ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ทั้ง 7 ชุดภายใต้โครงการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ประเภทกลุ่มลูกหนี้บัตรเครดิต พร้อมทั้งให้อันดับ Loss Severity

01 Sep 2009

กรุงเทพฯ--1 ก.ย.--ฟิทช์ เรทติ้งส์

บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ทุกชุดที่ออกโดยบริษัท อีเทอนอล เครดิตการ์ด นิติบุคคลเฉพาะกิจ จำกัด (ECC) บริษัท อีเทอนอล 3 นิติบุคคลเฉพาะกิจ จำกัด (Eternal 3) และบริษัท อีเทอนอล 4 นิติบุคคลเฉพาะกิจ จำกัด (Eternal 4) พร้อมทั้งให้อันดับ loss severity ดังต่อไปนี้ ECC

  • หุ้นกู้ชุด A-2 มูลค่า 1.0 พันล้านบาท ที่ระดับ ‘AAA(tha)’/แนวโน้มมีเสถียรภาพ อันดับ loss severity ที่ ‘LS-2’ โดยมีวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้วันสุดท้ายในเดือนพฤศจิกายน 2554 Eternal 3
  • หุ้นกู้ชุด A-2 มูลค่า 500 ล้านบาท ที่ระดับ ‘AAA(tha)’/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ อันดับ loss severity ที่ ‘LS-2’ โดยมีวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้วันสุดท้ายในเดือนมีนาคม 2556
  • หุ้นกู้ชุด B มูลค่า 120 ล้านบาท ที่ระดับ ‘AA(tha)’/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ อันดับ loss severity ที่ ‘LS-3’ โดยมีวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้วันสุดท้ายในเดือนมีนาคม 2556
  • หุ้นกู้ชุด C มูลค่า 160 ล้านบาท ที่ระดับ ‘A(tha)’/แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ อันดับ loss severity ที่ ‘LS-3’ โดยมีวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้วันสุดท้ายในเดือนมีนาคม 2556 Eternal 4
  • หุ้นกู้ชุด A-1 มูลค่า 1.5 พันล้านบาท ที่ระดับ ‘AAA(tha)’/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ อันดับ loss severity ที่ ‘LS-2’ โดยมีวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้วันสุดท้ายในเดือนตุลาคม 2555
  • หุ้นกู้ชุด A-2 มูลค่า 500 ล้านบาท ที่ระดับ ‘AAA(tha)’/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ อันดับ loss severity ที่ ‘LS-2’ โดยมีวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้วันสุดท้ายในเดือนตุลาคม 2557
  • หุ้นกู้ชุด B มูลค่า 205 ล้านบาท ที่ระดับ ‘AA(tha)’ /แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ อันดับ loss severity ที่ ‘LS-4’ โดยมีวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้วันสุดท้ายในเดือนตุลาคม 2557

การประกาศคงอันดับเครดิตสะท้อนถึงการที่โครงการทั้ง 3 สามารถรักษาระดับส่วนช่วยสนับสนุนเครดิตของโครงการ (credit enhancement) ให้สอดคล้องกับอันดับเครดิตของหุ้นกู้แต่ละชุดได้ ถึงแม้ว่าผลการดำเนินงานของกลุ่มลูกหนี้บัตรเครดิตที่ผ่านมาได้อ่อนแอลง ฟิทช์ติดตามผลการดำเนินงานของกลุ่มลูกหนี้บัตรเครดิตจากตัวแปรหลักสามตัวได้แก่ รายได้จากกลุ่มลูกหนี้และรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย (yield and excess spread) อัตราส่วนลูกหนี้ผิดนัด (default rate) และอัตราส่วนการชำระหนี้คืนรายเดือนเมื่อเทียบกับยอดลูกหนี้ (monthly payment rate) ซึ่งนับตั้งแต่วัน closing ผลการดำเนินงานในส่วนของรายได้จากกลุ่มลูกหนี้และรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย รวมถึงอัตราส่วนลูกหนี้ผิดนัดของโครงการทั้ง 3 อยู่ในระดับที่น่าพอใจเมื่อเทียบกับสมมติฐานพื้นฐานของฟิทช์ ในขณะที่อัตราส่วนการชำระหนี้คืนรายเดือนเมื่อเทียบกับยอดลูกหนี้ของ ECC และ Eternal 3 ได้ลดลงมาต่ำกว่าระดับสมมติฐานพื้นฐานของฟิทช์ อย่างไรก็ตาม ฟิทช์มองว่าระดับส่วนช่วยสนับสนุนเครดิตและผลการดำเนินงานที่ดีในส่วนของรายได้จากกลุ่มลูกหนี้ รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายและอัตราส่วนลูกหนี้ผิดนัดของ ECC และ Eternal 3 น่าจะเพียงพอที่จะชดเชยผลการดำเนินงานที่อ่อนแอของอัตราส่วนการชำระหนี้คืนรายเดือนเมื่อเทียบกับยอดลูกหนี้ได้

แนวโน้มอันดับเครดิตของหุ้นกู้ทุกชุด (ยกเว้นหุ้นกู้ชุด C ของ Eternal 3) อยู่ที่มีเสถียรภาพ ซึ่งสะท้อนถึงการคาดการณ์ของฟิทช์ว่าส่วนช่วยสนับสนุนเครดิตของโครงการน่าจะยังอยู่ในระดับที่เพียงพอที่จะรักษาอันดับเครดิตของหุ้นกู้ในปัจจุบันได้ ถึงแม้ว่าผลการดำเนินงานในอนาคตของกลุ่มลูกหนี้บัตรเครดิตภายใต้โครงการจะได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอและความไม่แน่นอนทางการเมือง ในขณะเดียวกัน แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบสำหรับหุ้นกู้ชุด C ของ Eternal 3 บ่งชี้ถึงความกังวลของฟิทช์ต่อผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนตัวลงต่อหุ้นกู้ชุดนี้ เนื่องจากหุ้นกู้ชุด C มีความสามารถที่จะรองรับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนตัวได้น้อยกว่าเมื่อเทียบกับหุ้นกู้ชุดอื่นๆ

ณ ปัจจุบัน หุ้นกู้ชุด A-2 ของ ECC อยู่ในช่วงสะสมคืนเงินต้น โดยมีเงินจำนวน 250 ล้านบาทในบัญชีสะสมคืนเงินต้น ในขณะที่หุ้นกู้ชุดอื่นๆ ยังอยู่ในช่วงการซื้อขายสิทธิเรียกร้องเพิ่มเติม นอกจากนี้อัตราส่วนการชำระคืนเงินต้นเมื่อเทียบกับยอดลูกหนี้ (principal payment rate) ของ ECC ได้ลดลงมาอยู่ใกล้กับระดับที่ต่ำกว่า13% ซึ่งเป็นระดับที่จะเป็นเหตุให้มีการทยอยคืนเงินต้นของหุ้นกู้ก่อนครบกำหนด (early amortisation event) โดยอัตราเฉลี่ย 3 เดือนของอัตราส่วนการชำระคืนเงินต้นเมื่อเทียบกับยอดลูกหนี้ของ ECC อยู่ที่ 13.2% อย่างไรก็ตาม ฟิทช์มองว่าการเข้าสู่ช่วงทยอยคืนเงินต้นของหุ้นกู้ก่อนครบกำหนดมีแนวโน้มที่จะทำให้ส่วนช่วยสนับสนุนเครดิตเพิ่มขึ้น อันดับเครดิตไม่ได้สะท้อนถึงความน่าจะเป็นของการทยอยชำระคืนเงินต้นก่อนครบกำหนด และระดับของส่วนช่วยสนับสนุนเครดิตไม่มีผลต่อความน่าจะเป็นของการทยอยชำระคืนเงินต้นก่อนครบกำหนดดังกล่าว

โครงการทั้ง 3 ซึ่งออกหุ้นกู้ในระหว่างปี 2548 ถึง 2550 เป็นโครงการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ประเภทกลุ่มลูกหนี้บัตรเครดิตของบริษัท อิออน

ธนสินทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด มหาชน ซึ่งประกอบธุรกิจให้สินเชื่อแก่ลูกค้ารายย่อย และปัจจุบันมีอันดับเครดิตภายในประเทศอยู่ที่ ‘BBB+(tha)’/’F2(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

อันดับเครดิตของฟิทช์แสดงถึงความสามารถในการชำระดอกเบี้ยตามที่กำหนดและชำระคืนเงินต้นได้ครบภายในวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้วันสุดท้ายฟิทช์ได้มีการประกาศให้แนวโน้มอันดับเครดิตสำหรับโครงการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2551 โดยแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นตัวบ่งชี้ถึงทิศทางการเปลี่ยนแปลงของอันดับเครดิตในระยะ 1 – 2 ปีข้างหน้า ซึ่งต่างจากเครดิตพินิจ (rating watch) ที่เป็นตัวบ่งชี้ถึงการมีความเป็นไปได้ที่อันดับเครดิตจะมีการเปลี่ยนแปลงในระยะสั้นสืบเนื่องจากเหตุการณ์บางอย่าง

รายละเอียดของหลักเกณฑ์ในการจัดอันดับ loss severity อยู่ในรายงาน ‘Criteria for Structured Finance Loss Severity Ratings’ วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2552 สามารถหาได้จาก www.fitchratings.com สำหรับรายงานฉบับสมบูรณ์ของทั้ง 3 โครงการจะถูกจัดทำภายหลังและสามารถหาได้จากเว็บไซต์ของ ฟิทช์

ติดต่อ: อรวรรณ การุณกรสกุล, ประมุข มาลาสิทธิ์, Vincent Milton + 662 655 4755