย์ฟัส เป็นเซลส์แมนหุ่นอลูมิเนียม ; Avalon ในเรื่องนี้บ้านเกิดของเขาเป็นศูนย์กลางของเรื่องราวการรวมตัวของครอบครัวอพยพ ; และ Liberty Heights, หนังดราม่ากินใจและเปี่ยมอารมณ์ขัน ที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของบัลติมอร์ในช่วงปี 1954 ในขณะเดียวกันก็เป็นประเด็นของชนชั้น เชื้อชาติ และศาสนา เลวินสันไดศึกษาที่ American University ในวอชิงตัน ดีซี ก่อนย้ายมายังลอส แอนเจลิส ที่ซึ่งเขาได้เริ่มการแสดง เขียนบท และทำงานกิจวัตรคอมเมดี้ เขาเป็นผู้เขียนรายการโชว์วาไรตี้โทรทัศน์ รวมทั้ง The Marty Feldman Comedy Machine และ The Carol Burnett Show ผลงานสร้างชื่อของเลวินสันในฐานะผู้กำกับ ได้แก่ The Natural, Young Sherlock Holmes, Toys, Good Morning Vietnam, Jimmy Hollywood, Disclosure, Sleepers, Sphere, Wag the Dog, An Everlasting Peace และ Bandits เขายังได้รั้งตำแหน่งผู้อำนวยการสร้าง ทุกเรื่องยกเว้นสองเรื่องแรก นอกจากนี้ บริษัทของเลวินสัน Baltimore Spring Creek Pictures ยังได้สร้างเรื่อง Donnie Brasco, Quiz Show และหนังยอดฮิตเรื่อง The Perfect Storm ในฐานะผู้เขียนบท เลวินสันได้รับเสนอชื่อเข้าชิงสามรางวัลตุ๊กตาทอง จาก …And Justice for All, Diner and Avalon เลวินสันกลับไปยังบัลติมอร์ เพื่อถ่ายทำหนังซีรี่ส์โทรทัศน์ เรื่อง Homicide: Life on the Street, ซึ่งทำให้เขาได้รับรางวัลเอ็มมี่ - Best Individual Director of a Drama Series ซีรี่ส์เรื่องนี้ยังได้รับถึงสามรางวัล Peabody Awards สองรางวัล Writers Guild Awards และรางวัล Excellence in Quality Television Founders Awards แห่งปี 1994 และ 1995 ขณะนี้กำลังกำกับคอมเมดี้เรื่อง Envy, ซึ่งนำแสดงโดยเบน สติลเลอร์ กำหนดออกฉายในปี 2003 คริส บริคแฮม (ผู้อำนวยการบริหาร) เคยอำนวยการบริหารให้กับเรื่อง Analyze This เขายังเคยอำนวยการบริหารให้กับหนังดราม่าระทึกขวัญแห่งปี 2002 เรื่อง The Count of Monte Cristo กำกับการแสดงโดยเควิน เรย์โนลด์ส; และร่วมอำนวยการสร้างหนังซึ่งกำกับโดย โรเบิร์ต เรดฟอร์ด เรื่อง The Legend of Bagger Vance, หนังของไมเคิล แอ็พเท็ด เรื่อง Extreme Measures, และหนังสองเรื่องของบาร์เบ็ต ชโรเดอร์ เรื่อง Kiss of Death และ Before and After ผลงานสร้างชื่อมากมายของเขา ยังรวมถึงการรับหน้าที่ผู้จัดการโปรดักชั่นยูนิต ของเรื่อง Interview with the Vampire, Six Degrees of Separation, Lorenzo's Oil, For Love or Money, Walker และ Lieberstraum. บริคแฮม ยังได้ดูแลงานโปรดักชั่นของการถ่ายทำในโลเคชั่นที่ฟิลิปปินส์ให้กับหนังของโอลิเวอร์ สโตน เรื่อง Born on the Fourth of July เลน อามาโต้ (ผู้อำนวยการบริหาร) ดำรงตำแหน่ง Executive Vice President ให้กับ Baltimore Spring Creek Pictures ล่าสุดเขาได้อำนวยการสร้างภาพยนตร์คอมเมดี้ให้กับ Focus Features / Baltimore Spring Creek ในเรื่อง Deliver Us From Eva กำหนดออกฉายในปี 2003 และเป็นผู้อำนวยการบริหารให้กับหนังของ Spring Creek ทาง HBO เรื่อง Iron Jawed Angels กำหนดออกอากาศในปี 2003 เขาได้อำนายการบริหารให้กับ Warner Bros. Pictures / Focus Features / Baltimore Spring Creek ในเรื่อง Possession กำกับโดยนีล ลาบิวต์ เขาได้ร่วมอำนวยการสร้างคอมเมดี้เรื่องฮิต Analyze This รวมทั้งหนังของ Spring Creek ทาง HBO เรื่อง First Time Felon นำแสดงโดย โอมาร์ เอ็พส์ และเดลรอย ลินโด อามาโต้ เริ่มอาชีพของเขาในตำแหน่งสตูดิโอรีดเดอร์และลำดับภาพให้กับผู้อำนวยการสร้างอิสระในนิวยอร์ค เขาได้กลายเป็นผู้กำกับงานล้างฟิล์มให้กับ Tribeca Productions และเริ่มการร่วมงานกับพอล่า วีนสไตน์ และมาร์ค โรเซนเบิร์ก ในตำแหน่ง vice president ของ Spring Productions ปฏิบัติงานในนิวยอร์ค ในปี 1998 เขาได้ย้ายมายังลอส แอนเจลิส เมื่อวีนสไตน์ร่วมหุ้นกับ ผู้อำนวยการสร้าง/กำกับการแสดง แบรี่ เลวินสัน เพื่อก่อตั้ง Baltimore Spring Creek Productions อามาโต้เกิที่ชิคาโก และเข้าศึกษาที่ Columbia College บรูซ เบอร์แมน (ผู้อำนวยการบริหาร) เข้าทำงานในฝ่ายผลิตของ Warner Bros. Pictures และไต่เต้าขึ้นสู่ตำแหน่งผู้บริหารจนได้เป็น President of Worldwide Theatrical Production ในช่วงการบริหารงานของเขา ทางสตูดิโอได้ผลิตและจำหน่ายภาพยนตร์มากมาย รวมทั้งงานที่ได้รับรางวัลออสการ์อย่าง Driving Miss Daisy, รวมทั้ง GoodFellas, Presumed Innocent, Robin Hood: Prince Of Thieves, Batman Forever, Malcolm X, The Bodyguard, JFK, The Fugitive, Dave, A Time To Kill และ Twister ในปี 1996 เบอร์แมนได้ก่อตั้ง Plan B Entertainment ซึ่งเป็นบริษัทโปรดักชั่นอิสระของ Warner Bros. Pictures ซึ่งต่อมาถูกควบรวมกิจการโดย Village Roadshow Pictures และที่ Village Roadshow Pictures ซึ่งเบอร์แมนดำรงตำแหน่ง Chairman และ Chief Executive Officer ขณะนี้มีโปรเจ็คซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินงานอีก 20 เรื่องในขั้นตอนต่างๆ กัน ให้กับ Warner Bros. Pictures และเมื่อเร็วๆ นี้ เบอร์แมนได้อำนวยการบริหารให้กับหนังหลายเรื่องที่ได้รับความสำเร็จอย่างสูง ได้แก่ Ocean's 11, Showtime, Eight Legged Freaks, Training Day, Cats & Dogs, Three Kings, The Matrix, Analyze This, Deep Blue Sea, Practical Magic และ Space Cowboys โดยการหุ้นกันของ Village Roadshow และ Warner Bros. Pictures รวมทั้งคอมเมดี้เรื่องฮิต Miss Congeniality ซึ่งเป็นการร่วมกันอำนวยการสร้างโดย Warner Bros. Pictures และ Castle Rock Entertainment ล่าสุดเขาได้อำนวยการบริหารให้กับหนังระทึกขวัญเรื่อง Ghost Ship, อำนวยการสร้างโดยโจเอล ซิลเวอร์ และกำลังฉายอยู่ในขณะนี้ ผลงานเรื่องต่อไปของเขาได้แก่ Two Weeks Notice นำแสดงโดยแซนดรา บุลล็อค และฮิว แกรนท์; และเรื่อง Dreamcatcher, นำแสดงโดยมอร์แกน ฟรีแมน จากนวนิยายขายดีของสตีเฟน คิง และกำกับการแสดงโดยลอว์เรนซ์ แคสแดน เบอร์แมนจะอำนวยการบริหารให้กับภาคต่อสองตอนของภาพยนตร์เรื่องที่ผู้ชมตั้งตาคอย Matrix ใน The Matrix Reloaded และ The Matrix Revolutions ทั้งสองเรื่องมีกำหนดออกฉายในปี 2003 ซูซาน แฮร์ริงตัน ร่วมอำนวยการสร้าง ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง Vice President of Development/Production ให้กับ Harold Ramis's company, Ocean Pictures เกิดที่ไพน์เฮิร์สต์ N.C. และเติบโตในเมอร์เทิล S.C., เข้ารับการศึกษาจาก Hofstra University และเริ่มอาชีพทางด้านงานพิมพ์ในนิวยอร์คซิตี้ นับแต่ร่วมงานกับ Ocean Pictures ได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับเรมิส ในเรื่อง Groundhog Day เธอได้ร่วมงานด้านผลิตกับเรื่อง Stuart Saves His Family และช่วยอำนวยการสร้างให้กับเรื่อง Multiplicity และเช่นเดียวกันใน Analyze This และร่วมอำนวยการสร้างในหนังของเรมิสเรื่องล่าสุด Bedazzled ปีเตอร์ สไตน์เฟลด์ (ผู้เขียนบทภาพยนตร์) เติบโตในนิวเจอร์ซี่ย์ งานชิ้นแรกของเขาได้แก่ละคร ในชื่อว่า C'est La Vie เปิดแสดงที่นิวยอร์คใน Lincoln Center Performing Arts Festival ในปี 1995 เมื่อปี 1998 สไตน์เฟลด์ย้ายมายังลอส แอนเจลิส และขายบทภาพยนตร์ให้กับ Danny De Vito/Bette Midler เรื่อง Drowning Mona ซึ่งออกฉายเมื่อปี 2000 และในปี 2000 เช่นกัน ที่สไตน์เฟลด์ได้เขียนบทให้กับภาพยนตร์ของ Columbia Pictures เรื่อง Snatching Sinatra สำหรับผู้อำนวยการสร้าง/กำกับ เบ็ตตี้ โธมัส ในเขาได้เขียนบทให้กับ Columbia Pictures ในเรื่อง The Best Lie ให้ฌอน คอนเนอรี่ ในปี 2002 เขาทั้งเขียนบทและอำนวยการบริหารให้กับหนังไพล็อตทางโทรทัศน์ ร่วมกับ ดีฌอน ชไนเดอร์ ภรรยาซึ่งเป็นหุ้นส่วนธุรกิจด้วย ให้กับ Jersey Television และ Fox Network เขายังได้เขียนและอำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่อง Shock Therapy ร่วมกับชไนเดอร์ ให้กับบริษัทของเบ็ตตี้ โธมัส Tall Trees และในปี 2002 เขาได้ทำงานภาพยนตร์เรื่อง Alles Bob กับงานสร้างของริดลีย์ สก็อต และชารอน แม็กไกวร์ (Bridget Jones' Diary) ในงานกำกับการแสดง ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการเขียนให้กับหนังภาคต่อของ MGM เรื่อง Get Shorty ในชื่อ Be Cool, ให้กับ Jersey Films ปีเตอร์ โทแลน (ผู้เขียนบทภาพยนตร์) ในบรรดารายชื่อภาพยนนตร์ชื่อดังที่เขาเคยเขียนบทให้ ได้แก่ คอมเมดี้เรื่อง Stealing Harvard, America's Sweethearts (ซึ่งเขาได้อำนวยการบริหาร), What Planet Are You From?, My Fellow Americans, และ Bedazzled กำกับและอำนวยการสร้างโดย แฮโรลด์ เรมิส โทแลนและเรมิสได้ร่วมงานกันมาก่อนในเรื่อง Analyze This ซึ่งโทแลนมีชื่อจากทั้งบทภาพยนตร์และเนื้อเรื่อง ทางโทรทัศน์ โทแลนได้เขียนบทและอำนวยการบริหารให้กับเรื่อง The Larry Sanders Show และได้รับรางวัลเอ็มมี่ (กับแกรี่ แชนด์ลิ่ง) ในงานเขียนบทอวสานของเรื่อง เขายังได้รับรางวัลเอ็มมี่จาก Murphy Brown ล่าสุดได้สร้างและอำนวยการบริหารเรื่อง The Job, นำแสดงโดยเดนิส เลียรี่ เอลเลน คูราส ASC (ผู้กำกับภาพ) อย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน เธอได้รับรางวัลถึงสามครั้ง จาก Sundance Film Festival's Best Dramatic Cinematography Award, ครั้งแรกจากงาานขาวดำ ให้กับหนังอิสระเรื่องดังของทอม เคลิน เรื่อง Swoon เกี่ยวกับคดีฆาตกรรมของ Leopold และ Loeb การทำงานในเรื่องนี้ ทำให้เธอได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัล Independent Spirit Award เธอและเคลินยังได้ร่วมงานกันในภายหลังในเรื่อง 30 ซึ่งเป็นหนังบรรยายความยาวครึ่งชั่วโมง ที่ได้รับมอบหมายโดย เจฟฟรีย์ บีน ภาพยนตร์เรื่องต่อมาของเธอ Postcards from America กำกับการแสดงโดยสตีฟ แมคลีน และหนังของรอน วาวเตอร์ Roy Cohn/Jack Smith ทั้งสองเรื่องเปิดตัวในปี 1994 ที่ New York Film Festival ฝีมือถ่ายทำของเธอในหนังเรื่อง Angela ด้วยการกำกับของรีเบ็กก้า มิลเลอร์ ทำให้เธอได้รับรางวัลตัวที่สองจาก Sundance Best Dramatic Cinematography Award ในปี 1995 และเป็นงานกำกับภาพครั้งแรกและครั้งเดียวของเธอที่ได้รับรางวัลนั้นสองครั้ง ในปีเดียวกัน เธอได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลเอ็มมี่จากงานในเรื่อง Century of Women คูราสเริ่มทำงานเมื่อปี 1987 ถ่ายทำหนังให้กับเอลเลน บรูโน เรื่อง Samsara ซึ่งได้รับไม่ต่ำกว่า 25 รางวัลนานาชาติ รวมทั้ง Sundance Jury Award งานถ่ายทำของเธอจากเรื่องนั้นยังทำให้ได้รับรางวัล 1990 Eastman Kodak Best Cinematography Focus Award รายชื่อผลงานโด่งดังของเธอ ได้แก่ Unzipped; I Shot Andy Warhol, งานกำกับของแมรี่ แฮรอน; หนังของสไปค์ ลี เรื่อง Niggericans; จาก HBO Subway Stories, HBO สเปเชียล เรื่อง If These Walls Could Talk, Part 1,กำกับการแสดงโดยแนนซี่ แซโวคา และแสดงโดยเดมี่ มัวร์ ; และงานของผู้กำกับการแสดง ริชาร์ด เวงค์ เรื่อง Just the Ticket เธอร่วมงานกับสไปค์ ลี ด้วยการถ่ายทำสารคดีชิงรางวัลตุ๊กตาทอง Four Little Girls ซึ่งทำให้เธอได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลเอ็มมี่ด้วย หลังจากเสร็จงานเรื่อง Mod Squad ให้กับผู้กำกับการแสดงสก็อต ซิลเวอร์ เธอได้ร่วมงานอีกครั้งกับลี ในดราม่าเรื่อง Summer of Sam ในปี 1998 ตามมาในปี 1999 ด้วยเรื่อง Bamboozled หนึ่งในหนังเรื่องแรกๆ ของสตูดิโอ ที่ถ่ายทำด้วยระบบมินิดิจิตอล และนำมาขยายเป็นภาพยนตร์ คูราสยังได้ถ่ายทำหนังของเท็ด เดมม์ เรื่อง Blow นำแสดงโดยจอห์นนี่ เด็พ หนังร่วมงานอีกครั้งกับสไปค์ ลี ใน Jim Brown All American, ก่อนทำงานร่วมกับรีเบ็กก้า มิลเลอร์ ใน Personal Velocity ซึ่งได้รับรางวัล 2002 Sundance - Best Dramatic Cinematography รวมทั้ง Grand Jury Award วินน์ โธมัส (ผู้ออกแบบฝ่ายศิลป์) เคยรับหน้าที่เดียวกัน ในเรื่อง Analyze This และยังออกแบบฉากให้กับหนังที่ได้รับรางวัลตุ๊กตาทองอย่าง A Beautiful Mind รายชื่อภาพยนตร์ที่สร้างชื่อให้ ได้แก่ หนังเทเลฟิล์มเรื่องล่า The Huey P. Newton Story, The Original Kings of Comedy, Keeping the Faith, Witness to the Mob, หนังของทิม เบอร์ตัน Mars Attacks!, ของแบรี่ เลวินสัน Wag The Dog, To Wong Foo, Thanks For Everything, Julie Newmar, A Bronx Tale และ The Five Heartbeats เริ่มต้นงานภาพยนตร์ในปี 1986 ด้วยเรื่อง She's Gotta Have It โธมัสเริ่มงานสร้างสรรค์อย่างต่อเนื่อง ด้วยการทำงานร่วมกับสไปค์ ลี ในเรื่อง He Got Game, Crooklyn, เข้าชิงรางวัลออสการ์ Malcolm X, Jungle Fever, Mo' Better Blues, Do the Right Thing และ School Daze นอกจากนั้น เขายังออกแบบฉากให้กับหนังคอนเสิร์ตแห่งปี 1987 เรื่อง Eddie Murphy Raw แอนดรู มอนด์ชีน ACE (ผู้ลำดับภาพ) ล่าสุดทำงานตัดต่อให้กับ The Shipping News ของผู้กำกับแลส ฮอลสตอร์ม ก่อนหน้านี้เคยร่วมงานกันมาในหนังเข้าชิงรางวัลออสการ์ เรื่อง Chocolat, What's Eating Gilbert Grape และ Once Around เขาเคยได้รับการแสนอชื่อชิงรางวัลตุ๊กตาทอง, BAFTA และ an American Cinema Editors Award (Eddie) ในปี 1999 ทำงานหนังระทึกขวัญให้กับ เอ็ม ไนท์ ชยามาแลน เรื่อง The Sixth Sense ผลงานลำดับภาพของเขาในภาพยนตร์เรื่องดัง ได้แก่ หนังของโจ รูเบ็น เรื่อง Return To Paradise; หนังของบีแบน คิดรอน เรื่อง To Wong Foo, Thanks for Everything, Julie Newmar; และ Susan Seidelman's Desperately Seeking Susan เขายังเคยร่วมงานกับผู้กำกับชื่อดัง ซิดนีย์ ลูเม็ต ในหนังทั้งหมดรวมห้าเรื่อง รวมทั้ง Family Business, Running on Empty และ Garbo Talks เดวิด โฮล์มส (ดนตรีประกอบ) เป็นผู้แต่งเพลงประพกอบให้กับหนังฮิตเมื่อปีกลาย เรื่อง Ocean's 11 ของผู้กำกับสตีเวน โซเดอเบิร์ก ก่อนหน้านี้ทั้งคู่เคยร่วมงานกันใน Out of Sight เกิดและโตในไอร์แลนด์เหนือ เริ่มอาชีพทางดนตรีด้วยการเป็นดีเจ ในคลับแห่งหนึ่งในเบลฟาสต์ เมื่ออายุ 15 ปี และได้ถูกปลูกฝังด้านดนตรีที่หลากหลายนับแต่อายุยังน้อย และโตมาพร้อมกับพังค์ ม็อด และเอซิด ในปี 1995, อัลบั้ม U.K. แรกของเขา ในชื่อ This Film's Crap, Let's Slash the Seats, สำหรับ Go Beat!