กรุงเทพฯ--18 พ.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศ (National rating) ของหุ้นกู้ที่ออกโดยบริษัท อีเทอนอล 4 นิติบุคคลเฉพาะกิจ จำกัด (Eternal 4) และประกาศคงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินในประเทศระยะยาว (International Local Currency rating) ของหุ้นกู้ที่ออกโดยบริษัท อีเทอนอล 5 นิติบุคคลเฉพาะกิจ จำกัด (Eternal 5) พร้อมทั้งปรับแนวโน้มอันดับเครดิตหุ้นกู้ของ Eternal 5 เป็นแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ จากแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ โครงการทั้ง 2 เป็นโครงการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ประเภทกลุ่มลูกหนี้บัตรเครดิตของบริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด มหาชน ซึ่งปัจจุบันมีอันดับเครดิตภายในประเทศอยู่ที่ ‘BBB+(tha)’/’F2(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ รายละเอียดของอันดับเครดิตมีดังต่อไปนี้
Eternal 4
Eternal 5
การประกาศคงอันดับเครดิตของหุ้นกู้ของโครงการทั้งสอง สะท้อนถึงผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของกลุ่มลูกหนี้บัตรเครดิตที่อยู่ในระดับที่ดีเมื่อเทียบกับสมมุติฐานของฟิทช์ ณ วันที่เริ่มโครงการ รวมถึงระดับส่วนช่วยสนับสนุนเครดิต (credit enhancement) ที่แข็งแกร่งของทั้งสองโครงการ นอกจากนี้ การที่ฟิทช์คาดการณ์ว่าภาวะเศรษฐกิจไทยจะสามารถเติบโตได้ในระดับปานกลางและอัตราการว่างงานจะอยู่ในระดับต่ำ ยังเป็นปัจจัยสนับสนุนในการประกาศคงอันดับเครดิตในครั้งนี้อีกด้วย การปรับแนวโน้มอันดับเครดิตหุ้นกู้ของ Eternal 5 เป็นแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ เป็นผลมาจากการการปรับแนวโน้มอันดับเครดิตสากลสกุลเงินในประเทศระยะยาวของประเทศไทย ในวันที่ 12 พฤษภาคม 2554 เป็นแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ จากแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ ทั้งนี้ อันดับเครดิตสูงสุดของหุ้นกู้ของ Eternal 5 ได้ถูกจำกัดไว้ที่อันดับเครดิตสากลสกุลเงินในประเทศระยะยาวของประเทศไทย
อรวรรณ การุณกรสกุล Senior Director ฝ่าย Structured Finance ของฟิทช์ กล่าวว่า “กลุ่มลูกหนี้บัตรเครดิตของ Eternal 4 และ Eternal 5 มีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในปี 2553 ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการฟื้นตัวของสภาพเศรษฐกิจ ถึงแม้ว่าอัตราส่วนการชำระหนี้คืนรายเดือนเมื่อเทียบกับยอดลูกหนี้ (monthly payment rate) และอัตราส่วนลูกหนี้ผิดนัด (default rate) จะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในเดือนตุลาคม 2553 ผลกระทบดังกล่าวยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ โดยอัตราส่วนการชำระหนี้คืนรายเดือนเมื่อเทียบกับยอดลูกหนี้ลดลงชั่วคราวในเดือนธันวาคม 2553 ในขณะที่อัตราส่วนลูกหนี้ค้างชำระ (total delinquency rate) เพิ่มสูงขึ้นไม่มากนักตั้งแต่ต้นปี 2554 ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตในช่วงที่อ่อนแอที่สุดของทั้งสองโครงการยังคงสอดคล้องกับสมมุติฐานของฟิทช์ ในการคาดการณ์ผลการดำเนินงานในอนาคตของกลุ่มลูกหนี้บัตรเครดิตภายใต้โครงการ ฟิทช์ได้นำเอาผลการดำเนินงานในอดีตในช่วงที่อ่อนแอที่สุดมาเป็นเกณฑ์มาตรฐานซึ่งฟิทช์มองว่าการใช้เกณฑ์ดังกล่าวมีความระมัดระวังในระดับที่เพียงพอ“
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit