เวที บสท. ครั้งที่ 4/ บสท.ปรับองค์กรใหม่รองรับการบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ

28 May 2002

กรุงเทพฯ--28 พ.ค.--บสท.

เนื่องจากปัจจุบันบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) มีลูกหนี้ด้อยคุณภาพที่รับโอนมาจากสถาบันการเงินเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก โดย ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2545 ลูกหนี้ที่รับโอนมาทั้งสิ้นมีจำนวน 4,629 ราย คิดเป็นมูลค่าตามบัญชีที่ บสท. รับโอน 711,198 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเจ้าหนี้รายเดียว 1,077 ราย และเจ้าหนี้หลายราย 3,552 ราย และจะมีการรับโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่เป็นลูกหนี้รายย่อยที่มีมูลหนี้ต่ำกว่า 50 ล้านบาทเพิ่มเติมอีกจำนวนกว่า 60,000 ราย คิดเป็นมูลค่าตามบัญชีที่ บสท. รับโอนประมาณ 110,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ บสท. ยังมีทรัพย์สินที่รับตีโอนราคาชำระหนี้ และ/หรือที่ใช้อำนาจบังคับหลักประกันเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งจะต้องดูแลพัฒนาให้ทรัพย์สินนั้นอยู่ในสภาพดีและไม่มีการด้อยค่า เพื่อจะ ได้นำออกจำหน่ายได้ ทำให้บุคลากรในปัจจุบันไม่เพียงพอรองรับปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น

ส่งผลให้ บสท. ต้องมีการปรับปรุงโครงสร้างองค์กรและอัตรากำลังเพิ่มอีก 130 อัตรา จาก 200 รวมเป็น 330 อัตรา เพื่อรองรับงานด้านการปรับโครงสร้างหนี้/ปรับโครงสร้างกิจการ ซึ่งการบริหารหนี้ด้อยคุณภาพมีความแตกต่างกันทั้งในกรณีเจ้าหนี้รายเดียวและหลายราย จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องใช้บุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเข้ามาทำงาน เพื่อให้การบริหารงานมี ประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้เพื่อสนับสนุนงานที่เป็นภารกิจต่อเนื่องของสายงานหลัก ทั้งในการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานตามเงื่อนไขการปรับโครงสร้างหนี้/การปรับโครงสร้างกิจการของลูกหนี้ตามแนวทางที่ บสท. อนุมัติ ตลอดจนทำหน้าที่ในการพัฒนาทรัพย์สิน และการบังคับหลักประกัน

ในการปรับโครงสร้างองค์กรนั้น บสท. มีหลักการแบ่งงานตามขอบเขตหน้าที่ และยัง คงหลักการในการจัดจ้างบริษัทภายนอก (Out -Source) มาดำเนินงานที่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้พนักงานประจำ ส่วนโครงสร้างองค์กรจะเป็นในลักษณะ Flat Organization คือ เป็นลักษณะ สายงานที่สั้นและ กะทัดรัด และในอนาคตหากปริมาณงานน้อยลงก็จะมีการปรับลดขนาดของ องค์กรในบางส่วนลง

องค์กรใหม่ของ บสท. จะประกอบด้วย

1.สายงานด้านจัดการสินทรัพย์และปรับโครงสร้างกิจการ ประกอบด้วย 5 ฝ่าย จากเดิม 3 ฝ่าย โดยแบ่งเป็นฝ่ายจัดการสินทรัพย์ 4 ฝ่าย รับผิดชอบด้านการจัดการสินทรัพย์ตามประเภท และปริมาณของกลุ่มลูกหนี้ ที่มีเจ้าหนี้รายเดียว หรือหลายราย ซึ่งแต่ละประเภทมีการบริหารจัดการที่แตกต่างกัน และฝ่ายปรับโครงสร้างกิจการ ทำหน้าที่รับผิดชอบเฉพาะงานปรับโครงสร้าง กิจการ และการฟื้นฟูกิจการในศาลล้มละลาย

2.สายงานสนับสนุนงานจัดการสินทรัพย์และปรับโครงสร้างกิจการ ซึ่งมีภารกิจสำคัญ คือ งานธุรกรรมบริหารสินทรัพย์ งานพัฒนาสินทรัพย์ที่รับโอนมาหลังการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และงานปฏิบัติการและการติดตามผลการปฏิบัติตามสัญญาปรับโครงสร้างหนี้และโครงสร้างกิจการ รวมทั้งโอนฝ่ายนิติการ และศูนย์บริหารข้อมูลมาอยู่ในสายงานสนับสนุนงานจัดการสินทรัพย์และปรับโครงสร้างกิจการด้วย

3.สายงานสนับสนุน ประกอบด้วย ฝ่ายการบัญชีและการเงิน ฝ่ายทรัพยากรบุคคลและ ธุรการ และสำนักกรรมการผู้จัดการ โดยจะมีการเพิ่มส่วนองค์กรสัมพันธ์ และส่วนบริหาร ความเสี่ยง

อย่างไรก็ตามการดำเนินการทุกอย่างของ บสท. นั้น ต้องการให้มีการปรับโครงสร้างหนี้รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากที่สุด และกระบวนการบริหารงานทุกอย่างของ บสท. ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความโปร่งใส และทุกฝ่ายสามารถที่จะตรวจสอบการดำเนินงานของ บสท. ได้--จบ--

-อน-