/UK, ซึ่งได้รับการต้อนรับและวิจารณ์อย่างท่วมท้น และเพลงจากอัลบั้ม "No Man's Land," ได้กลายมาเป็นเพลงธีมของซีรี่ส์เรื่องฮิตของอังกฤษ Prime Suspect สองปีต่อมาโฮล์มสมายังนิวยอร์ค เพื่อเสาะหาความกลมกลืนของลักษณะและวัฒนธรรมที่ไม่เหมือนใครของเมืองใหญ่ ผลงานอเมริกันอัลบั้มแรกของเขา คือ Let's Get Killed ซึ่งติดอันดับ Top 20 ใน College Music Journal (CMJ) และขึ้นอันดับหนึ่งในชาร์ต CMJ's DJ/Electronic ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากการเดินทางครั้งนี้ ในขณะที่คอนเซปท์ของ Let's Get Killed เป็นเสมือนการก้าวกระโดดจากอัลบั้มแรก โฮล์มสจึงตัดสินใจที่จะเดินหน้าต่อไปกับการผจญภัยครั้งใหม่ กับชุด Bow Down to the Exit Sign, ซึ่งเป็นอัลบั้มที่สามให้กับ 1500 Records/Go! Beat Records อีกครั้งที่โฮล์มสได้สร้างชื่อกับผลงานที่ยังไม่เคยค้นพบอย่างน่าประทับใจ อัลบั้มนี้ทำงานไปพร้อมกับบทภาพยนตร์ของเรื่อง Living Room ซึ่งเป็นการยกระดับเพลง ภาพ และเนื้อเรื่อง การทำงานของเขาส่งผลให้เป็นการเชื่อมโยงต่อไปยังโปรเจ็คอื่นๆ รวมถึงอัลบั้ม Essential Mix ของเขาเองให้กับ London Records และในตำแหน่งโปรดิวเซอร์กับรีมิกเซอร์ ของ U2, Manic Street Preachers และ Jon Spencer Blues Explosion เขามีความปรารถนาที่จะเขียนเพลงให้กับภาพยนตร์มาโดยตลอด เขาเริ่มด้วยการทำงานให้กับซาวนด์แทร็คของอังกฤษ ซึ่งเป็นที่สะดุดหูของผู้สร้างภาพยนตร์ มาร์ค อีแวนส์ ซึ่งเชิญให้เขาทำเพลงประกอบให้กับ Resurrection Man, เรื่องราวอิงช่วงเวลาที่มืดมนของประวัติศาสตร์เบลฟาสต์ เขาได้รับเสียงชื่นชมมากมายจากงานเพลง รวมทั้งข้อเสนอจากฮอลลีวู้ด ซึ่งในเวลาต่อมาเขาจึงได้ทำงานให้กับโซเดอเบิร์กในเรื่อง Out of Sight เขายังได้แต่งเพลงให้กับ Miramax ในแบล็กคอมเมดี้เรื่องล่าสุด Buffalo Soldiers เขาได้รับรางวัลจากผลงานมิกซ์ของเขาในรายการของ พีท ทอง ทาง BBC Radio One รวมทั้ง Best Irish Album of 1997 ในเพลง Let's Get Killed จาก Irish Rock Awards โอด์ บรอนสัน-โฮเวิร์ด (ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย) ร่วมงานอีกครั้งกับแฮโรลด์ เรมิส และทีมงานและทีมนักแสดงดั้งเดิม เธอเคยสร้างสรรเครื่องแต่งกายให้กับ Analyze This ในปี 1999 และล่าสุดได้ทำงานเครื่องแต่งกายให้กับดราม่าฆาตกรรม The Score, กำกับการแสดงโดยโรเบิร์ต เดอ นีโร และแฟรงค์ ออซ ผลงานออกแบบเครื่องแต่งกายที่สร้างชื่อของเธอในภาพยนตร์มากมายหลากหลาย ได้แก่ Meet Joe Black, Donnie Brasco, หนังของอัล ปาชิโน Looking for Richard, Heaven's Prisoners, The Cowboy Way, หนังของไบรอัน เดอ พาลมา เรื่อง Carlito's Way, Romeo Is Bleeding, งานเข้าชิงออสการ์ ใน Scent of A Woman, Final Analysis, Mississippi Burning และ Angel Heart-- จบ-- -สส-

ข่าววอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิคเจอร์ส+ภาพยนตร์เรื่องวันนี้

Gossip News: ชมเบื้องหลังภาพยนตร์สุดสยองขวัญ “It โผล่จากนรก”

ช่อง 28 จะพาแฟนๆไปชมเบื้องหลังภาพยนตร์แนวสยองขวัญ วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิคเจอร์ส และนิวไลน์ ซีเนม่า ภาคภูมิใจเสนอ "It โผล่จากนรก" จากนวนิยายสุดสยองของ สตีเฟ่น คิงส์ สู่ความกลัวเขย่าขวัญสั่นประสาท "มันจะเสพความกลัวของคุณพาคุณล่องลอย...ไปสู่ความตาย!" ติดตามชมเบื้องหลังของภาพยนตร์แนวสยองขวัญที่จะมาเขย่าสั่นประสาท "It โผล่จากนรก" วันเสาร์ที่ 2 กันยายน 2560 เวลา 16.30-17.00 น. ทางช่อง 28 และรับชมผ่านทาง Application 3

ภาพข่าว: เมเจอร์ โบว์ล ฮิต จัดแข่งขัน “ซูเปอร์แมน รีเทิร์นส ชาเลนจ์”

อาทร เตชะตันติวงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เมเจอร์โบว์ล กรุ้ป จำกัด ร่วมกับ มร.เฮนรี่ ทราน ผู้จัดการทั่วไป บริษัทวอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิคเจอร์ส จำกัด เปิดแคมเปญ “เมเจอร์ โบว์ล ซูเปอร์แมน รีเทิร์นส ชาเลนจ์” การแข่งขัน...

(ต่อ3): วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิคเจอร์ส ภูมิใจเสนอ A Cinderella Story

คลิฟฟอร์ด เวอร์เบอร์ (ผู้อำนวยการสร้าง) ได้ผ่านการทำงานบริหารภาพยนตร์ให้กับบริษัท ทเวนตี้ เซ็นจูรี่ ฟ๊อกซ์ ฟิล์ม คอร์ปอร์เรชั่นและวอร์เนอร์ บราเดอร์ส ตั้งแต่ปี 1986 มาจนถึงปี 1999 ซึ่งในช่วงเวลานั้นเขายังได้ทำงานอย่างใกล้ชิด...

(ต่อ2): วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิคเจอร์ส ภูมิใจเสนอ A Cinderella Story

ดราตรี สีขาว เกาะอกไม่มีสายปักลูกปัดและกระโปรงผ้าโปร่งเหมือนในเทพนิยาย นั้นมาจากคอลเลคชั่นของ โมนิค ฮูลิเย่ ดีไซน์เนอร์จากเบเวอรี่ ฮิลล์ ผู้ซึ่งมีความชำนาญทางด้านชุดราตรีและชุดแต่งงาน งานของเธอนั้นเรียบง่ายแต่ดูดี วินเกทยกความดี...

(ต่อ1): วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิคเจอร์ส ภูมิใจเสนอ A Cinderella Story

อย่างที่รอสแมนวางไว้ว่า “เขาเป็นเจ้าชายที่ไม่อยากจะเป็นเจ้าชาย” “พวกเราประทับใจในตัวแชด พวกเราเลื่อนวันเปิดกล้องออกไปเพื่อให้สอดคล้องกับตารางซีรีส์ทางโทรทัศน์ของเขา” รอสแมนเล่าถึงการที่ได้ค้นพบตัวแสดงหลังจากผ่าน ขั้นตอนอัน “ยาวนาน...

วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิคเจอร์ส ภูมิใจเสนอ A Cinderella Story

ซินเดอเรลล่าเองยังไม่เคยรู้สึกแย่ขนาดนี้มาก่อนเลย ในภาพยนตร์เรื่อง A Cinderella Story – เรื่องราวของเทพนิยายคลาสสิคที่กลับตาละปัดแต่แฝงด้วยความร่าเริงสนุกสนานที่ถูกนำกลับมาทำให้เข้าสมัย นักเรียนมัธยมปลาย แซม มอนโกเมอรี่ (ฮิลลารี่ ดัฟฟ์)...

(ต่อ 3) วอร์เนอร์ บราเดอร์สฯ ภูมิใจเสนอบทประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์เรื่อง "Hero"

กรุงเทพฯ--14 ม.ค.--วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิคเจอร์ส คริสโตเฟอร์ ดอยล์ (ผู้กำกับภาพ) เกิดที่ซิดนีย์ เขาได้บินหนีความจืดชืดของชนบท และใช้เวลาส่วนใหญ่บนถนนชีวิต ในหลายช่วงเวลา เขาเคยเป็นกระทั่งคนขุดบ่อน้ำในอินเดีย, กลาสีบน...

(ต่อ 2) วอร์เนอร์ บราเดอร์สฯ ภูมิใจเสนอบทประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์เรื่อง "Hero"

กรุงเทพฯ--14 ม.ค.--วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิคเจอร์ส ผลงานภาพยนตร์ In the Mood for Love (2000) Sausalito (2000) Augustin, King of Kung Fu (1999) Those were the Days (1997) Chinese Box (1997) The Soong Sisters (1997) Comrades:...

(ต่อ 1) วอร์เนอร์ บราเดอร์สฯ ภูมิใจเสนอบทประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์เรื่อง "Hero"

กรุงเทพฯ--14 ม.ค.--วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิคเจอร์ส ในการค้นหาความสมบูรณ์แบบ จางได้เดินทางหลายร้อยไมล์เพื่อเสาะหาสถานที่ยอดเยี่ยมสำหรับแต่ละฉาก ทีมงานที่ขันแข็งจำนวน 300 คน เดินทางจากดุนฮวง ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลกวางสู ...

วอร์เนอร์ บราเดอร์สฯ ภูมิใจเสนอบทประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์เรื่อง "Hero"

กรุงเทพฯ--14 ม.ค.--วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิคเจอร์ส เวลา สองพันปีก่อน สถานที่ จุดเริ่มต้นความป่าเถื่อนแห่งราชวงศ์ฉิน เรื่องราว ของว่าที่จักรพรรดิแห่งแผ่นดินจีน ผู้กำลังจะมีชัยในการครอบครองแผ่นดินที่ถูกย่ำยีด้วยพิษสงคราม ...